หุ้น CPAXT เปิดบวกพุ่ง 5.83% ผลงาน กำไร รายได้ ดีกว่าคาด เตรียมจ่ายปันผลอีก 0.39 บาท/หุ้น

หุ้น CPAXT เปิดบวกพุ่ง 5.83% ผลงาน กำไร รายได้ ดีกว่าคาด เตรียมจ่ายปันผลอีก 0.39 บาท/หุ้น

หุ้น CPAXT เปิดพุ่ง 5.83% หรือราคาเพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือระดับราคาอยู่ที่ 31.75 บาท หลังกวาดรายได้รวม 489,949 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% โดยมีกำไรสุทธิ 8,640 ล้านบาท เติบโต 12% เตรียมจ่ายปันผลอีก 0.39 บาท/หุ้น 29 เม.ย. 67 นี้

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคเช้าวันที่ 15 ก.พ.67 เวลา 10.00 น.หุ้น CPAXT เปิดพุ่ง 5.83% หรือราคาเพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือระดับราคาอยู่ที่ 31.75 บาท หลังกวาดรายได้รวม 489,949 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% โดยมีกำไรสุทธิ 8,640 ล้านบาท เติบโต 12%

หุ้น CPAXT เปิดบวกพุ่ง 5.83% ผลงาน กำไร รายได้ ดีกว่าคาด เตรียมจ่ายปันผลอีก 0.39 บาท/หุ้น

ณัฐ ตรีพูนสุข ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้ข้อมูลกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า หุ้น CPAXT วันนี้ปรับบวกขึ้นมาค่อนข้างมาก หลังจากที่งบการเงินออกมาค่อนข้างดี รายได้โตทั้ง QoQ และ YoY ทั้งโลตัสทั้งในไทยและมาเลเซีย รวมถึงแม็คโครรายงานออกมาดี เป็นปัจจัยหลักที่เข้ามาหนุนให้ CPAXT ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทำให้ราคาหุ้นฟื้นคืนขึ้นมาได้ค่อนข้างดี 

ทั้งนี้ หุ้น CPAXT สามารถเข้าไปเทรดดิ้งได้ แต่การเข้าไปซื้อไล่ราคายังคงต้องระมัดระวัง เนื่องจากปัจจุบันต้องยอมรับว่า ตลาดหุ้นไทยค่อนข้างเทรดได้ค่อาข้างยาก ดังนั้นหากต้องเข้าไปลงทุน แนะนำเป็นหุ้น CPALL เนื่องจาก เป็นหุ้นที่ได้รับประโยชน์จาก CPAXT เช่นกัน 

โดยมองกรอบตลาดหุ้นไทยวันนี้ (15 ก.พ.67) น่าจะปิดในโซนเขียวได้ แต่อย่างไรก็ตาม อาจจะมีการแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ ซึ่งอาจจะต้องรอการประชุมดิจิทัลวอลเลตในความชัด โดยมองกรอบไว้ที่ 1,380 - 1,390 จุด 

ธานินทร์ บูรณมานิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)

ธานินทร์ บูรณมานิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานปี 2566 ทำรายได้รวม 489,949 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 8,640 ล้านบาท โต 4% และ 12% จากปีก่อน ตามลำดับ โดยในไตรมาส 4 ปี 2566 ถือเป็นไตรมาสที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา จากปัจจัยบวกหลายด้าน อาทิ  

1) ยอดขายสาขาเดิม (Same Store Sale) และการเปิดบริการสาขาใหม่ พร้อมปรับโฉมสาขารูปแบบใหม่ที่มีต่อเนื่องทั้งปีของทั้งแม็คโคร-โลตัส  

2) การเพิ่มสัดส่วนยอดขายนอกสาขา ผ่านแอปพลิเคชัน Makro PRO, Lotus's SMART App และทีมนักขาย (B2B Salesforce) ที่เพิ่มขึ้น 38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการขยายบริการจัดส่งสินค้าได้ในวันเดียว (Same Day Delivery) 

3) สินค้าอาหารสดเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง  

4) การเพิ่มพื้นที่ให้เช่าจากการปรับพื้นที่ศูนย์การค้า

หุ้น CPAXT เปิดบวกพุ่ง 5.83% ผลงาน กำไร รายได้ ดีกว่าคาด เตรียมจ่ายปันผลอีก 0.39 บาท/หุ้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 เพื่ออนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2566 ในอัตรารวม 0.57 บาทต่อหุ้น เมื่อหักการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.18 บาทต่อหุ้นที่บริษัทฯ ได้จ่ายไปแล้ว คงเหลือเป็นเงินปันผลที่จะจ่ายอีกในอัตรา 0.39 บาทต่อหุ้น โดยขึ้นเครื่องหมาย XD 5 เม.ย. 67 และจ่ายปันผล 29 เม.ย. 2567

ด้านแผนการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทฯ และบริษัทย่อย ตั้งเป้ายอดรายได้โตต่อเนื่อง จากการขับเคลื่อนกลยุทธ์ในด้านต่างๆ

  • การขายนอกร้าน โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนยอดขายรวมเป็น 15% ภายในปีนี้ ซึ่งการขายผ่านแอปพลิเคชัน คาดว่าจะโตแบบก้าวกระโดด จากการเพิ่มความหลากหลายของสินค้า พัฒนาด้านบริการ และการขยายพื้นที่ให้บริการลูกค้าด้วยการใช้จุดแข็งของธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกที่มีสาขารวมกันกว่า 2,600 แห่งทั่วประเทศ เป็นจุดกระจายและจัดส่งสินค้า กลยุทธ์เชิงรุกที่สำคัญคือการเดินหน้าพัฒนาทีมนักขายนอกร้านกว่า 1,400 คน ที่มีความเข้าใจ เข้าถึงลูกค้า เพื่อให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการได้อย่างครอบคลุม
  • ตอกย้ำความแข็งแกร่งด้านอาหารสด ต่อยอดพัฒนาอาหารพร้อมปรุง และอาหารพร้อมทาน รวมทั้งการสรรหาสินค้าอุปโภคบริโภคที่หลากหลาย เพื่อสร้างความแตกต่างหลากหลาย พร้อมตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนยอดขายสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ (Private Label)
  • วางแผนปรับโฉมสาขา และขยายสาขาเชิงรุก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างเครือข่ายศูนย์กลางชุมชนให้เป็นศูนย์รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของคนทุกวัย โดยปีนี้เตรียมขยายในหลายรูปแบบและขนาดต่างๆ ตามกลุ่มลูกค้าแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ ในส่วนของแม็คโครวางแผนขยาย 6-8 สาขา ส่วนโลตัสเตรียมขยายสาขาใหม่ในประเทศไทยและมาเลเซียมากกว่า 100 สาขา

หุ้น CPAXT เปิดบวกพุ่ง 5.83% ผลงาน กำไร รายได้ ดีกว่าคาด เตรียมจ่ายปันผลอีก 0.39 บาท/หุ้น

นอกจากนี้ การปรับโครงสร้างภายในกลุ่มธุรกิจโดยการผนึกกำลังธุรกิจค้าส่งแม็คโคร และธุรกิจค้าปลีกโลตัส มาอยู่ภายใต้บริษัทเดียวกันนั้น ยังเป็นการนำศักยภาพของทั้ง 2 แบรนด์มาสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการกิจการและการบริหารทรัพยากร ลดความซับซ้อนของโครงสร้างการถือหุ้นและโครงสร้างองค์กรภายในกลุ่มบริษัทฯ  อีกทั้งขยายการสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น ผู้ผลิตรายย่อย และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) 

โดยขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืนครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เห็นจากผลลัพธ์การสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้ผู้คนในสังคม โดยปีที่ผ่านมามีการสร้างงานผ่านหลายมิติกว่า 90,000 ราย ด้านเกษตรกรท้องถิ่น แม็คโคร-โลตัส สนับสนุนรับซื้อผักและผลไม้จากเกษตรกรกว่า 9,800 ล้านบาท รวมทั้งจัดกิจกรรมอบรมถ่ายทอดความรู้ในการพัฒนาทักษะ เพิ่มศักยภาพให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ อีกทั้งเดินหน้าโครงการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมด้านต่างๆ อาทิ การใช้พลังงานสะอาด อาหารดีพี่ให้น้อง อาหารอิ่มสุข และกิจกรรมช่วยเหลือสังคมอีกมากมาย เรียกว่ารวมพลังแบบคูณสอง ตอกย้ำเจตนารมณ์การเป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน