ดาวโจนส์ทะยานกว่า 300 จุด คาดผลประกอบการบ.จดทะเบียนแข็งแกร่งหนุน

ดาวโจนส์ทะยานกว่า 300 จุด คาดผลประกอบการบ.จดทะเบียนแข็งแกร่งหนุน

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันจันทร์(16ต.ค.)ปรับตัวขึ้นกว่า 300 จุด ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 314.25 จุด หรือ 0.93% ปิดที่ 33,984.54 จุด
  • ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 45.85 จุด หรือ 1.06% ปิดที่ 4,373.63 จุด
  • ดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 160.75 จุด หรือ 1.20% ปิดที่ 13,567.98 จุด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 314.25 จุด หรือ 0.93% ปิดที่ 33,984.54 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 45.85 จุด หรือ 1.06% ปิดที่ 4,373.63 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 160.75 จุด หรือ 1.20% ปิดที่ 13,567.98 จุด

แบงก์ ออฟ อเมริกา, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, เน็ตฟลิกซ์ และเทสลาจะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ หลังการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ตลาดได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะเพิ่มกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ

นอกจากนี้ การร่วงลงของราคาน้ำมันช่วยให้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ

นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์ก (Economic Club of New York) ในวันพฤหัสบดีนี้

นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวลเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สูงกว่าคาด รวมทั้งตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง

การกล่าวสุนทรพจน์ดังกล่าว ถือเป็นการแสดงความเห็นของนายพาวเวลเป็นครั้งสุดท้าย ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดจะเริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ในวันเสาร์นี้ ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.

ทั้งนี้ กฎระเบียบของเฟดได้ระบุห้ามเจ้าหน้าที่เฟดแสดงความเห็นต่อสาธารณะ หรือให้สัมภาษณ์ในช่วง Blackout Period เกี่ยวกับนโยบายการเงิน โดยเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่สองก่อนที่การประชุม FOMC จะเริ่มขึ้น และสิ้นสุดในวันพฤหัสบดีหลังการประชุม FOMC

นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส โดยคาดว่ากองทัพอิสราเอลจะเปิดฉากโจมตีภาคพื้นดินต่อฉนวนกาซาในไม่ช้า

นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการทำสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส

"เรากำลังจับตาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความขัดแย้งดังกล่าว แต่ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่าเหตุการณ์นี้จะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ โดยจะขึ้นอยู่กับว่าความขัดแย้งจะลุกลามออกนอกอิสราเอลและกาซาหรือไม่ ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่เราต้องการหลีกเลี่ยง" นางเยลเลน กล่าว