หวั่นมือที่ 3 ป่วนหุ้น MGI ‘ณวัฒน์’ ยัน 10 หุ้นใหญ่อยู่ครบ มั่นใจอีเวนท์เดือนมี.ค.ปั้นรายได้โต

หวั่นมือที่ 3 ป่วนหุ้น MGI  ‘ณวัฒน์’ ยัน 10 หุ้นใหญ่อยู่ครบ  มั่นใจอีเวนท์เดือนมี.ค.ปั้นรายได้โต

บิ๊กบอส  “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” หวั่นมือที่ 3 ป่วนราคาหุ้น ยืนยันไม่แพนิกแม้ร่วงแรง ลั่นผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้ง 10 รายยังอยู่ครบ พร้อมประเมินอีเวนท์เดือนมี.ค.ช่วยปั้นรายได้โตแรง

ภายหลังจากที่ตลาดเปิดให้ทำการซื้อขายหุ้น MGI ในวันเช้าวันที่ 29 ก.พ.2567 หลังจากที่ได้หยุดทำการซื้อขายไป 1 วัน ราคาตั้งแต่เปิดตลาดหุ้นร่วงหล่นดิ่งฟลอร์ 30% จากที่ก่อนหน้านี้ตั้งแต่ไอพีโอราคาพุ่งสูงไปกว่า 1,000% หรือ เรียกได้ว่าเป็นหุ้น 10 เด้ง 

ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI เปิดเผยกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ถึงราคาที่ร่วงหล่นลงมาแรงในวันนี้ว่า ได้มีการเฝ้าสังเกตการหุ้น MGI ตั้งแต่ก่อนเปิดตลาด ซึ่งช่วงนั้นราคาอยู่ที่ระดับ 84.75 บาท และประมาณ 2 นาทีก่อนเปิดตลาดมีนักลงทุนขายออก ทำให้ราคาจากที่  84.75 บาท ร่วงลงมาอยู่ที่ 55 บาท และตลอดทั้งวันมีแรงสวิงไปมา จึงคาดว่ามีสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะเกิดจากนักเก็งกำไร 

อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่า ราคาหุ้น MGI แม้วันนี้จะปรับตัวลง แต่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ยังคงให้ความเชื่อมั่นและยังไม่ขาย โดยยังอยู่ครบทั้ง 10 ราย ซึ่งมีรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ดังนี้

1.นาย ณวัฒน์ อิสรไกรศีล จำนวน 90,000,000 หุ้น หรือ 42.86%

2.นาย รัชพล จันทรทิม จำนวน 59,999,800 หุ้น หรือ 28.57%

3.บริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) จำนวน 6,550,000 หุ้น หรือ 3.12%

4.นาย พีรเจต สุวรรณนภาศรี จำนวน 6,160,000 หุ้น หรือ 2.93%

5.นาย เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ จำนวน 2,450,000 หุ้น หรือ 1.17%

6.นาย มานิตย์ ศรายุทธิกรณ์ จำนวน 2,409,300 หุ้น หรือ 1.15%

7.นาย ขันธ์พลร์ ซื่อภาคย์ จำนวน 2,400,000 หุ้น หรือ 1.14%

8.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวน 1,969,137 หุ้น หรือ 0.94%

9.น.ส. ชาล็อต ออสติน จำนวน 1,950,000 หุ้น หรือ 0.93%

10.น.ส. อิงฟ้า วราหะ จำนวน 1,900,000 หุ้น หรือ 0.90%

ณวัฒน์ บอกต่ออีกว่า ได้มีการเฝ้าระวังหุ้นเป็นอย่างมาก ว่าจะมีมือที่ 3 เข้ามาสอดแทรกหรือมาแอบเก็บ และเข้ามาป่วนหุ้น ซึ่งตลอดระยะเวลาในการเทรดช่วงบ่าย ได้นั่งเฝ้าดูอยู่ตลอดเวลาที่พยายามเทขายออกในราคาฟลอร์ค่อนข้างมากเกือบ 2 ล้าน 

อย่างไรก็ตาม ด้วยฐานลูกค้าของ MGI ที่พยายามเข้าซื้อ ซึ่งสังเกตได้ว่า แรงซื้อกับแรงขายมีประมาณที่ 50% เท่ากัน จึงมั่นใจว่า พฤติกรรมของนักลงทุนที่เชื่อมั่นใน MGI ยังเป็นกำแพงที่แข็งแรงอยู่ 

“ส่วนตัวไม่ได้วิตกกังวลเรื่องของราคาที่ร่วงลงมา แต่ก็ไม่ต้องการให้กลุ่มใดเข้ามาหาผลประโยชน์กับรายย่อยที่มีค่อนข้างมาก”

ทั้งนี้ในช่วงเดือนมี.ค. 2567 เป็นเดือนไฮซีซั่นของ MGI เนื่องจากจะมีการประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ซึ่งจะมีกิจกรรมยาวตลอดทั้ง 1 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.2567 โดยจะมีผู้เข้าประกวดจาก 77 จังหวัด ต้องมาอยู่รวมกัน ทำกิจกรรม หารายได้ ขายของ และมีการทำอีเวนท์อีกมากมาย และคาดว่าจะมีรายได้ที่ร้อนแรงกว่าปีก่อนหน้าอีก 1 เท่าตัว