‘ณุศา’เลื่อน‘วินด์’เข้าเทรดปี68 เร่งเคลียร์ปม-พลิกธุรกิจกำไร

‘ณุศา’เลื่อน‘วินด์’เข้าเทรดปี68 เร่งเคลียร์ปม-พลิกธุรกิจกำไร

“ณุศา” เดินหน้าสวอปหุ้น “วินด์ เอนเนอร์ยี่” คาดยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต. และเข้าเทรดปี 68 พร้อมลุยเคลียร์ปมสารพัดปัญหา ขายสินทรัพย์ตามแผนก่อน ตั้งโต๊ะแถลงยืนยันขอมติบอร์ดขายทรัพย์สิน 6 รายการแล้วไม่ใช่การขายทั้งหมด และไม่มีการทุจริต แต่หวังพลิกฟื้นธุรกิจกลับมามี “กำไร”  

นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานกรรมการ บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA เปิดเผยว่า ยังเดินหน้าบริหารตามแผนงานบริหารทรัพย์สิน ซึ่งการขายทรัพย์สิน 6 รายการ มูลค่า 11,000 ล้านบาท กลับมาสร้างความแข็งแกร่งและการเติบโตภายในปี 2567 เพื่อดำเนินการสวอปหุ้นกับ บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH เข้าจดทะเบียนหุ้นทางอ้อม (Backdoor Listing)

โดยแผนการนำหุ้น WEH เข้าระดมทุนคาดว่าจะยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ภายในช่วงปี 2568 และน่าจะนำเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ในช่วงปลายปี 2568 ขณะนี้อยู่ระหว่างหาที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) 

อย่างไรก็ตาม บริษัทยืนยันว่า แผนการขายทรัพย์สินของบริษัทดังกล่าวเป็นการขอมติบอร์ดอย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ และไม่ใช่การขายทั้งหมดแต่เป็นการขายตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด โดยไม่มีการทุจริต แต่หวังพลิกฟื้นบริษัทให้กลับมามีกำไร 

ส่วนการซื้อโรงแรม Panacee Grand   Roemerbad ได้มีมติบอร์ดก่อน WEH เข้ามาถือหุ้น และเป็นราคาที่ผ่านการประเมินจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ซึ่งในประเด็นต่างๆเหล่านี้ บริษัทได้มีการชี้แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว 

“แม้ขณะนี้จะมีกระแสข่าวความขัดแย้งของสองกลุ่มผู้บริหารบริษัท รวมถึงปมการบริหารองค์กรที่ไม่สามารถสอดประสานกันได้ อีกทั้งฝ่ายบริหารบริษัท ถูกฟ้องร้อง เรื่องการขายทรัพย์สินต่ำกว่าราคาตลาด ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เราทำตามหลักเกณฑ์ถูกต้องครบถ้วน  เมื่อมีการกล่าวหเราในเรื่องทุจริต เป็นเรื่องที่เรายอมไม่ได้ ทำให้บริษัทและกลุ่มณุศาศิริ เสื่อมเสียชื่อเสียง และอาจจะส่งผลกระทบต่อการระดมทุนในอนาคต  ดังนั้น เราคงเคลียร์ใจกันไม่ได้ จะดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดเช่นกัน” 

ปัจจุบันบริษัทมีหนี้สินทั้งสิ้นราว 4,000 ล้านบาท เป็นหนี้สินที่ต้องชำระปี 67 ราว 2,500 ล้านบาท เป็นหนี้สินครบดีลของ บริษัท ณุศา เลเจนด์ สยาม จำกัด ราว 2,000 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระ 500 กว่าล้านบาท 

ทำให้บริษัทไม่จำเป็นต้องขายทรัพย์สินทั้ง 6 รายการดังกล่าว คาดขายทรัพย์สินเพียง 2-3 รายการเท่านั้น น่าจะเพียงพอชำระหนี้และสามารถทำให้เทิร์นอะราวนด์ได้แล้ว  และยังมีเม็ดเงินเพียงพอสร้างการเติบโตตามแผนธุรกิจปี 2567-2568 ต่อไป ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างทำแผนธุรกิจปี 2567 เพื่อเสนอบอร์ดพิจารณาในเดือน ม.ค. 2567 

นางศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด NUSA  กล่าวว่า ปีหน้ามุ่งการขายทรัพย์สิน ลดหนี้ ตั้งใจพลิกฟื้นบริษัทกลับมาอีกครั้ง และสร้างการเติบโตในระยะข้างหน้ ปัจจุบันบริษัทมีสินทรัพย์ธุรกิจอสังหาฯ สัดส่วน 70% ที่เหลือเป็นด้านธุรกิจสุขภาพและธุรกิจพลังงาน  

โดยในปีหน้าบริษัทเน้นการขยายโอกาสในธุรกิจทางด้านอสังหาริทรัพย์ เพื่อการท่องเที่ยวและสุขภาพ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ    สำหรับในประเทศจากการที่บริษัทมีที่ดินในพื้นที่คุณภาพเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการขยายธุรกิจจะเป็นรูปแบบการเซ็นสัญญากับเชนใหญ่   คาดว่าจะ 1-2 โครงการใหม่ในปีหน้า  โครงการละไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท  

ขณะนี้มีดีลที่เซ็นสัญญาแล้วคาดน่าจะปิด 1 ดีลในเดือนม.ค. 67 โครงการพื้นที่เขาใหญ่ และกลางปีหน้าคาดว่าจะปิดอีก 1 ดีล เพิ่มเติมที่ศรีราชา พัทยา และ ภูเก็ต ส่วนต่างประเทศสร้างการเติบโตทั้งในเยอรมนี และจีน ซึ่งเข้าลงทุนในประเทศดังกล่าวเป็นธุรกิจที่ไม่มีภาระหนี้สินแต่อย่างใด