'กำไร บจ.' ปี 67 ลุ้นกลับมาโต จากฐานต่ำปี 66 ไตรมาส 4 ติดลบ 40%

'กำไร บจ.' ปี 67 ลุ้นกลับมาโต จากฐานต่ำปี 66 ไตรมาส 4 ติดลบ 40%

บล.หยวนต้า รวมกำไร บจ.ปี 2566 ต่ำคาดหลัง Q4 อยู่ที่ 1.6 แสนล้าน ลดลง 40% จากหุ้นพลังงานกำไรวูบ 7.6 หมื่นล้านคาด Q1/67 ฟื้นตัวแรงจากฐานต่ำแต่ต้องลุ้นเศรษฐกิจฟื้นครึ่งปีหลังหากไม่มีเซอร์ไพรส์ EPS โตสุดภูมิภาค ด้าน ตลท.พร้อมเยียวยาปลด SP หุ้น JKN, MILL และ MILL - W7 เหตุระบบผิดพลาด

บริษัทจดทะเบียนตลาดหุ้นไทยทยอยส่งงบการเงินงวดไตรมาส 4 ปี 2566 และ ปี 2566  ซึ่งภาพรวมอย่างไม่เป็นทางการกำไร บจ. ปรับตัวลดลงต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์   โดยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย)  รวบรวมข้อมูลผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2566 อยู่ที่ 1.6 แสนล้านบาท ลดลง 40.6%  จากไตรมาสก่อนต่ำกว่าคาดที่ 2.4 แสนล้านบาท ถึง 33%  จากกลุ่มพลังงานที่กำไรสุทธิหายไป 7.6 หมื่นล้านบาท(คิดเป็น 68% ของกำไรของ SET INDEXที่หายไป)และ ลดลง 5.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน  หรือลดลง 9,800 ล้านบาท จากกลุ่มอาหารเครื่องดื่มที่กำไรสุทธิลดลงถึง 2.4 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2567  ควรฟื้นแรงจากไตรมาสก่อนด้วยฐานที่ต่ำผิดปกติจากรายการพิเศษ แต่เทียบจากปี 2566 (YoY) อาจเห็นการชะลอตัวจากฐานที่สูงราว 2.7 แสนล้านบาท ที่กำไรกลุ่มวัสดุก่อสร้าง และปิโตรเคมีโดดเด่นมาก แต่ปี 2567 จะเห็นการฟื้นตัวอย่างเร็วในครึ่งปีหลัง

กลุ่มที่คาดว่าผลประกอบการปี 2567 จะเด่น คือ ค้าปลีก ท่องเที่ยว ขนส่ง และโลจิสติกส์พลังงาน และสินค้าเกษตรโดย 3 กลุ่มแรก คาดขยายตัวสอดรับไปกับ GDPที่การบริโภคภาคเอกชน และการท่องเที่ยวยังขยายตัวดี  กลุ่มโรงไฟฟ้าแรงหนุนจากค่าไฟที่ขยับขึ้นเป็น 4.18 บาท/หน่วย

กลุ่มที่ยังมีความท้าทายคือ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ อสังหาริมทรัพย์ และไฟแนนซ์โดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนยานยนต์ ถูกกระทบจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงเร็ว, การแข่งขันที่สูงของ EV  Car ที่ทำให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนฯ ถูกกดดัน Margin, การบริหารสต็อกของลูกค้ารายใหญ่ที่ผันผวนมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวได้อย่างเร็วในช่วงครึ่งปีหลัง 2567

 

 

ส่วนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และไฟแนนซ์ที่เชื่อมโยงกับอัตราดอกเบี้ยในประเทศ จะขึ้นอยู่กับการดำเนินนโยบายการเงินของ กนง. ซึ่งคาดว่าจะเห็นการลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% อย่างเร็วในการประชุมวันที่ 12 มิ.ย.2567

ขณะที่ กลุ่มไฟแนนซ์มีปัจจัยที่ต้องติดตามเพิ่มเติมคือ ผลขาดทุนรถยึด ถ้าราคารถยนต์มือสองโดยเฉลี่ยเริ่มฟื้นตัว อาจทำให้ราคาหุ้นของกลุ่ม Bottom out ได้ ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของดัชนีรถยนต์มือสองบ้างแล้วในเดือนม.ค. อยู่ที่ 81.9 จุด  (+16% MoM )แต่เทียบปีก่อนยังติดลบหนัก 15% (YoY)

ดังนั้น บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คงประมาณการ EPS ปี 2567 ที่ 92 บาท/หุ้น และคงเป้าดัชนีที่ 1,520 จุดอิง PER Multiplier ที่ 16.5 เท่า ด้วยฐานกำไรปี 2566 ต่ำเพียง 78 บาท/หุ้น ทำให้ EPS Growth ของ ตลาดหุ้นไทยปัจจุบันเพิ่มขึ้น 18% (YoY) เมื่อเทียบกับประมาณการ และเพิ่มขึ้น 20% ( YoY) เมื่อเทียบกับ Bloomberg Consensus   ถือว่า EPS ตลาดหุ้นไทยโดดเด่นเมื่อเทียบกับ MSCI Asia ex. Japan หากผลประกอบการโดยภาพรวมไม่ถูก Downgrade เพิ่มเติมตามที่คาด จะส่งผลให้ EPS Growth ของ SET INDEX ในปีนี้โดดเด่นเป็นอันดับต้นๆ ของภูมิภาค

\'กำไร บจ.\' ปี 67 ลุ้นกลับมาโต จากฐานต่ำปี 66 ไตรมาส 4 ติดลบ 40%

นายรองรักษ์ พนาปวุฒิกุล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกฎหมาย และหัวหน้ากลุ่มงานเลขานุการองค์กร และกำกับองค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)กล่าวถึง การขยายเวลาซื้อขายหุ้นช่วงบ่ายเร็วขึ้น 30 นาที เป็น 14.00-16.30 น. เริ่ม 25 มี.ค.2567 นั้น คาดว่าจะทำให้ปริมาณการซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้น

ส่วนกรณี ปลด SP ให้ซื้อขายหุ้นจำนวน 3 หลักทรัพย์วันที่ 4 มี.ค.2567 คือ JKN, MILL และ MILL- W7 เป็นเวลา 25 นาที ตั้งแต่เปิดตลาดจนถึงเวลา 10.25 น.จึงสั่งพักการซื้อขายตามเดิม   ยอมรับว่า เกิดจากความผิดพลาดหลังเริ่มนำระบบใหม่ของแนสแด็กมาใช้เมื่อพ.ค.ปี 2566 ซึ่งได้พูดคุยกับโบรกเกอร์เพื่อทำความเข้าใจกับลูกค้าทันที และตลท.จะเยียวยาความเสียหายทุกรายการในรูปแบบ cash settlement ไม่เกินมูลค่าการซื้อขายที่จับคู่ได้ และถูกยกเลิกหรือราว 6 ล้านบาท ทั้งนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบกรมธรรม์ประกันที่มีความคุ้มครองความเสียหายดังกล่าว

โดยระบบใหม่ Multi Matching Engine หรือระบบจับคู่คำสั่ง (Matching) ซึ่งเป็นระบบของแนสแด็ก และเป็นระบบที่ดีที่ตลาดหุ้นชั้นนำระดับโลกใช้  ซึ่งยังไม่เคยเกิดปัญหาดังกล่าวมาก่อน ทาง ตลท.ได้รายงานปัญหาและคงพูดคุยกับทางแนสเด็กเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจระบบมากขึ้น

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์