ประชัน 5 หุ้น ศัลยกรรมความงาม ใครโดดเด่นสุด?

ประชัน 5 หุ้น ศัลยกรรมความงาม ใครโดดเด่นสุด?

หุ้นศัลยกรรมความงาม การแข่งขันปัจจุบันค่อนข้างสุด ล่าสุด บมจ. เอสเตติก คอนเนค หรือ TRP ธีรพรคลินิก เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดmai ในหมวดธุรกิจบริการ คาดไตรมาส 4/66

แต่เดิม ‘หุ้นเครื่องสำอาง’ เคยเป็นเสน่ห์แรงสุดเร้าใจของเหล่านักลงทุน แต่วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป ‘หุ้นศัลยกรรม’ ถูกจับตาอย่างมากว่า กำลังกลายเป็นสตาร์ ธุรกิจดาวรุ่ง สะท้อนผ่านคลินิกสถานเสริมความงามเปิดใหม่ ๆ ทั่วภูมิภาคของไทย ยิ่งในหัวเมืองเศรษฐกิจที่มีกำลังซื้อสูง อีกทั้งตลาดอุตสาหกรรมความงามยังมีการเติบโตค่อนข้างสูง 

วทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย ให้ข้อมูลกับกรุงเทพธุรกิจว่า ภาพรวมในธุรกิจศัลยกรรมหากย้อนหลังไป 3 ปีพบว่า ศัลยกรรมความงามมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากที่ได้รับแรงผลักดันมาจากวัยรุ่นถึงวัยกลางคนที่เข้ามาทำศัลยกรรมความงาม แต่ขณะเดียวกันยังมีโปรดักส์ที่ขยายไปยังลูกค้าที่มีอายุมากขึ้นด้วยกับประสิทธิภาพการใช้ชีวิตประจำวันด้วย เช่น เมื่ออายุมากขึ้นหากเกิดหนังตาตกสามารถทำตาสองชั้น หรือดึงหนังตาขึ้น เป็นต้น

โดยโรงพยาบาล หรือคลินิกที่ทำเกี่ยวกับศัลยกรรมที่ถือว่าเป็นคู่แข่งทางตรงมีด้วยกัน 3 ตัวในตลาดหุ้น คือ MASTER KLINIQ และ TRP หรือ ธีรพรคลินิก โดยจุดเด่นหุ้นที่กำลังจะเข้าตลาดคือ เน้นทำศัลยกรรม ขณะที่ MASTER จะเน้นทำศัลยกรรมจมูก ถือว่า เป็นคู่แข่งทางตรงที่สุด 

สำหรับมุมมอง MASTER มีการเติบโตที่ค่อนข้างสูงในช่วงต้น ๆ แต่ในอนาคตการเติบโตอาจจะชะลอได้ สาเหตุอัตราการใช้ห้องผ่าตัด มีค่อนข้างจำกัด ปัจจุบันใช้ไปแล้ว 70 - 80% ซึ่งโอกาสที่จะรองรับลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่านี่้อาจจะไม่เพียงพอ ขณะเดียวกันพื้นที่รอบข้างไม่เพียงพอกับการที่ลูกค้าจะพักผ่อนในสวนของผู้ป่วยนอก หลังจากที่ทำศัลยกรรมเสร็จแล้ว เลยมองว่าหลังจากนี้ 1 ปีน่าจะเริ่มชะลอตัวลง 

ทั้งนี้ถือว่า มีความแตกต่างจากของ ธีรพรคลินิก ที่ได้เข้าไปฟังก่อนหน้านี้ มีแผนจะสร้างโรงพยาบาลเช่นกัน และมีชั้นลอยหนึ่งชั้นไว้เผื่อการเติบโตในอนาคต คาดว่า น่าจะมีการเติบโตได้อย่างยั่งยืนได้ในอนาคต 

ขณะเดียวกันโรงพยาบาลบำรุงราษฎ์ ก็หันมาจับธุรกิจศัลยกรรมด้วยเช่นกัน แต่ MASTER TRP หรือ ธีรพรคลินิก อาจมองว่าไม่ใช่คู่แข่งโดยตรง แต่เป็นคู่แข่งทางอ้อม ด้านสุขภาพ เพราะส่วนหนึ่งคลินิกในเครือโรงพยาบาลจะเน้นด้วยสุขภาพเป็นหลัก 

“ในกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าว ปัจจัยหลัก ๆ เลยจะเป็นตัวคุณหมอ ซึ่งคนที่จะเข้ามาทำศัลยกรรมก็อยากจะได้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านโดยตรง แต่จะไม่เข้าไปหาหมอที่สามารถทำตาก็ได้ ทำจมูกก็ได้ เพราะความชำนาญจะไม่เหมือนกัน” 

วฤณ มหาดำรงกุลค์ นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในท็อปของเอเชียที่ต่างชาติให้ความสนใจเข้ามาทำศัลยกรรมค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะจีน อินเดีย เมียนมาร์ และกัมพูชา ที่เข้ามาทำศัลยกรรมค่อนข้างมาก บวกกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยด้วย ส่งผลให้มีการแข่งขันในธุรกิจดังกล่าว 

ทั้งนี้ เมื่อการแข่งขันสูง การแย่งชิงกลุ่มลูกค้านั้นต้องยอมรับว่า ความมีชื่อเสียงของแต่ละที่จะขึ้นอยู่กับแพทย์ที่รักษาที่จะเป็นตัวดึงดูดลูกค้าเข้ามา โดย MASTER จะมีทีมแพทย์ที่มีการเทรนด์มาจากเกาหลี และเป็นแพทย์ประจำที่ไม่ได้ไปอยู่ที่คลินิกอื่น เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะหาแพทย์แต่ละท่านลูกค้าต้องมาที่เฉพาะ MASTER 

นอกจากนี้ เดิมที่มีห้องผ่าตัดอยู่ 7 ห้อง ล่าสุดช่วงเดือนมิ.ย.66 ที่ผ่านมา มีการเพิ่มห้องผ่าตัดเข้ามาอีก 10 ห้อง เท่ากับว่าขณะนี้มีห้องผ่าตัดอยู่ 17 ห้อง ซึ่งถือว่ามากกว่าเท่าตัว สามารถทำให้รอบรับลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้น 

ล่าสุด ธีรพรคลินิก ที่กำลังเข้าตลาดจะมีความคล้ายคลึงกันกับ MASTER  ที่มีการทำศัลยกรรมจมูก ตาสองชั้น แต่ที่มีความแตกต่างกันคือ MASTER นั้นเป็นโรงพยาบาล 

ทั้งนี้ ‘กรุงเทพธุรกิจ’ ได้สำรวจหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล และศัลยกรรมความงาม มีด้วยกัน 5 หุ้น โดยมี 3 หุ้นที่เปิดธุรกิจความงามโดย ส่วนอีก 2 หุ้น เข้าร่วมทุน

ประชัน 5 หุ้น ศัลยกรรมความงาม ใครโดดเด่นสุด?

1.บริษัท เอสเตติก คอนเนค จำกัด (มหาชน) หรือ TRP (ธีรพรคลินิก)

  • ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเตติก คอนเนค จำกัด (มหาชน) หรือ TRP อดีตนายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าประเทศไทย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านศัลยกรรมตกแต่งบนใบหน้ามากว่า 40 ปี 
  • ให้บริการที่มุ่งเน้นการทำศัลยกรรมเฉพาะจุด ด้วยนวัตกรรมการผ่าตัดที่เป็นเทคนิคเฉพาะของธีรพร เช่น การทำศัลยกรรมดึงหน้า “Face-Lock”, การผ่าตัดศัลยกรรมตาสองชั้น “Eye-Lock” และการเสริมจมูกด้วยไขมันตัวเอง “FAT STEM CELL”
  • คาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจบริการ (SERVICE) ภายในไตรมาส 4/66
  • ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนปี 2566 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 บริษัทมีรายได้รวม 369.05 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 105.48 ล้านบาท
  • บริษัทฯ เตรียมโรดโชว์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Facebook Page: Teeraporn Clinic โดย คุณหมอชลธิศ ในวันที่ 18 กันยายน 2566 เวลา 13.30 -15.00 น. เพื่อให้นักลงทุนเข้าใจภาพรวมการดำเนินธุรกิจ จุดเด่นและโอกาสการเติบโตในอนาคต
  • ไตรมาส 4 ปี 2567 ก้าวสู่การเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย ให้บริการกับผู้ใช้บริการทั้งชาวไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา , สปป.ลาว, เมียนมา และเวียดนาม)

2.บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) MASTER

  • นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER
  • ขยายห้อง OR เพิ่ม ปัจจุบันมี  17 ห้อง และขยายพื้นที่ให้บริการจะช่วยให้ MASTER เพิ่ม Capacity ในการรองรับการให้บริการได้มากขึ้น
  • มาร์เก็ตแคป 15,900.00 ล้านบาท ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนปี 2566 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 บริษัทมีรายได้รวม 906.02 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 153.05 ล้านบาท
  • เข้าตลาด MAI ซื้อขายวันแรก 25 ม.ค.66

3.บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ KLINIQ

  • นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KLINIQ
  • ปัจจุบันมีจำนวนสาขาที่เปิดให้บริการทั้งสิ้น 43 สาขา จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีจำนวนสาขา 33 สาขา ประกอบด้วย THE KLINIQUE จำนวน 37 สาขา, L.A.B.X. จำนวน 5 สาขา และ THE KLINIQUE SURGERY CENTER จำนวน 1 สาขา
  • ปี 2566 เดินหน้าขยายสาขาใหม่ให้ได้จำนวน 10 สาขา
  • ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เปิดตัว “THE KLINIQUE-Stem Cell Harvesting Center” (TSHC) ศูนย์เก็บเซลล์ไขมันเพื่อฝากสเต็มเซลล์ที่มีมาตรฐานสากล ปลอดภัย จากนวัตกรรมซึ่งเป็นเทรนด์ของเทคโนโลยีระดับโลก ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตลาดมหาศาลจากเทรนด์ดูแลสุขภาพชะลอวัย
  • มาร์เก็ตแคป 8,250.00 ล้านบาท ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนปี 2566 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 บริษัทมีรายได้รวม 1,062.70 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 139.71 ล้านบาท
  • เข้าตลาด MAI ซื้อขายวันแรก 7 พ.ย.65 

4.บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) BCH

  • เปิด Kasemrad Plastic Surgery By Bujeong เครือ รพ.เกษมราษฎ์ ได้ร่วมกับพูจอง สาขาแรกใน รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ อินเตอร์เนชั่นแนล โซนบางใหญ่ จ.นนทบุรี
  • ศ.ดร.นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH ผู้ดำเนินธุรกิจ รพ.เกษมราษฎร์ รพ.เวิลด์เมดิคอล และ รพ.การุญเวช
  • ยกระดับศูนย์ความงามในมาตรฐานโรงพยาบาล รองรับการเสริมความงามตั้งแต่เคสทั่วไปจนถึงเคสการผ่าตัดใหญ่ เช่น การแปลงเพศ เป็นต้น ซึ่งโดยปกติคลินิกความงามจะไม่สามารถทำได้ หรือหากทำได้จำเป็นต้องเช่าพื้นที่ผ่าตัดจากกลุ่มโรงพยาบาล
  • Kasemrad Plastic Surgery By Bujeong จะเจาะลูกค้าทั้งในประเทศและแถบ CLMV โดยเดิมภูจองมี 12 สาขาทั่วประเทศ โดย 11 สาขาอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด แบ่งเป็นลูกค้าไทย 60-70% และลูกค้าต่างชาติ 30-40% มากสุด คือ กัมพูชา จีน เวียดนาม และอาหรับ
  • ปี 2567 การขยายศูนย์ความงามในต่างประเทศ มองไว้ที่ประเทศ สปป.ลาว จังหวัดสะหวันนะเขต ซึ่งอยู่ระหว่างการหาพาร์ตเนอร์ประเทศ สปป.ลาว และจดทะเบียนบริษัทที่ประเทศลาว
  • มาร์เก็ตแคป 48,877.46 ล้านบาท ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนปี 2566 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 บริษัทมีรายได้รวม 5,575.68 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 538.19 ล้านบาท
  • เข้าตลาด SET ซื้อขายวันแรก 10 พ.ย. 47

5.บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC

  • เข้าลงทุนในบริษัท ผิวดีคลินิก เอสเธติคส์ จำกัด หรือ PEWDEE Clinic ต่อยอดจากลูกค้าฐานผู้ใช้บริการเดิม ประกอบกับพื้นที่ตั้งของโรงพยาบาลในหัวเมืองสำคัญ เช่น นครสวรรค์ พิษณุโลก อุบลราชธานี ยังมีโอกาสเติบโตสูง ซึ่งภาพรวมอัตราการเติบโตในธุรกิจในธุรกิจคลินิกเสริมความงาม โดยเฉพาะในต่างจังหวัดยังโตได้ดี
  • ตั้งเป้าขยายสาขารวมทั้งหมด 7 แห่งภายในปี 2568 จากปัจจุบัน ผิวดีคลินิก (PEWDEE CLINIC) มีทั้งหมด 10 สาขาในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ ศูนย์การค้าสยามพารากอน (SIAM PARAGON) ศูนย์การค้าไอคอน สยาม (ICON SIAM) เซ็นทรัล ชิดลม เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ เซ็นทรัล พระราม 3 เซ็นทรัล ลาดพร้าว เซ็นทรัล บางนา เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ ศูนย์การค้าพาราไดซ์พาร์ค และปิ่นเกล้า
  • นพ.กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC
  • มาร์เก็ตแคป 20,185.42 ล้านบาท ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนปี 2566 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566 บริษัทมีรายได้รวม 2,535.38 ล้านบาท และกำไรสุทธิ -514.90 ล้านบาท
  • เข้าตลาด SET ซื้อขายวันแรก 26 ต.ค.48