CGD มั่นใจผู้ถือหุ้นกู้อนุมัติ จี้ผู้รับเหมาส่งงานช้าเตรียมชดใช้ 5.3 พันล้าน
CGD มั่นใจผู้ถือหุ้นกู้อนุมัติเลื่อนชำระคืนไปอีก 1 ปี เหตุโครงการโฟร์ ซีซั่น ไพรเวท เรสซิเด้นท์ เกิดความล่าช้าในการก่อสร้างเป็นระยะเวลากว่า 4 ปีครึ่ง ทำให้เงินสดไม่ได้ตามแผนที่วางไว้ ระบุผู้รับเหมาส่งงานช้าเตรียมชดใช้ให้บริษัท 5,300 ล้านบาท
นางสาวเพ็ญนภา ศักดิ์ชัยเจริญกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน หรือ CFO บมจ.คันทรี กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CGD ให้ข้อมูลกับกรุงเทพธุรกิจ ว่า บริษัทมีความมั่นใจว่า ผู้ถือหุ้นกู้จะอนุมัติในการขยายการชำระคืนออกไปอีก 1 ปี เหตุผลหลักเนื่องจากหุ้นกู้รุ่นที่ผ่านมา ช่วงเดือนมิ.ย.66 CGD206A ได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นกู้ และระหว่างทางก่อนขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นกู้ บริษัทมีการจ่ายอัตราดอกเบี้ยให้กับผู้ถือหุ้นกู้ทุกครั้งทุกไตรมาส และได้มีการอธิบายให้ผู้ถือหุ้นกู้อย่างเข้าใจถึงเหตุที่ต้องมีการขอขยาย เนื่องด้วยจากโครงการโฟร์ ซีซั่น ไพรเวท เรสซิเด้นท์ เกิดความล่าช้าในการก่อสร้างเป็นระยะเวลากว่า 4 ปีครึ่ง ทำให้เงินสดไม่ได้เข้ามาตามที่ได้วางแผนเอาไว้ เนื่องจากว่า โครงการดังกล่าวมีแผนกำหนดการที่จะสร้างเสร็จในไตรมาส 4 ปี 61 หลังจากที่จะเริ่มมีการจองห้องได้ ก็ต้องประสบกับปัญหาโควิด ปี 63
ทั้งนี้ ห้องของโครงการดังกล่าวยังขายได้อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นโครงการลักชัวรี คนที่ซื้อส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ที่ไม่สามารถเดินทางเข้าได้ หลังจากที่ประสบกับโควิด จึงทำให้โอนไม่ได้ แต่ไม่มีการหลุดจองแต่อย่างใด เพราะปัจจุบันโครงการขายไปได้ค่อนข้างเยอะ ปีที่แล้วรับรู้ได้กว่า 80 ห้อง และปีนี้ตั้งแต่ต้นปีขายได้อีก 33 ห้อง และเหลืออีกประมาณ 80 -90 ห้อง
“อยากออกมาบอกผู้ที่ถือหุ้นกู้ไม่ต้องห่วง มีเงินสดเพียงพอ แต่โครงการยังเป็น Backlog ที่ยังไม่ได้เทิร์นเป็นเงินสดทั้งหมด ซึ่งต้องค่อยๆ เทิร์น ปัจจุบันบริษัทมีหุ้นกู้อื่นๆ ด้วย บริษัทต้องการทำทุกอย่างให้เท่าเทียมกัน”
ปัจจุบัน ณ สิ้นเดือนมิ.ย.66 เหลือหุ้นกู้อยู่ 4 รุ่น เป็นจำนวนเงินอยู่ประมาณ 2,800 ล้านบาท ซึ่งย้อนกลับไปช่วงปี 64 บริษัทมีหุ้นกู้มากถึง 4,000 ล้านบาท บริษัททำการจ่ายหนี้ลดลงมาเรื่อยๆ ตลอดระยะเวลา ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นเนื่องจากมีประวัติที่ดี จากที่มีการจ่ายเงินต้น มีการผ่อนจ่าย สามารถจ่ายได้ทุกครั้งไม่มีปัญหา ซึ่งจากทั้ง 4 รุ่นก่อนหน้านี้บริษัทมีการคืน 30% ในช่วงมิ.ย.66 ที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นบริษัทจึงอยากรักษาทุกอย่างให้เท่าเทียมกันกับผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัทถึงแม้ว่า 2 รุ่นนี้จะไม่มีหลักประกัน แต่บริษัทก็อยากให้ได้สิทธิเท่ากับรุ่นที่มีหลักประกันด้วย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ Backlog หากมีการขายได้ต้องมีการนำมาคืนให้กับผู้ถือหุ้นกู้ แต่อีกส่วนหนึ่งบริษัทมีความตั้งใจที่จะไปทำโครงการมิกซ์ยูส เหตุผลเพราะว่า การที่บริษัทมีโครงการจะสามารถทำให้โปรเจกต์ไฟแนนซ์ได้ หลังจากนั้นก็จะนำโปรเจกต์ไฟแนนซ์มาปิดตัวใหญ่ที่เรามีอยู่
ทั้งนี้ ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่บริษัทขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นกู้ทุกครั้ง ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่ CGD ขอเลื่อน แต่ที่มีการเลื่อนเพราะก่อนหน้านี้ติดปัญหาโควิด และความล่าช้าของโครงการ โดยวิศวกรผู้มีอำนาจดูถึงผลเสียหายของโครงการสมควรจะได้รับการชดใช้ ซึ่งมีการออกจดหมายมาให้กับบริษัทว่า ผู้รับเหมาจะต้องจ่ายให้กับทางบริษัทประมาณ 5,300 ล้านบาท ฉะนั้นแล้วผู้ถือหุ้นกู้ไม่ต้องมีความกังวล เพราะบริษัทค่อนข้างมั่นใจว่า จะได้รับการอนุมัติ แต่ถ้าเกิดปัญหาเกิดขึ้นก็ขอให้ผู้ถือหุ้นกู้ทั้ง 2 รุ่นนี้มั่นใจได้ว่า บริษัทมีเงินสดพอที่จะจ่ายได้
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์
