โบรกเตือนคริปโท‘เสี่ยงสูง’ มองไตรมาส 3 / 66 ผลประกอบการยังส่อแววแย่

โบรกเตือนคริปโท‘เสี่ยงสูง’  มองไตรมาส 3 / 66 ผลประกอบการยังส่อแววแย่

“หุ้นกลุ่มบิตคอยน์” พุ่งแรง หลังราคาทำ “จุดสูงสุด” ในรอบ 18 เดือน แตะ 34,942 ดอลลาร์ “บล.หยวนต้า” เตือนนักลงทุนสายเสี่ยงเข้าเก็งกำไร ระวังผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 66 เหตุตัวเลขยังออกมาแย่ “บล.เอเซียพลัส” มองราคายังเหวี่ยงแรง แนะนักลงทุนดูความเสี่ยงก่อนผลตอบแทน

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น “กลุ่มธุรกิจเกี่ยวกับบิตคอย์” วานนี้ (24 ต.ค.2566) พบว่า ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อนแรง หลังบิตคอยน์ปรับตัวขึ้นสูงสุด (นิวไฮ) ในรอบ 18 เดือน มาอยู่ที่ 34,942 ดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้น 11.13% (ณ เวลา 9.45 น. วานนี้) นำทีมโดย บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นสูงสุดของวันอยู่ที่ 35 บาท ก่อนเคลื่อนไหวมาปิดที่ 33.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.35% 

บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG ราคาหุ้นปรับขึ้นสูงสุดของวันอยู่ที่ 1.07 บาท ก่อนเคลื่อนไหวมาปิดตลาดที่ 1.04 หรือ เพิ่มขึ้น 2.97%

บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ZIGA ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นสูงสุดของวันอยู่ที่ 2.40 บาท ก่อนเคลื่อนไหวมาปิดตลาดที่ 2.26 บาท หรือ เพิ่มขึ้น 7.62% 

โบรกเตือนคริปโท‘เสี่ยงสูง’  มองไตรมาส 3 / 66 ผลประกอบการยังส่อแววแย่

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า(ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นกลุ่มธุรกิจเกี่ยวข้องกับบิตคอยน์ปรับตัวขึ้น มาจากแรงเก็งกำไรเข้ามาตามราคาสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะบิตคอยน์ขยับขึ้นทะลุ 30,000 ดอลลาร์ หรือ 1 ล้านบาทได้อีกครั้ง หลังจากมีข่าวสปอร์ตบิตคอยน์ อีทีเอฟ ของสหรัฐอาจจะได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการ หากได้รับอนุมัติจริงจะทำให้กองทุนเข้าลงทุนในสปอร์ตบิตคอยน์ อีทีเอฟ ของสหรัฐ ส่งผลให้ราคาบิตคอยน์ขึ้นแรง

อย่างไรก็ตาม มีมุมมองว่าแม้ว่าราคาบิตคอยน์ปรับตัวขึ้นมาแรงก็จริง แต่เป็นการปรับตัวขึ้นรับข่าวแค่ในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมาเท่านั้น แต่ในส่วนของธุรกิจยังมีปัจจัยในเชิงของผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2566 ของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล ที่อาจไม่ได้สอดคล้องกัน

โดยคาดว่าผลการดำเนินกลุ่มธุรกิจดังกล่าว ยังคงเห็นผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2566 น่าจะยังออกมาไม่ดี เพราะว่าราคาบิตคอยน์ปิด ณ เดือนก.ย. 2566 สิ้นไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 27,000 ดอลลาร์ ยังต่ำกว่าเมื่อเทียบกับ ราคาบิตคอยน์ปิด ณ เดือนมิ.ย. สิ้นไตรมาส 2 ปี 2566 อยู่ที่ 30,000 ดอลลาร์ และหากเทียบกับปีก่อนที่ราคาหุ้นกลุ่มนี้ปรับตัวขึ้นแรงพบว่าราคาบิตคอยน์อยู่ที่ระดับ 60,000 ดอลลาร์ แต่ปัจจุบันราคาบิตคอนย์ยังขึ้นมาได้เพียง32,000เท่านั้น 

ดังนั้น ยังคงแนะว่านักลงทุนควรใช้ความระวังระหวังในการเข้ามาเก็งกำไรหุ้นกลุ่มดังกล่าว ซึ่งสามารถเทรดดิ้งระสั้นเท่านั้น เพราะเมื่อผลประกอบการไตรมาส 3 ปี2566 ของธุรกิจกลุ่มดังกล่าวประกาศออกมา หากไม่ดี มีความเสี่ยงราคาหุ้นกลุ่มนี้ปรับตัวลงแรงและเร็วได้ 

“มองว่าหากนักลงทุนต้องการเข้าเก็งกำไรจากกระแสข่าวราคาบิตคอนย์ปรับตัวขึ้นแรง ไม่น่าเข้ามาเก็งกำไรหุ้นที่มีธุรกิจเกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล มีความเสี่ยงมากกว่า เข้าลงทุนบิตคอนย์โดยตรง และนักลงทุนควรใช้บทเรียนความเจ็บปวดในปีที่แล้วตัดสินใจให้ดีก่อนลงทุน” 

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า จากกรณีที่ราคาหุ้นกลุ่มธุรกิจเกี่ยวสินทรัพย์ดิจิทัลปรับตัวขึ้นมาร้อนแรงวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามกระแสการเข้าเก็งกำไรกลุ่มสินทรัพย์เสี่ยงดังกล่าว หลังรับข่าวราคาบิตคอยน์ปรับตัวขึ้นแรงในช่วงที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม มีมุมมองว่าหุ้นกลุ่มสินทรัพย์ดิจิทัล (บิตคอยน์) ยังมีราคาผันผวนแรงอยู่แล้ว   

ดังนั้น เตือนนักลงทุนที่เข้าเก็งกำไรหุ้นกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล ควรต้องใช้ความระมัดระวัง และพิจารณาความเสี่ยงให้รอบคอบมาก่อนผลตอบแทน (รีเทิร์น) ที่ร้อนแรง