BPP พุ่งเป้าเป็นมากกว่าบริษัทขายไฟฟ้า ลุยลงทุน‘ธุรกิจแวลูเชน’พลังงาน

BPP พุ่งเป้าเป็นมากกว่าบริษัทขายไฟฟ้า  ลุยลงทุน‘ธุรกิจแวลูเชน’พลังงาน

BPP พุ่งเป้าเป็นมากกว่าบริษัทขายไฟฟ้า ลุยลงทุน ‘ธุรกิจแวลูเชน’พลังงาน ตั้งงบลงทุนปีหน้า 500-700 ล้านดอลลาร์ -รายได้โตอย่างน้อย 7-10% ส่วนผลดำเนินงานปีนี้ "รายได้-กระแสเงินสด"ทะลุเป้าทำสถิติสูงสุดใหม่ หลังรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple II

ในปีนี้จะเห็นว่าบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP ขยายการลงทุนไปในธุรกิจพลังงานด้านอื่นๆมากขึ้น เช่นธุรกิจดักจับใช้ประโยชน์ และกักเก็บคาร์บอน (CCUS) ,ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน แลธุรกิจซื้อขายไฟฟ้าแก่ผู้บริโภคโดยตรงในสหรัฐฯลฯ และปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาลงทุนในธุรกิจแวลูเชนของธุรกิจพลังงานจำนวนมาก

กิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BPP ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ“กรุงเทพธุรกิจ” ว่า หากมองไปในระยะข้างหน้าบริษัทผลิตไฟฟ้า(โรงไฟฟ้า) จะมองแต่การเพิ่มเมกะวัตต์อย่างเดียวไม่ได้ เพราะในอนาคตธุรกิจผลิตไฟฟ้าจะเป็นตลาดที่เสรีมากขึ้น ทำให้บริษัทผลิตไฟฟ้าต้องทำธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อเข้าถึงผู้บริโภค จึงต้องมีความสามารถในการทำธุรกิจเกี่ยวกับรีเทล หากไม่สามารถทำได้ก็จะไม่สามารถอยู่ในแวลูเชนธุรกิจพลังงานได้

“บริษัทไฟฟ้าที่เข้าไปทำธุรกิจในตลาดไฟฟ้าเสรีในสหรัฐ เมกะวัตต์อย่างเดียวไม่พอ คุณต้องมีความสามารถในการซื้อขายไฟฟ้าต้องมีความสามารถในการทำธุรกิจอื่น เช่น รีเทล หากทำไม่ได้จะไม่สามารถอยู่ในแวลูเชนของธุรกิจพลังงานได้ และส่วนตัวมองว่าบริษัทผลิตไฟฟ้าจะเป็นบริษัทที่น่าตื่นเต้นมากๆในอนาคต"

ดังนั้นเราจึงต้องมองหาการลงทุนใหม่ที่อยู่ในแวลูเชนของธุรกิจพลังงาน  โดยมีหลากหลายธุรกิจ เพราะพลังงานที่ประชาชนใช้มีหลายรูปแบบ และการกักเก็บพลังงานก็มีหลายรูปแบบ ตรงนี้เป็นแวลูเชนที่ BPP มองว่าจะเข้าไปลงทุนอะไรเพิ่มเติมได้บ้าง  ซึ่งในปีหน้าก็จะเห็นการลงทุนใหม่ๆของบริษัท โดยจะเป็นลักษณะทั้งการเข้าไปซื้อกิจการ หรือการลงทุนพัฒนาเอง หลังจากปีนี้ได้ขยายการลงทุนไปในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน จากที่บริษัทบ้านปู เน็กซ์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ BBP ถือหุ้นสัดส่วน 50% เข้าไปซื้อหุ้น บริษัท เอส โวล์ด เอเนอร์จี้ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด (SVOLT Thailand) มีกำลังการผลิตเริ่มต้นที่ 60,000 ชุดต่อปี ซึ่งจะเริ่มส่งมอบในช่วงไตรมาสแรกปี 2567

รวมถึงธุรกิจดักจับใช้ประโยชน์ และกักเก็บคาร์บอน (CCUS) ภายใต้ชื่อโครงการ Cotton Cove ที่แหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์(“Barnett”) รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐ ผ่านบริษัท Banpu Power US Corporation (BPPUS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BPP ที่ได้ร่วมทุนกับ BKV dCarbon Ventures, LLC (BKV dCarbon) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU จัดตั้งบริษัทร่วมทุน  คือ บริษัท BKV-BPP Cotton Cove LLC (“Cotton Cove LLC”) โดยมี BPPUS ถือในสัดส่วนร้อยละ 49และ BKV dCarbon ถือในสัดส่วนร้อยละ 51  ซึ่งจะเริ่มดำเนินการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ภายในไตรมาส 4 ปี 2567

กิรณ กล่าวว่า สำหรับงบลงทุนในปี2567 บริษัทตั้งไว้ที่ 500-700 ล้านดอลลาร์ ในการลงทุนธุรกิจใหม่ๆ และหากมีดีลที่ดีและราคาเหมาะสมบริษัทสามารถที่จะกู้สถาบันการเงินเพื่อนำมาลงทุนได้ เพราะ ปัจจุบันBPP มีหนี้สินต่อทุน (D/E) เพียง 0.45 เท่า 

 สำหรับแนวโน้มรายได้ในปี2567 คาดว่าจะเติบโตอย่างน้อย 7-10%  เนื่องจากบริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ คือ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ธุรกิจกักเก็บคาร์บอน และรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple II เต็มปี จากเข้าซื้อหุ้น100% เมื่อเดือนก.ค.ปีนี้ 

 รวมถึงบริษัทจะบริหารโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ในปัจจุบันให้มีการดำเนินการที่ดี เพื่อให้สามารถสร้างกระแสเงินสดและกำไรที่ดีต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทจะมีการขยายธุรกิจโรงไฟฟ้า  ซึ่งจะเน้นลงทุนใน 8 ประเทศเดิมที่บริษัทมีการลงทุนแล้ว และขยายไปประเทศใหม่ๆ โดยตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตอีก  750- 850 เมกะวัตต์ และมั่นใจว่าปี 2568 จะมีกำลังการผลิตตามเป้าหมายที่ 5,300 เมกะวัตต์

สำหรับรายได้และการสร้างกระแสเงินสดในปีนี้เติบโตก้าวกระโดดทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ)เนื่องจาก ไตรมาส3ปี 2566 เพียงไตรมาสเดียวบริษัทสร้างกระแสเงินสดได้กว่า 7,500 ล้านบาท เพราะบริษัทรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple II (Temple II) ในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐ  ซึ่งเป็นความสามารถของทีมงานของบริษัทที่สามารถปิดดีลดังกล่าวได้ ทำให้งวด9เดือนปีนี้ บริษัทมีรายได้  22,985.42 ล้านบาท ซึ่งเกือบจะเท่ากับปี2565 ทั้งปีที่มีรายได้  25,406.65 ล้านบาท 

กิรณ กล่าวทิ้งท้ายว่า  BPP เป็นบริษัทที่สร้างกระแสเงินสดในการดำเนินงานได้ดีอย่างมาก ทำให้สามาถจ่ายเงินปันผล หรือนำไปลงทุนได้ต่อนื่องสม่ำเสมอ  และBBP เป็นส่วนหนึ่งใน อีโคซิสเต็มของ“กลุ่มบ้านปู”  และยังมีการกระจายการทำธุรกิจใน 8 ประเทศ   ซึ่งหากนักลงทุนมองหาหุ้นที่สร้างกระแสเงินสดที่ดี และมีศักยภาพการเติบโตในธุรกิจพลังงานต่อเนื่อง  BBP เป็นอีกหุ้นที่น่าสนใจลงทุน