เจาะลึกลงทุน ‘หุ้นเทคโนโลยี’ ไทย ระยะยาวสร้างรีเทิร์นเด่น

เจาะลึกลงทุน ‘หุ้นเทคโนโลยี’ ไทย  ระยะยาวสร้างรีเทิร์นเด่น

อุตสาหกรรม “หุ้นเทคโนโลยี” Technology Industry คือ กลุ่มอุตสาหกรรมที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นสินค้าขั้นต้นขั้นกลาง หรือขั้นสุดท้าย และรวมถึงผู้ให้บริการทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

ต้องยอมรับว่าตลาดหุ้นไทยมีบริษัทที่มีเทคโนโลยีเป็นของตัวเองน้อย ทำให้การลงทุนในบริษัทต่างประเทศที่ทำเกี่ยวกับเทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเป็นความท้าทายของตลาดทุนไทยในการสร้างแผนดำเนินธุรกิจในด้านเทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็นดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ (AI )และ รถยนต์ไฟฟ้า (EV)หรือเซมิคอนดักเตอร์

กิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ  บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้ว่าประเทศไทยไม่มีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ชัดเจน แต่หุ้นเทคที่มีความน่าสนใจคือกลุ่ม “อิเล็กทรอนิกส์” และ “สื่อสาร” ที่ยังมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องและมีความเคลื่อนไหวที่โดดเด่นเติบโตตามหุ้นเทคในต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา 

 

โดยมาร์เก็ตปแคปของหุ้นเทคในขณะนี้เติบโตขึ้นประมาณ 40% มาอยู่ที่ประมาณ 3.8 ล้านล้านบาทในขณะนี้ จากเดือนช่วงเดือน ก.ค. ที่มีอยู่ 2.7 ล้านล้านบาท 

สำหรับกลุ่ม “อิเล็กทรอนิกส์”ราคาหุ้นกลุ่มนี้มีราคาปรับขึ้นไปมากแล้ว แม้ว่าจะได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า 

แต่สำหรับหุ้น“สื่อสาร” อยู่ในจุดที่น่าสนใจ ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2566 และไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ซึ่งเป็นไฮซีซันของธุรกิจ ที่คาดว่าผลประกอบการจะมีแนวโน้มดีขึ้น รวมทั้งได้ปัจจัยหนุนจากนโยบายลดต้นทุนค่าไฟฟ้าของรัฐบาล

โดยมองหุ้นที่น่าสนใจในกลุ่มสื่อสาร คือ ADVANC ที่ไม่ได้มีการเติบโตหวือหวาแต่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง  และหุ้น TRUE สำหรับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ ยังถือว่าเป็นหนึ่งในหุ้นที่น่าติดตามผลการดำเนินงานหลังจากที่เสร็จสิ้นการควบรวมกิจการ

เจาะลึกลงทุน ‘หุ้นเทคโนโลยี’ ไทย  ระยะยาวสร้างรีเทิร์นเด่น

ในส่วนของหุ้นกลุ่มของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี (TECH) แบ่งเป็น 2 หมวดธุรกิจ ที่อยู่ในตลาด SET ซึ่งประกอบไปด้วยหุ้นจำนวน 42 บริษัท ตามการจัดจำแนกของทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 

กลุ่มที่ 1 หมวดธุรกิจ Electronic Components (ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์) โดยมีส่วนแบ่งที่ 57.4% คือ ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในเครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยทั่วไป เช่น IC, PCB และ Semiconductor ยกเว้น ชิ้นส่วนที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้เฉพาะในคอมพิวเตอร์  ซึ่งหุ้นที่มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับที่ 1 ในชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ก็คือ DELTA ที่มีสัดส่วนกว่า51.8%ตามด้วยHANAและ KCE ที่ 27.5%และ19.2% ในอันดับที่ 2 และ 3

กลุ่มที่ 2 หมวดธุรกิจ Information & Communication Technology (เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร) โดยมีส่วนแบ่งที่  42.5% ตามลำดับ  ซึ่งหุ้นที่มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับที่ 1 ของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารนั้น คือหุ้น JMART ที่31.6% ตามด้วย ADVANC และ SKY ที่ 26.2% และ 9.9%

รัฐศรัณย์ ธนไพศาลกิจ ผู้อำนวยการอาวุโส หัวหน้าฝ่ายหลักทรัพย์ต่างประเทศและฟิวเจอร์ส บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความน่าสนใจของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี คือ 1. ในระยะยาวสามารถสร้างผลตอบแทนได้ในระดับที่ดีมากและเหนือดัชนีหุ้นอื่น ๆ

2. เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มและโอกาสเติบโตสูง ยิ่งเทคโนโลยีพัฒนาอย่างรวดเร็วและมีประโยชน์ต่อชีวิตประจำวันมากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตของกลุ่มธุรกิจนี้ได้ดีมากยิ่งขึ้นในอนาคต

3. แนวโน้มการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมกำลังเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อการเติบโตของ Green Technology หรือเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งหุ้นในกลุ่มเหล่านี้มักจะได้การสนับสนุนจากภาครัฐในหลายๆด้าน เช่น เทคโนโลยีที่ใช้พลังงานสะอาด เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ดังนั้นจึงเป็นกลุ่มที่น่าติดตามในอนาคตต่อไป

ทั้งนี้หากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในเดือน พ.ย. หลังจากที่ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่ระดับ 5.25-5.50% ตามการคาดการณ์ของตลาด จะเป็นการลดแรงกดดันให้กับราคาหุ้นเทคโนโลยีในต่างประเทศ และเป็นช่วงที่ดีในการลงทุนหุ้นเทคโนโลยีในเดือนพ.ย.ด้วย จากคาดการณ์ถึงผลประกอบการทั้งกำไรและรายได้ในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง