เปิดเบื้องลึก 5 กรรมการบอร์ด JKN ตัดสินใจ ‘แยกทาง’

เปิดเบื้องลึก 5 กรรมการบอร์ด JKN ตัดสินใจ ‘แยกทาง’

เปิดเบื้องลึก “5 กรรมการบอร์ด” JKN แยกทาง เหตุไม่เห็นด้วย “ผู้ถือหุ้นใหญ่” เลือกยื่นฟื้นฟูกิจการ เพราะมองเป็นการกระทำส่อ “ไม่ปกติ” และ “ไม่มีธรรมาภิบาล” ที่ดี ซึ่งอาจจะทำโดย “ไม่สุจริตใจ” ทำให้มีข้อสงสัยในการทำธุรกิจ !!

นับตั้งแต่ บมจ. เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป หรือ JKN ช็อกนักลงทุนในตลาดหุ้นไทย ด้วยการแจ้งผ่านตลาดหลักแห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ย.2566 ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางภายใต้พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 (รวมที่แก้ไขเพิ่มเติม) และเมื่อวันที่ 9 พ.ย.2566 ศาลล้มละลายกลางมี “คำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ” ของบริษัทแล้ว โดยศาลล้มละลายกลางได้กำหนดวันไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการในวันที่ 29 ม.ค.2567

              ทำให้นักลงทุนต่างจับตามองตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2566 และงวด 9 เดือน จะออกมาเป็นเช่นไร ?! จะเหมือน หุ้นมหากาพย์กลโกง อย่าง บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ที่พลิกจาก “กำไรสุทธิ” กลายเป็น “ขาดทุน” และจะมีความเคลื่อนไหวจากผู้สอบบัญชีตามมาด้วยหรือไม่...

             และแล้ว ! งบการเงินของ JKN ก็สร้างความงงงวยให้นักลงทุนได้ไม่เบา เมื่อประกาศงบการเงินไตรมาส 3 ปี 66 ออกมาไม่ขาดทุน แต่กลับมีกำไรสุทธิกว่า 19.75 ล้านบาท ลดลง 76.74% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 84.94 ล้านบาท ด้านงวด 9 เดือน อยู่ที่ 141.23 ล้านบาท ลดลง 19.51%  แต่แล้วเหตุใด JKN ถึงขอยื่นฟื้นฟูกิจการในเมื่อบริษัทยังมีกำไร !!  

แต่ที่เป็นไปตามคาด ! คือ หลังงบไตรมาส 3 และ 9 เดือนปี 2566 เฉลยออกมาแล้ว ! สิ่งที่ตามมามีรายงาน “ผู้สอบบัญชี” กรณีไม่ให้ข้อสรุปต่อข้อมูลทางการเงินตามออกมา และตามมาด้วยการประกาศลาออกของกรรมการบริษัท (บอร์ด) บริหารอีก 5 คน ประกอบด้วย

1. พลเรือเอกอภิชาติ เพ็งศรีทอง ลาออกจากตำแหน่งกรรมการอิสระ และประธานกรรมการ เนื่องจาก ปัญหาด้านสุขภาพ มีผลตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. 2566 เป็นต้นไป

2. นางสาวอนงค์ พานิชเจริญนาน ลาออกจากตำแหน่งกรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ เนื่องจาก ติดภารกิจส่วนตัว มีผลตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. 2566 เป็นต้นไป

3. นายสุรชัย ชมภูไพสร ลาออกจากตำแหน่งกรรมการอิสระ ประธานกรรมการตรวจสอบ กรรมการบริหาร ความเสี่ยง และประธานกรรมการสรรหา และกำหนดค่าตอบแทน เนื่องจาก ติดภารกิจส่วนตัว มีผลตั้งแต่ วันที่ 10 พ.ย.2566 เป็นต้นไป

4. นายยุทธพงศ์ มา ลาออกจากตำแหน่งกรรมการ เนื่องจาก นายยุทธพงศ์ มา ไม่ได้รับเชิญให้เข้าประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 10/2566 เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2566 ซึ่งได้มีมติให้บริษัทยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง และมีความกังวลต่อทิศทาง และกลยุทธ์การแก้ไขปัญหาสภาพคล่อง และความไม่แน่นอนของการทำธุรกิจในอนาคตของบริษัท มีผลตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย.2566 เป็นต้นไป

และ 5. นายเอกภิสิทธ์ สุทธิกุลพานิช ลาออกจากตำแหน่งกรรมการ เนื่องจาก นายเอกภิสิทธ์ สุทธิกุลพานิช ไม่ได้รับเชิญให้เข้าประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 10/2566 เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2566 ซึ่งได้มีมติให้บริษัทยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง และมีความกังวลต่อทิศทาง และกลยุทธ์การแก้ไข ปัญหาสภาพคล่องและความไม่แน่นอนของการทำธุรกิจในอนาคตของบริษัท มีผลตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย.2566 เป็นต้นไป

             การประกาศลาออกของ 5 กรรมการบอร์ดครั้งนี้ ! คนวงในตลาดทุนหลุดออกมาว่า “เกิดจากความไม่พอใจ” ของทั้ง 5 กรรมการบอร์ดที่เป็นฝั่งของเจ้าหนี้ JKN หลัง “ผู้ถือหุ้นใหญ่” อย่าง แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ตัดสินใจเลือกเดินเข้าสู่กระบวนการยื่นของฟื้นฟูกิจการ !!  เพราะทั้ง 5 กรรมการบอร์ดมองเป็นการกระทำส่อ “ไม่ปกติ”  และ “ไม่มีธรรมาภิบาลที่ดี” ซึ่งอาจจะทำโดย “ไม่สุจริตใจ” ทำให้มีข้อสงสัยในการทำธุรกิจของครอบครัว !!

และในที่สุด ! เช้าวันที่ 15 พ.ย.66 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ประกาศ ขึ้นเครื่องหมาย SP หรือสั่งห้ามซื้อขายหุ้น JKN วันที่ 15 พ.ย.66 และขึ้นเครื่องหมาย NP ตั้งแต่ 16 พ.ย.66 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยให้เหตุผลว่า ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็น/ไม่ให้ความเชื่อมั่นต่องบการเงิน ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อาจสั่งแก้งบได้

แม้หลักใหญ่ใจความสำคัญของการขอฟื้นฟูกิจการของ JKN ครั้งนี้ ! คือ ต้องการแก้ไขปัญหาสภาพคล่องภายในบริษัท แต่การกระทำดังกล่าวทำให้มีเหตุให้สงสัยมากมาย หลังก่อนหน้านี้ส่อแววระส่ำ ตั้งแต่ขอเลื่อนผู้ถือหุ้นกู้ชำระดอกเบี้ยตั้งแต่ปลายเดือนส.ค.ที่ผ่านมาแล้ว

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์