แบงก์ตั้งสำรองเพิ่ม ‘ITD’ จนมุมเลื่อนจ่ายหนี้ นัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 17 ม.ค.

แบงก์ตั้งสำรองเพิ่ม ‘ITD’ จนมุมเลื่อนจ่ายหนี้ นัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 17 ม.ค.

แบงก์ตั้งสำรองเพิ่ม ‘ITD’ จนมุมเลื่อนจ่ายหนี้ นัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 17 ม.ค. ราคาหุ้น “กลุ่มแบงก์” ปิดตลาดร่วง นำทีมโดย “KBANK” ลง 2.94% รอง “SCB” 1.41%

วงการตลาดหุ้นกู้สะเทือนอีกครั้ง หลัง “ITD” เตรียมประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 17 ม.ค. นี้ เลื่อนไถ่ถอนไปอีก 2 ปี เพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25-0.50% “บล.ยูโอบี เคย์เฮียนฯ” ชี้เป็นการซื้อเวลา คาดธนาคารปล่อยกู้อาจต้องตั้งสำรองเพิ่ม 10-20% ด้าน "บลจ.เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์“ มอง "5 แบงก์" อาจทยอยตั้งสำรองเพิ่ม 

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยปิดตลาดเย็นวันนี้ (8 ม.ค.) ปรับตัวลงลึกสุด 14.10 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1,418.45 จุด ลดลง 9.51% ด้วยมูลค่าซื้อขาย (วอลุ่ม) 42,143.31 ล้านบาท โดยหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (แบงก์) ส่วนใหญ่ปรับตัวลงตามทิศทางดัชนีฯ หุ้นไทย รวมทั้งประเด็นกรณีที่ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ หรือ ITD เตรียมเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 17 ม.ค. นี้ เพื่อขออนุมัติเลื่อนไถ่ถอนหุ้นกู้ออกไปอีก 2 ปี และเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้อีก 0.25-0.50%

นำทีมโดย ธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL ปิดตลาด 154.50 บาท ลดลง -0.64% ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK ปิดตลาดที่ 132 บาท ลดลง -2.94% บริษัท เอสซีบี เอกซ์ หรือ SCB ปิดตลาดที่ 105 บาท ลดลง -1.41% ธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือ BAY ปิดตลาดที่ 28.25 บาท ลดลง -0.88% ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ TTB ปิดตลาดที่ 1.63 บาท ลดลง -2.40% 

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลกับกรุงเทพธุรกิจว่า กรณี ITD เตรียมเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้เพื่อขออนุมัติเลื่อนไถ่ถอนยังคงมีความเสี่ยง โดยเห็นได้ชัดจากเจ้าหนี้ใหญ่ 2 กลุ่ม คือ 1.เจ้าหนี้สถาบันการเงิน และ 2.เจ้าหนี้หุ้นกู้ โดยหุ้นกู้ที่ครบกำหนดในปีนี้มีด้วยกัน 3 ชุด รวมกันประมาณ 5,670 ล้านบาท โดยชุดแรกที่จะครบกำหนดประมาณ 2,000 ล้านบาท ถึงกำหนดชำระ 15 ก.พ. นี้ และหุ้นกู้อีก 2 ชุดรวมกันประมาณ 3,670 ล้านบาท จึงทำให้เกิดปัญหาหากมีการผิดนัดชำระหุ้นกู้ชุดใดชุดหนึ่ง จะทำให้เกิดการ Cross-Default ได้ ทั้งนี้หุ้นกู้ทั้งหมดที่ ITD มีคือประมาณ 14,555 ล้านบาท

ทั้งนี้ มองสถานการณ์ ITD ค่อนข้างเหนื่อย และเป็นการซื้อเวลามากกว่าการแก้ไขปัญหาแบบจริงจัง เนื่องจากเงินที่ขาดคือจำนวน 2,000 ล้านบาท แม้ว่าจะเป็นตัวเลขที่ไม่มาก แต่การแก้ไขปัญหาไม่ใช่แค่เงิน 2,000 ล้านบาท แต่มีจำนวนที่มากกว่านี้ที่จะเข้ามาช่วยหุ้นกู้ในชุดอื่น ๆ ด้วย

ขณะที่ ในฝั่งธนาคารพาณิชย์ที่มีการปล่อยเงินกู้ให้นั้นอาจจะต้องเผชิญกับปัญหาดังกล่าวด้วย และอาจจะมีกาตตั้งสำรองเผื่อ แต่จะเป็นการทยอยตั้งในลักษณะที่การตั้งสำรองเผื่อบางส่วนประมาณ 10-20% โดยไม่ได้เป็นการตั้งสำรองตามเกณฑ์ โดยปัญหาดังกล่าวอาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ไปกดดันผลประกอบการของหุ้นกลุ่มธนาคารได้

แม้ว่าต่อให้ผู้ถือหุ้นกู้ยอมที่จะเลื่อนกำหนดชำระหนี้แล้ว ก็อาจจะเป็นหุ้นกู้แค่ชุดที่จะครบกำหนดในปีนี้เท่านั้น แต่ในปี 2568 จะมีเงินก้อนใหญ่อีกประมาณ 6,000 ล้านบาท ฉะนั้น จึงมองว่า ITD เป็นการซื้อเวลามากกว่า

“ถ้าสามารถเลื่อนระยะเวลาไปได้ ซื้อเวลาไปได้นานมากพอ จนกระทั่งตลาดตราสารหนี้กลับมาเป็นปกติ และ ITD สามารถรีไฟแนนซ์หรือหาพาร์ตเนอร์ใหม่เข้ามา อาจจะแก้ไขสถานการณ์ได้ แต่มองว่าการคาดหวังเช่นนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะถ้าหากย้อนกลับไปดูหุ้นกู้ชุดหลัง ๆ ของ ITD หลายตัวดอกเบี้ยอยู่ที่ 5.5% ซึ่ง ITD มีกำไรขั้นต้นจากการดำเนินธุรกิจส่วนใหญ่อยู่ที่ 3-4% ทำให้ไม่สามารถไปจ่ายดอกเบี้ยได้เลย”

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างยังมีความเสี่ยงอื่น ๆ ที่เกิดจากระยะเวลาของการทำธุรกิจ เช่น การขึ้นค่าแรง หรือการที่ต้นทุนวัสดุก่อสร้างเพิ่มสูงขึ้น เพราะฉะนั้นจึงมองว่า เป็นภาวะที่เหนื่อยพอสมควรสำหรับหุ้น ITD แม้ว่าจะไม่ได้เกิดการการผิดนัดชำระหนี้ (Default) ก็ตาม ซึ่งผู้ถือหุ้นไม่มีทางเลือก อาจจะต้องยอมให้มีการเลื่อนการชำระหนี้ไปได้ ดีกว่าเป็นการบีบให้ผิดนัดชำระหนี้

ทั้งนี้ ยังไม่เห็น ITD มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างที่จะให้บริษัทกลับมาอยู่ในจุดที่จะสามารถทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอจริงจัง ณ ปัจจุบันหนี้สินของ ITD ต่อทุนอยู่ที่ประมาณ 9 เท่า ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูง หากเทียบกันกับหุ้นรับเหมาก่อสร้างอื่น ๆ

ดังนั้น มองว่า ITD มีโอกาสที่จะขออนุมัติได้แต่เป็นการซื้อเวลามากกว่าทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะการมีหนี้เยอะ ๆ แบบนี้ปัญหาที่จะเปลี่ยนได้คือต้องทำให้หนี้ลดลง และมีฐานทุนเพิ่มขึ้นไม่ว่าเป็นการเพิ่มทุน หรือการแปลงหนี้เป็นทุนก็ยังไม่สามารถทำได้ง่าย

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากกรณี ITD เตรียมจะขอผู้ถือหุ้นกู้เลื่อนจ่ายเงินต้นที่จะครบกำหนดในกลางเดือน ก.พ. นี้ ออกไปอีกอย่างน้อย 2 ปี สำหรับหุ้นกู้ทุกรุ่นโดยมองในการประชุมครั้งนี้ผู้ถือหุ้นกู้ก็คงต้องยอมไปก่อน

ขณะที่ธนาคารที่ปล่อยเงินกู้ให้กับ ITD ปัจจุบันประมาณ 4-5 แห่ง อาจจะยังมีการตั้งสำรองเพิ่มได้ และส่งผลให้ผลการดำเนินงานในไตรมาสมาสถัดไปลดลงไปด้วย ซึ่งมอง ITD อาจจะขาดสภาพคล่องระยะสั้น ซึ่งในอดีต ITD ก็เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้วในการขอเลื่อนชำระหนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง

“ยังคงต้องลุ้นว่าเจ้าหนี้จะยอม และยังคงมีความเสี่ยงอยู่ และมองว่าใน 5 แบงก์ที่มีการปล่อยเงินกู้ให้นั้นอาจจะต้องมีการตั้งสำรองเผื่อไว้ด้วย”