10 หุ้นโรงไฟฟ้า ตั้งแต่รัฐบาล ‘เศรษฐา’ ลดค่าไฟ มาร์เก็ตแคปวูบรวม 1.09 แสนลบ.

10 หุ้นโรงไฟฟ้า ตั้งแต่รัฐบาล ‘เศรษฐา’ ลดค่าไฟ มาร์เก็ตแคปวูบรวม 1.09 แสนลบ.

สำรวจ 10 หุ้นโรงไฟฟ้า ตั้งแต่รัฐบาล ‘เศรษฐา’ ลดค่าไฟ มาร์เก็ตแคปวูบรวม 1.09 แสนล้านบาท (ตั้งแต่ต้นเดือนก.ย. - 25 ก.ย.66) EA มาร์เก็ตแคปหายไปมากสุด 35,435 ล้านบาท

หุ้นโรงไฟฟ้าจัดเป็นกลุ่มหุ้นที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุน ด้วยจำนวนหุ้นที่มีให้เลือกลงทุนหลากหลาย และมีจุดเด่นในเรื่องความมั่นคง ผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง และไม่ค่อยผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจมากนัก 

แต่หลังจากที่รัฐบาล ‘เศรษฐา’ เดินเกมแรง เร็ว ปรับลดค่าไฟ แม้จะเป็นผลดีต่อผู้บริโภค แต่ทว่ากลับส่งผลกระทบกับหุ้นโรงไฟฟ้าที่ถูกเทขายและพร้อมใจกันปรับราคาลงอย่างมีนัยยะสำคัญ

ประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด ให้ข้อมูลกับกรุงเทพธุรกิจว่า หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าหลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายปรับลดค่าไฟลงส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวร่วงลงมาต่อเนื่อง และหลังจากนี้รัฐบาลจะมีการปรับลดค่า ค่า Ft (Fuel Adjustment Charge (at the given time)) หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าก็จะยังได้รับผลกระทบอีกเช่นกัน ทั้งนี้นักลงทุนอาจจะต้องหลีกเลี่ยงการลงทุนหุ้นกลุ่มดังกล่าวไปก่อน อย่างไรก็ตาม การปรับลดค่า  Ft ลงน่าจะใช้ระยะเวลาไม่นาน

ณัฐ ตรีพูนสุข ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ช่วงนี้ถือว่า มีหลายปัจจัยเข้ามากดดันหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าหลังจากที่รัฐบาลมีการปรับลดค่าไฟลง ขณะเดียวกันปัญหาบอนด์ยีลด์ปรับขึ้นมาค่อนข้างมา จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เข้ามากดดันหุ้นกลุ่มดังกล่าวค่อนข้างแรง และในส่วนของนโยบายที่ช่วยเหลือเรื่องค่าครองชีพของประชาชนก็เป็นอีกหนึ่งตัวกดดันกำไรของกลุ่มโรงไฟฟ้าด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งถือว่า เป็นปัจจัยที่จะกดดันลงไปอีกในช่วงพักใหญ่ ๆ นี้

“เดิมทีหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าจะเป็นหุ้นกลุ่ม Defensive แต่หลังจากนี้อาจจะไม่ใช่หุ้น Defensive อีกต่อไป หากนักลงทุนอยากที่จะเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่ม Defensive แนะนำช่วงนี้ไปกลุ่มสื่อสารจะมีความปลอดภัยมากกว่า”

นอกจากนี้ดาวน์ไซด์หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าถือว่าปัจจุบันอยู่ในค่อนข้างที่จำกัดแล้ว แต่ทว่าการฟื้นตัวคงทำได้ไม่เร็วมากนัก ดังนั้นหากนักลงทุนเป็นสายเทรดดิ้ง หรือหากยังไม่มีหุ้นกลุ่มนี้อยู่ในพอร์ต แนะว่านักลงทุนอาจจะหันไปลงทุนหุ้นกลุ่มอื่นก่อน แต่หากนักลงทุนที่สามารถถือหุ้นระยะยาวได้ ราคาบริเวณแถวนี้สามารถที่จะเข้าไปซื้อได้ 

‘กรุงเทพธุรกิจ’ ได้สำรวจ 10 หุ้นโรงไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย. ถึง ณ 25 ก.ย.66 มาร์เก็ตแคปวูบรวมกัน 109,895.31 ล้านบาท 

10 หุ้นโรงไฟฟ้า ตั้งแต่รัฐบาล ‘เศรษฐา’ ลดค่าไฟ มาร์เก็ตแคปวูบรวม 1.09 แสนลบ.

1.บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA 

  • มาร์เก็ตแคป 1 ก.ย. 66 ที่ 233,125.00 ล้านบาท 
  • มาร์เก็ตแคป 25 ก.ย.66 ที่ 197,690.00 ล้านบาท 
  • มาร์เก็ตแคปหายไป 35,435.00 ล้านบาท
  • ราคาปิด ณ 25 ก.ย.66 ที่ 53.00 บาท

2.บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF

  • มาร์เก็ตแคป 1 ก.ย. 66 ที่ 560,257.91 ล้านบาท 
  • มาร์เก็ตแคป 25 ก.ย.66 ที่ 530,925.04 ล้านบาท 
  • มาร์เก็ตแคปหายไป 29,332.87 ล้านบาท 
  • ราคาปิด ณ 25 ก.ย.66 ที่ 45.25 บาท 

3.บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC

  • มาร์เก็ตแคป 1 ก.ย. 66 ที่ 147,330.86 ล้านบาท 
  • มาร์เก็ตแคป 25 ก.ย.66 ที่ 129,707.55 ล้านบาท 
  • มาร์เก็ตแคปหายไป 17,623.31 ล้านบาท
  • ราคาปิด ณ 25 ก.ย.66 ที่ 46.00 บาท

4.บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH 

  • มาร์เก็ตแคป 1 ก.ย. 66 ที่ 75,581.25 ล้านบาท 
  • มาร์เก็ตแคป 25 ก.ย.66 ที่ 69,056.25 ล้านบาท 
  • มาร์เก็ตแคปหายไป 6,525.00 ล้านบาท
  • ราคาปิด ณ 25 ก.ย.66 ที่ 31.75 บาท

5.บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM

  • มาร์เก็ตแคป 1 ก.ย. 66 ที่ 86,679.43 ล้านบาท 
  • มาร์เก็ตแคป 25 ก.ย.66 ที่ 80,162.18 ล้านบาท 
  • มาร์เก็ตแคปหายไป 6,517.25 ล้านบาท
  • ราคาปิด ณ 25 ก.ย.66 ที่ 30.75 บาท

6.บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO 

  • มาร์เก็ตแคป 1 ก.ย. 66 ที่ 70,809.54 ล้านบาท 
  • มาร์เก็ตแคป 25 ก.ย.66 ที่ 65,018.43 ล้านบาท 
  • มาร์เก็ตแคปหายไป 5,791.11 ล้านบาท
  • ราคาปิด ณ 25 ก.ย.66 ที่ 123.50 บาท

7.บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP 

  • มาร์เก็ตแคป 1 ก.ย. 66 ที่ 45,715.98 ล้านบาท 
  • มาร์เก็ตแคป 25 ก.ย.66 ที่ 42,668.24 ล้านบาท 
  • มาร์เก็ตแคปหายไป 3,047.74 ล้านบาท
  • ราคาปิด ณ 25 ก.ย.66 ที่ 14.00 บาท

8.บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP 

  • มาร์เก็ตแคป 1 ก.ย. 66 ที่ 30,078.72 ล้านบาท 
  • มาร์เก็ตแคป 25 ก.ย.66 ที่ 27,314.73 ล้านบาท 
  • มาร์เก็ตแคปหายไป 2,763.99 ล้านบาท
  • ราคาปิด ณ 25 ก.ย.66 ที่ 3.36 บาท

9.บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL 

  • มาร์เก็ตแคป 1 ก.ย. 66 ที่ 31,977.11 ล้านบาท 
  • มาร์เก็ตแคป 25 ก.ย.66 ที่ 29,845.30 ล้านบาท 
  • มาร์เก็ตแคปหายไป 2,131.81 ล้านบาท
  • ราคาปิด ณ 25 ก.ย.66 ที่ 3.36 บาท

10. บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG 

  • มาร์เก็ตแคป 1 ก.ย. 66 ที่ 29,671.01 ล้านบาท 
  • มาร์เก็ตแคป 25 ก.ย.66 ที่ 28,943.78 ล้านบาท 
  • มาร์เก็ตแคปหายไป 727.23 ล้านบาท
  • ราคาปิด ณ 25 ก.ย.66 ที่ 9.95 บาท