ตลท.เผยครึ่งปีแรก66 บจ.กำไร 4.56 แสนล้าน ลดลง 26% เหตุกลุ่มพลังงาน-ปิโตรฉุด

ตลท.เผยครึ่งปีแรก66 บจ.กำไร  4.56  แสนล้าน ลดลง 26% เหตุกลุ่มพลังงาน-ปิโตรฉุด

ตลท.เผย ครึ่งปีแรก66 บจ.กำไร 4.56 แสนล้าน ลดลง 26.6% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เหตุ ราคาน้ำมันดิบ-ค่าการกลั่นปรับตัวลงแรง ฉุด กำไรกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ด้านบจ.ในmai มีกำไร 1.5 พันล้าน ลดลง 71%

บริษัทจดทะเบียน (บจ.) รายงานผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกปี 2566 มียอดขายลดลง ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมี ประกอบกับการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจทำให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปรับตัวสูงขึ้นในอัตราเร่ง และกดดันความสามารถในการทำกำไรของผู้ประกอบการทุกกลุ่ม  

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) จำนวน 764 บริษัท คิดเป็น 92.49% จากทั้งหมด 826 บริษัท (รวม SET และ mai ที่มีกำหนดส่งงบการเงิน ณ สิ้นงวด 30 มิถุนายน 2566 และไม่รวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน) นำส่งผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกปี 2566 พบว่ามี บจ. รายงานกำไรสุทธิ 577 บริษัท คิดเป็น 75.52% ของ บจ. ที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด

ตลท.เผยครึ่งปีแรก66 บจ.กำไร  4.56  แสนล้าน ลดลง 26% เหตุกลุ่มพลังงาน-ปิโตรฉุด

ผลการดำเนินงานงวดครึ่งแรกปี 2566 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บจ. ใน SET มียอดขาย 8,339,880 ล้านบาท ลดลง 2.8% ต้นทุนการผลิตปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มสูงขึ้น 7.8% จากการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลังโควิด

โดยส่งผลให้ บจ. มีกำไรจากการดำเนินงานหลัก (Core profit) และกำไรสุทธิลดลง สำหรับฐานะการเงินของกิจการ ณ 30 มิ.ย. 2566 บจ. ไทยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน หรือ D/E ratio (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) อยู่ที่ระดับ 1.53 เท่า ลดลงจาก 1.59 เท่าในครึ่งแรกปี 2565

โดยราคาน้ำมันและค่าการกลั่นที่ลดลงอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีให้ยอดขายและกำไรอ่อนตัวลงค่อนข้างมาก แต่หากพิจารณาธุรกิจอื่นไม่รวมธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมี จะพบว่ายอดขายขยายตัวพอประมาณที่ 4.5% โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจภาคบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร และสายการบิน

อย่างไรก็ดี บจ. ต้องเผชิญกับความท้าทายในการดำเนินธุรกิจหลากหลายปัจจัย รวมถึง ต้นทุนการผลิตที่ยืนอยู่ในระดับสูง กิจกรรมการขายที่ฟื้นตัวและมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังผ่านพ้นสถานการณ์โควิด และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอีกด้วย          

ด้านผลการดำเนินงานของ บจ. ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) งวดครึ่งแรกปี 2566 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มียอดขายรวม 95,183 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.3% ต้นทุนการผลิต 71,014 ล้านบาท ลดลง 0.3% ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 18,619 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.0% ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 5,550 ล้านบาท ลดลง 14.1% และกำไรสุทธิ 1,503 ล้านบาท ลดลง 71.0%