OSP ไตรมาส 3/66 กำไร 642 ล้าน โต 163% ‘กลุ่มเครื่องดื่ม - ของใช้ส่วนบุคคล’ หนุน

OSP ไตรมาส 3/66 กำไร 642 ล้าน โต 163% ‘กลุ่มเครื่องดื่ม - ของใช้ส่วนบุคคล’ หนุน

OSP เผยไตรมาส 3 ปี 66 กำไรสุทธิ 642 ล้านบาท เติบโต 163% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หลังธุรกิจในประเทศทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลหนุน

             บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP รายงานผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ผลดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2566 มีกำไรสุทธิ 642.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 163% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 243.84 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 1,969.40 ล้านบาท  เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,597.21 ล้านบาท

สาเหตุจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจในประเทศทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล รวมถึงการขยายตัวของอัตรากำไรขั้นต้นจากการปรับตัวลดลงของต้นทุนสินค้าโภคภัณฑ์ และพลังงาน การเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต ตลอดจนการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการขาย และจัดจำหน่ายได้ดีสามารถช่วยชดเชยยอดขายที่หดตัวตามฤดูกาลของธุรกิจในต่างประเทศ

นอกจากนี้ ในไตรมาส 3 ปี 66 บริษัทรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของบริษัทร่วม และการร่วมค้าจำนวน 51 ล้านบาท ลดลง 34.6% YoY แต่เพิ่มขึ้น 279.2% QoQ ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 66 อยู่ที่ 10.2% เพิ่มขึ้น 6.3% YoY และเพิ่มขึ้น 2.0% QoQ

ทั้งนี้ ในไตรมาส 3 ปี 66 บริษัทมีรายการพิเศษจากการปรับโครงสร้างทางธุรกิจโดยรวม เพื่อมุ่งเน้นการขยายธุรกิจหลัก (Core Businesses) ที่บริษัทสามารถใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบทางการแข่งขัน (Competitive Advantage) ควบคู่กับการพิจารณาจำหน่ายเงินลงทุนในธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก (Non-Core Businesses) หริอเงินลงทุนที่โอสถสภามีสัดส่วนการถือหุ้นส่วนน้อยหรือไม่มีอำนาจควบคุมซึ่งหากไม่ร่วมรายการพิเศษดังกล่าว กำไรสุทธิของบริษัทยังคงเติบโตทั้ง YoY และ QoQ

ขณะที่ มีรายได้จากการขายสำหรับไตรมาส 3 ปี 66 อยู่ที่ 6,277 ล้านบาท เติบโต 1.6% YoY แต่ลดลง 6.4% QoQ โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มในประเทศเติบโต 5.1% YoY และ 3.3% QoQ จากทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลัง และเครื่องดื่ม Functional drinks ที่เติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน

แม้สภาพตลาดอยู่ในช่วงอ่อนตัวตามฤดูกาล (Low Season) และกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ 7.0% YoY และ 14.4% QoQ ในขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มในต่างประเทศอ่อนตัว QoQ จากปัจจัยทางด้านฤดูกาลในเมียนมาแต่หดตัวน้อยกว่าที่คาดทำให้เติบโต 1.4% YoY

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์