ตลท. ต้อนรับ 'ธนาคารไทยเครดิต' (CREDIT) เริ่มเทรด 9 ก.พ.67 นี้

ตลท. ต้อนรับ 'ธนาคารไทยเครดิต' (CREDIT) เริ่มเทรด 9 ก.พ.67 นี้

ธนาคารไทยเครดิต มุ่งเน้นการให้บริการสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ และสินเชื่อไมโครเอสเอ็มอี ซึ่งเป็นภาคธุรกิจที่มีการเติบโตสูง พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 9 ก.พ.67 นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 35,649.39 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ ว่า “CREDIT”

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท. ยินดีต้อนรับ บมจ.ธนาคารไทยเครดิต เข้าจดทะเบียน และเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน หมวดธุรกิจธนาคาร โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “CREDIT” ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567  

ตลท. ต้อนรับ \'ธนาคารไทยเครดิต\' (CREDIT) เริ่มเทรด 9 ก.พ.67 นี้

 

CREDIT เป็นธนาคารพาณิชย์ที่มุ่งเน้นการให้บริการสินเชื่อนาโน และไมโครเครดิตเพื่อคนค้าขาย (Nano and Micro Finance) และสินเชื่อธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี (Micro SME) มายาวนานกว่า 15 ปี แก่กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย และกลุ่มคนค้าขายที่ยังไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบ ซึ่งมีจำนวนมาก และถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

ธนาคารมีทีมวิเคราะห์สินเชื่อ และบริหารความเสี่ยงที่แข็งแกร่ง ผ่านสาขาการให้บริการกว่า 527 แห่ง ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และช่องทางดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน ทำให้มีอัตราการขยายตัวของเงินให้สินเชื่อเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีคุณภาพสินเชื่อที่ดี

 

โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 มี Net Interest Margin (NIM) สูงถึง 8.76% มีจำนวนสัญญาให้สินเชื่อกว่า 370,000 บัญชี และพร้อมที่จะให้บริการด้วยผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น ภายหลังได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลังให้เป็นธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบเมื่อ 17 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา 

CREDIT มีทุนชำระแล้ว 6,146.45 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท โดยเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนรวม 254.13 ล้านหุ้น ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิมของ OCA Investment Holdings I Pte. Ltd. 189.42 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 64.71 ล้านหุ้น โดยเสนอขายให้แก่

1) บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ บุคคลที่มีความสัมพันธ์ พนักงาน และผู้มีอุปการคุณของธนาคาร ระหว่างวันที่ 23 – 26 มกราคม 2567   

2) ผู้ลงทุนสถาบัน (รวมถึงผู้ลงทุนสถาบันที่เป็น Cornerstone Investors) ที่จองซื้อในประเทศ นิติบุคคลที่สามารถเข้าร่วมการสำรวจความต้องการซื้อ และผู้ลงทุน (รวมถึงผู้ลงทุนสถาบันที่เป็น Cornerstone Investors) ที่จองซื้อในต่างประเทศ ผ่านผู้ซื้อหุ้นเบื้องต้นในต่างประเทศ (Initial Purchaser) ระหว่างวันที่ 31 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ราคาหุ้นละ 29 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 1,876.47 ล้านบาท โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 35,649.39 ล้านบาท โดยมีธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน มีบริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการ การจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญร่วม


นายวิญญู ไชยวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ธนาคารไทยเครดิต (CREDIT) เปิดเผยว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสนับสนุนให้บริษัทเติบโตตามกลยุทธ์ที่วางไว้ทั้งในเชิงธุรกิจ และการขับเคลื่อนสังคม เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาว เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการให้บริการ ไมโครไฟแนนซ์ของประเทศไทย สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้ในการขยายพอร์ตสินเชื่อ และปรับปรุงพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล (Digital Transformation) และโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Security and Infrastructure)

CREDIT มีผู้ถือหุ้น 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่

1) กลุ่มวี.ซี.สมบัติ ถือหุ้น 60.40%

2) นายวิญญู ไชยวรรณ ถือหุ้น 6.40%

3) กลุ่มนายวีรเวท ไชยวรรณ ถือหุ้น 1.90%

การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO มีการพิจารณาจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Book Building) โดยราคาที่เสนอขายคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น (Price to Book Value : P/BV) เท่ากับ 2.12 เท่า เมื่อเทียบกับมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น (Book Value Per Share) ที่ 13.70 บาทต่อหุ้น ซึ่งคำนวณจากมูลค่าตามบัญชีของธนาคาร ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดภายหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้

ทั้งนี้ ธนาคารมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลเป็นไปตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยพิจารณาจากกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย และตามที่ธนาคาร กำหนด ซึ่งไม่เกินกว่ากำไรสะสมตามงบการเงินเฉพาะกิจการ


 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์