ดาวโจนส์ปิดแดนลบในกรอบแคบ นลท.คาดเฟดคงดอกเบี้ยขาขึ้น

ดาวโจนส์ปิดแดนลบในกรอบแคบ นลท.คาดเฟดคงดอกเบี้ยขาขึ้น

ดาวโจนส์ปิดแดนลบในกรอบแคบ ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยระดับสูงเป็นเวลานาน และแม้ว่าสภาคองเกรสสามารถบรรลุข้อตกลงในการผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 74.15 จุด หรือ 0.22% ปิดที่ 33,433.35 จุด
  • ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้่น 0.19 จุด หรือ 0.34% ปิดที่ 4,288.39 จุด
  • ดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 88.45 จุด หรือ 0.67% ปิดที่ 13,307.77 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันจันทร์(2ต.ค.)ปรับตัวลงในกรอบแคบ  ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าเฟดจะคงดอกเบี้ยระดับสูงเป็นเวลานาน และแม้ว่าสภาคองเกรสสามารถบรรลุข้อตกลงในการผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว และส่งต่อให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามเป็นกฎหมายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งช่วยให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 74.15 จุด หรือ 0.22% ปิดที่ 33,433.35 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้่น 0.19 จุด หรือ 0.34% ปิดที่ 4,288.39 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 88.45 จุด หรือ 0.67% ปิดที่ 13,307.77 จุด

นอกจากนี้ ตลาดถูกกดดันจากการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในวันนี้

ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนมองว่าข้อตกลงในการผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวดังกล่าว เป็นเพียงการซื้อเวลาต่อไปอีก 45 วันของสภาคองเกรส ขณะที่พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันยังคงมีความขัดแย้งกันในหลายประเด็น ซึ่งรวมถึงการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดน และการให้ความช่วยเหลือทางทหารต่อยูเครน

หากสภาคองเกรสยังคงไม่สามารถเจรจาแก้ไขประเด็นความขัดแย้งดังกล่าวเพื่อให้มีการจัดทำงบประมาณระยะยาวได้ทันวันที่ 17 พ.ย. สหรัฐก็จะเผชิญการชัตดาวน์อีกครั้ง

ด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

"เรายังคงถูกกระทบจากการแพร่ระบาด ทำให้เกิดการขาดแคลนแรงงานในธุรกิจดูแลสุขภาพ รวมทั้งมีความยากลำบากในการเข้าถึงการดูแลเด็ก และในประเด็นต่างๆ ซึ่งเกิดจากวิกฤตสุขภาพ" นายพาวเวลกล่าวต่อกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อยในเมืองยอร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย

อย่างไรก็ดี นายพาวเวลไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงินแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ตลาดจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 163,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. จากระดับ 187,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะปรับตัวลงสู่ระดับ 3.7% จากระดับ 3.8% ในเดือนส.ค.