เทียบฟอร์ม 3 หุ้น กลุ่มเซ็นทรัล ผลงาน 6 เดือนแรกปี 66 กวาดกำไรรวม 1.14 หมื่นล้าน

เทียบฟอร์ม 3 หุ้น กลุ่มเซ็นทรัล ผลงาน 6 เดือนแรกปี 66 กวาดกำไรรวม 1.14 หมื่นล้าน

เทียบฟอร์ม 3 หุ้น กลุ่มเซ็นทรัล ผลงาน 6 เดือนแรกปี 66 กวาดกำไรรวม 11,409 ล้านบาท CPN มีกำไรมากสุดที่ 6,923.72 ล้านบาท ส่วนรายได้รวม 6 เดือนอยู่ที่ 22,239.15 ล้านบาท

อาณาจักรกลุ่มเซ็นทรัลในตลาดหลักทรัพย์ ยังคงได้ความสนใจอย่างมากจากนักลงทุน ด้วย 3 เรือธงหลัก ได้แก่ ธุรกิจค้าปลีกและบริการ ภายใต้ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ธุรกิจศูนย์การค้า และอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN และ ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร ภายใต้บริษัท บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL

ทั้งนี้ “กรุงเพทธุรกิจ” ได้รวบรวมผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 66 มีกำไรสุทธิ รวมกันกว่า 11,409 ล้านบาท

เทียบฟอร์ม 3 หุ้น กลุ่มเซ็นทรัล ผลงาน 6 เดือนแรกปี 66 กวาดกำไรรวม 1.14 หมื่นล้าน

1.บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN

ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2566 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง รายได้รวมเพิ่มขึ้นในทุกๆธุรกิจ โดยเฉพาะศูนย์การค้า และธุรกิจที่อยู่อาศัย โดยมีปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการบริโภคภายในประเทศที่ดีขึ้น มีรายได้รวม 11,133 ล้านบาท โต 22% จากปีก่อน และกำไรสุทธิ 3,678 ล้านบาท โต 34% จากปีก่อน ขณะที่ กำไรสุทธิ 6 เดือนอยู่ที่ 6,923.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 5,081.70 ล้านบาท ส่วนรายได้รวม 6 เดือนอยู่ที่ 22,239.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 17,969.42 ล้านบาท ส่วนมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 304,062.00 ล้านบาท

ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2566 เซ็นทรัลพัฒนา มีศูนย์การค้าภายใต้การบริหารงานทั้งหมด 39 โครงการ (ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 37 แห่ง ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 15 โครงการ ต่างจังหวัด 21 โครงการ และในมาเลเซีย 1 โครงการ, ศูนย์การค้าเอสพละนาด 1 แห่ง และศูนย์การค้าเมกะ บางนา ภายใต้กิจการร่วมค้าอีก 1 แห่ง) คอมมูนิตี้ มอลล์ 17 โครงการ มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 2.3 ล้านตารางเมตร 

นอกจากนี้ ยังบริหารศูนย์อาหาร 33 แห่ง อาคารสำนักงาน 10 อาคาร โรงแรม 6 แห่ง โครงการที่พักอาศัย 29 โครงการ ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ ESCENT, ESCENT  VILLE, ESCENT PARK VILLE, PHYLL และ BELLE GRAND RAMA 9 และโครงการแนวราบภายใต้แบรนด์ ESCENT TOWN  (ทาวน์โฮม) ESCENT AVENUE (โฮมออฟฟิศ)  NINYA (บ้านแฝด) NIYAM (บ้านเดี่ยวระดับลักชูรี่) และโครงการแนวราบหลากหลายรูปแบบภายใต้แบรนด์ NIRATI ที่เชียงใหม่ เชียงราย บางนา และดอนเมือง

สำหรับโครงการใหม่ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและเตรียมเปิดในปี 2566-2567 ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์วิลล์ (กำหนดเปิด 29 พ.ย.66) เซ็นทรัล นครสวรรค์ (Q1/2567) เซ็นทรัล นครปฐม (Q2/2567) เซ็นทรัล กระบี่ (Q4/2567) และโครงการอื่นๆ ที่เตรียมเปิดในปีนี้ ได้แก่ โรงแรม Centara Ayutthaya โรงแรม Centara One Rayong โรงแรม GO! Hotel อยู่ติดกับเซ็นทรัล ศรีราชา และเซ็นทรัล ชลบุรี และโครงการที่อยู่อาศัย 6 โครงการ (NIRATI นครศรีธรรมราช บ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ 3 โครงการ และคอนโดมิเนียม ESCENT 2 โครงการ) นอกจากนี้ ยังมีโครงการ Mega Mixed-use “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” big project ที่ร่วมพัฒนากับบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) โดยจะทยอยเปิดให้บริการในปี 2567 เป็นต้นไป

ส่วนทิศทางธุรกิจในระยะ 5 ปี (ปี 2566-2570) บริษัทฯ เดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ทั้งที่ประกาศไปแล้วและยังไม่ได้ประกาศ ซึ่งมีทั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสม (Mixed-use Development) โครงการที่พักอาศัย รวมถึงแผนการปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อเพิ่มมูลค่า รวมทั้งบริหารจัดการค่าใช้จ่ายและลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อเตรียมพร้อมกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน รวมทั้งยังคงศึกษาโอกาสการลงทุนธุรกิจในรูปแบบอื่น และการลงทุนในต่างประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ มาเลเซีย และเวียดนาม รวมถึงศึกษาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพการเติบโตสูงเพื่อขยายช่องทางในการสร้างรายได้ใหม่และสอดคล้องกับแผนการเติบโตตามเป้าหมายในอนาคตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

 

2.บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC

ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก เซ็นทรัล รีเทล สามารถกวาดรายได้ถึง 123,208 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 113,100.45 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 3,735.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 2,690.31 ล้านบาท และไตรมาส 2/66 มีรายได้รวม 60,002 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,567 ล้านบาท ส่วนมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 235,209.00 ล้านบาท 

โดยที่ผ่านมาการบริหารงานและพอร์ตโฟลิโอที่มีความยืดหยุ่น และคล่องตัว รวมทั้งความสำเร็จของการขยายพอร์ตให้เติบโตครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจในประเทศไทย เวียดนาม และอิตาลี ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร และเป็นแพลตฟอร์มค้าปลีกที่เติมเต็มศักยภาพให้กับพาร์ทเนอร์ และซัพพลายเออร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ รวมถึงการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เซ็นทรัล รีเทล สร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในทุกสถานการณ์

สำหรับครึ่งปีหลัง เซ็นทรัล รีเทล เตรียมเร่งเครื่องสร้างรายได้จากแผนการดำเนินธุรกิจที่เข้มข้น โดยมีแผนจะเปิดตัวไฮไลท์พอร์ตธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพ เพื่อเสริมแกร่งอีโคซิสเต็ม และสร้างการเติบโตให้กับเซ็นทรัล รีเทล ได้อย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งตอกย้ำความเป็นผู้นำค้าปลีกในพื้นที่ท่องเที่ยว โดยโฟกัสที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีรายได้จากนักท่องเที่ยวสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย มีแผนจะเปิดศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ สาขาฉลอง ซึ่งจะเป็นแห่งที่ 2 ของจังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 20 กันยายนนี้ และจะทำให้เซ็นทรัลมีศูนย์การค้ารวมทั้งสิ้น 33 สาขาทั่วประเทศไทย พร้อมกันนี้ยังเตรียมเปิดห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขาฉลอง จังหวัดภูเก็ตอีกด้วย

ขณที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวติดอันดับ 1 ของโลก เซ็นทรัล รีเทล พร้อมลุยขยายธุรกิจในโซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตกอย่างเต็มที่ หลังจากประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ สาขาราชพฤกษ์ และในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะฉลองการเปิดห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาเวสต์วิลล์ ซึ่งถือเป็นห้างสรรพสินค้าสาขาที่ 76 ของเซ็นทรัล รีเทล เพื่อเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ ตอบโจทย์ New CBD ของกรุงเทพฯ

 

3.บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL

ผลดำเนินงานประจำไตรมาส 2 ปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 5,250 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 121 ล้านบาท เติบโต 450% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกอยู่ที่ 749.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ขาดทุน 21.63  ล้านบาท ส่วนรายได้รวม 6 เดือนอยู่ที่ 11,113.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 8,221.17 ล้านบาท ส่วนมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 58,050.00 ล้านบาท 

โดยกำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ (EBITDA) อยู่ที่ 1,223 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และอัตรากำไรก่อนค่าเสื่อมราคาฯ (EBITDA Margin) เท่ากับ 23% ทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ธุรกิจโรงแรม มีรายได้ 2,028 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นปัจจัยสนับสนุนการฟื้นตัวของโรงแรมภายในประเทศ

สำหรับรายได้ต่อห้องพักเฉลี่ยของโรงแรมทั้งหมด (RevPAR) อยู่ที่ 3,068 บาท เพิ่มขึ้น 40%  จากการเพิ่มขึ้นของอัตราเข้าพักเฉลี่ย (OCC) ที่ 67% จาก 49% ในไตรมาส 2 ปี 65 และราคาห้องพักเฉลี่ย  (ARR) เพิ่มขึ้น 3% เทียบกับปีก่อน อยู่ที่ 4,596 บาท  

ส่วนธุรกิจอาหาร มีรายได้ 3,222 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการนั่งรับประทานในร้านและซื้อกลับบ้าน ส่วนเดลิเวอร์รีมีสัดส่วนลดลง ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีร้านอาหาร 1,590 สาขา เพิ่มขึ้น 78 สาขา จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นร้านอาริกาโตะ เพิ่มขึ้น 36 สาขา เคเอฟซี 19 สาขา อานตี้ แอนส์ 12 สาขา และ มิสเตอร์โดนัท 10 สาขา

ณ วันที่ 30 มิ.ย. 66 บริษัทมีสินทรัพย์ 55,208 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากสิ้นปี 65 และมีหนี้สิน 35,395 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากสิ้นปี 65 ขณะที่ เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด เท่ากับ 4,214 ล้านบาท

นอกจากนี้ CENTEL มีแผนปรับปรุงใหญ่โรงแรมในประเทศไทย 2 แห่ง เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 66 คือ โรงแรมเซ็นทารา กะรน ภูเก็ต จำนวน 335 ห้อง และโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ มิราจ บีช รีสอร์ท พัทยา จำนวน 553 ห้อง