OR กางแผนปี 67 ทุ่มงบ 2.3 หมื่นล้าน รุกธุรกิจไลฟ์สไตล์-ขยายตลาดตปท.

OR กางแผนปี 67 ทุ่มงบ 2.3 หมื่นล้าน รุกธุรกิจไลฟ์สไตล์-ขยายตลาดตปท.

OR กางแผนปี 67 ทุ่มงบลงทุนกว่า 2.3 หมื่นล้าน จาก 6.7 หมื่นล้านในช่วง 5ปีข้างหน้า รุกธุรกิจไลฟ์สไตล์ ตั้งเป้าขยายสาขา คาเฟ่อเมซอน และเจรจาร่วมลงทุนธุรกิจใหม่ ด้านสุขภาพและความงาม -ขยายตลาดในกัมพูชา มองราคาน้ำมันปีหน้ายังทรงตัวที่ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มีกำไรเป็นบวกได้

นางสาววิไลวรรณ กาญจนกันติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านบริหารการเงิน บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจในปี 2567  โออาร์เป็นธุรกิจค้าปลีก ยังมองว่ามีการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจไลฟ์สไตล์ เมื่อเศรษฐกิจกลับมาเติบโตโดยเฉพาะในต่างจังหวัด ทั้งการขยายสาขาคาเฟ่อเมซอน และการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี ให้มีต้นทุนต่ำ แม้เศรษฐกิจโดยรวมทั้งในและต่างประเทศจะโตไม่ได้อย่างที่คาด ส่วนราคาน้ำมันดิบปีหน้า คาดทรงตัวระดับสูงที่ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่ยังสามารถมีกำไรที่น่าพอใจ

ทางด้านงบลงทุนปี 2567 วางไว้ที่ 23,000 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนของ Mobility 8,800 ล้านบาท ขยายสถานีบริการราว 100 แห่ง และ EV station 550 แห่ง ทั้งในและนอกสถานีบริการน้ำมัน

ในส่วนธุรกิจไลฟ์สไตล์ 10,000 ล้านบาท ตั้งเป้าขยายคาเฟ่อเมซอน 300 สาขา ขยายโรงคั่วเพื่อเพิ่มซัพพลายรองรับดีมานด์ในอนาคต และมีโอกาสซื้อกิจการทั้งธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม และความงาม เข้ามา ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจา

OR กางแผนปี 67 ทุ่มงบ 2.3 หมื่นล้าน รุกธุรกิจไลฟ์สไตล์-ขยายตลาดตปท.

ธุรกิจโกลเบิล มูลค่า 2,100 ล้านบาท ขยายสาขาในต่างประเทศ ทั้งคาเฟ่อเมเซนและสถานีบริการน้ำมัน เป็นเคเฟ่อเมซอน ใหม่ 50 แห่งและสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ใหม่ราว 30แห่ง 

โดยเฉพาะในกัมพูชา มุ่งเน้นพยายามสร้างรากฐานอินฟราสตักเจอร์ของโออาร์ให้ครบวงจรแข็งแรงก่อน เพื่อนำธุรกิจใหม่ๆ เข้ามากขึ้นในอนาคต เช่นธุรกิจ LPG ที่มีกำไรสูงและประสบความสำเร็จอย่างมากในไทยขยายไปยังกัมพูชาที่มีความต้องการใช้สูงอยู่แล้ว

ธุรกิจโออาร์อินโนเวชั่น มูลค่า 2,100 ล้านบาท มุ่งลงทุนกับเวนเจอร์แคปปิตอล เพื่อลงทุนธุรกิจใหม่ๆ ที่จะนำมาต่อยอดกับธุรกิจปัจจุบันของโออาร์ พร้อมกับมุ่งพัฒนาแพลตฟอร์ม xplore เชื่อมต่อลูกค้าที่อยู่บบนออนไลน์มาออฟไลน์มากขึ้น ขยายฐานผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันแล้ว 2.8 ล้านคน รวมทั้งใช้เดต้าพัฒนาสินค้าและบริการตอบสนองผู้บริโภคและนำมาใช้ประโยชน์เพื่อสร้างให้เกิดรายได้อย่างมีนัยสำคัญในระยะข้างหน้า

    

ทางด้านส่วนผลประกอบการไตรมาส 4 ปีนี้ นางสาววิไลวรรณ กล่าวว่า บริษัทคาดเป็นไปตามแผนการเติบโตทั้งธุรกิจ Lifestyles ที่จะรักษา EBITDA margin ระดับสูงที่ 25% ขณะที่กำไรในธุรกิจ Mobility อยู่ในช่วงที่เหมาะสม ธุรกิจจัดจำหน่ายน้ำมันอากาศยานกลับมาเติบโตจากภาคท่องเที่ยว ทำให้ปีนี้จะมีผลประกอบการที่ดี

ทั้งนี้ได้ประกาศแผนลงทุน 5 ปี (ปั2567-2571) วงเงินรวม 6.7 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่ยังเน้นลงทุนในธุรกิจหลักอย่าง Mobility 54% ธุรกิจด้านไลฟ์สไตล์และนวัตกรรม 35% ลงทุนต่างประเทศ 12% โดยมุ่งหวังสร้างการเติบโตจากธุรกิจไลฟ์สไตล์ซึ่งมีอัตราผลกำไรค่อนข้างสูง มองระยะยาว 6-7 ปีข้างหน้า จะเพิ่มสัดส่วน EBITDA เป็น 50% Mobility ที่ 30% (จากปัจจุบัน 70%) และอีก 20% จากการลงทุนต่างประเทศ