CENTEL ลงแรง | ออฟเรคคอร์ด
รายการทยอย เทขายหุ้นรายตัว หลัง “ประกาศงบ” ขึ้น “XD รับปันผล” มีมาให้เห็นเป็นระยะๆ หลังความเสี่ยงใน และนอกประเทศยังท่วมตลาดหุ้น ... ดังนั้นไม่แปลกที่การลงทุนเน้นเข้าออกทำกำไรเป็นรอบได้ผลตอบแทนมากกว่าในช่วงนี้
๐๐๐ CENTEL ลงแรง
รายการทยอย เทขายหุ้นรายตัว หลัง “ประกาศงบ” ขึ้น “XD รับปันผล” มีมาให้เห็นเป็นระยะๆ หลังความเสี่ยงใน และนอกประเทศยังท่วมตลาดหุ้น ... ดังนั้นไม่แปลกที่การลงทุนเน้นเข้าออกทำกำไรเป็นรอบได้ผลตอบแทนมากกว่าในช่วงนี้
หุ้นที่เป็น ดาวเด่น และเป็น ความหวัง ประคองเครื่องยนต์เศรษฐกิจ ตั้งแต่ต้นปีกลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรมถึงเวลาไล่ทยอยขายทำกำไรได้สักที จากสัปดาห์ก่อน AWC ลงที่ 3.90 บาท
เปลี่ยนตัวมาเจอเทขาย CENTEL ที่ราคาหุ้นลงพรวดพราดจากที่ยืนที่ 50 บาท ก่อนหน้านี้เจอ เทขายวันเดียว 15 ช่อง มาที่ 40.75 บาท ลดลงเกือบ 20%
สัญญาณแรงจากงบการเงินไม่ดี และทางผู้บริหารมีการปรับเป้ารายได้ปีนี้ลงไปอีก !! แล้วยังบ่งบอก ภาคการท่องเที่ยวสะดุดครึ่งปีหลัง ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวพลาดเป้าหมายปี 2566 - ทัวร์จีนยังไม่ฟื้นเต็มที่จากเศรษฐกิจจีนมีปัญหา ไม่นับรวมเศรษฐกิจไทยชะงักไม่มีรัฐบาลสักที
เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ได้เห็น อาการไล่ขายหุ้นในกลุ่มได้อีก
๐๐๐
ตลาดหุ้นกลับมาเผชิญความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลก อีกครั้งหลัง “Fitch Ratings” ออกโรงเตือนเพิ่มความเสี่ยงภาคธนาคารสหรัฐ และอาจปรับลดความน่าเชื่อถือของธนาคารขนาดใหญ่หากภาพรวมแย่ลง ขณะที่ "เจพีมอร์แกน" ลดคาดการณ์ GDP จีนในปี 2566 ลงสู่ระดับ 4.8% และปี 2567 จะขยายตัว 4.2%
๐๐๐
สถานการณ์เศรษฐกิจจีนเจอแรงกดดันจากการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยยังไม่มีด้านการคลังเข้ามากระตุ้น ท่ามกลางประกาศตัวเลขที่อ่อนแอ ยิ่งในภาคอสังหาฯ หลัง Country Garden ผิดนัดชำระหนี้ และระงับหุ้นกู้อีก 11 ชุด
หากไม่สามารถ Re-Finance เพื่อหาเงินมาชำระภายในระยะเวลาผ่อนผัน 30 วัน (Grace Period)จะทำให้บริษัทเข้าสู่สถานะการผิดนัดชำระหนี้ส่งผลทำให้เกิดความ “วิตกวิกฤติอสังหาฯ ในจีน ”
๐๐๐
บรรยากาศตลาดหุ้นไทยกลับมาเฝ้าดู ความเคลื่อนไหวทางการเมือง วันนี้ “ศาลรัฐธรรมนูญ”พิจารณาคำร้อง รับ/ไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินกรณีการเสนอชื่อ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ซ้ำ
โดยศาลได้มีมติไม่รับคำร้องดังกล่าวทำให้คาดจะเป็น Sentiment บวก และมีโอกาสที่จะเห็น การนัดโหวตนายกฯ ในวันที่ 18 หรือ 22 ส.ค. นี้
๐๐๐
นอกจากการเมืองจะรู้ผลปัจจัยกดดันตลาดหุ้นยังมี ผลประกอบการ Q2/2566 ของบริษัทจดทะเบียนออกมาครบแล้วปรากฏ -16% q-q, -35% y-y เป็นตัวเลขที่ไม่โดดเด่น แต่ถือว่าดีกว่าตลาดคาดเล็กน้อยราว 4% ภาพรวมกำไร ครึ่งปีแรกปี 2566 คิดเป็นราว 40% ของประมาณการทั้งปี ล่าสุดมีการปรับตัวเลข EPS ปีนี้ลงเหลือ 89 บาท/หุ้น จากต้นปี 109 บาท/หุ้น
๐๐๐
แรงขายหุ้น PTTEP จากน้ำมันเริ่มปรับฐานลงมาแถว 80 ดอลลาร์/บาร์เรล ล่าสุดยังมีประเด็น ต่ออายุก๊าซธรรมชาติแหล่งไพลินสัมปทานจะหมดอายุในปี 2571 ทาง PTTEP และChevron ลงทุนในโครงการไพลิน 60% และ40% ตามลำดับแต่ Chevronได้รับอนุญาตเป็นผู้ดำเนินการโครงการ(operator)
บล.เคจีไอ ความคิดเห็นการเจรจาระหว่างหน่วยงานด้านพลังงาน และChevron เพื่อขอขยายสัมปทานแหล่งไพลินออกไปอีก10 ปีไม่มีความคืบหน้าโครงการไพลินผลิตก๊าซได้เฉลี่ย 400mmscfd ซึ่งคิดเป็น10% ของปริมาณก๊าซในประเทศไทย มองว่าการขยายสัมปทานของแหล่งไพลินยังพอมีเวลาในการเจรจาอยู่ แนะนำถือ PTTEP ที่ราคาเป้าหมายไม่เปลี่ยนแปลงปี 2566 ที่ 170.00 บาทหุ้น
๐๐๐
ด้าน HANA ราคาหุ้นตอบรับธีมค่าเงินบาทอ่อนค่า บวกกับงบกำไร Q2/2566 ออกมาดีกว่าคาด บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ดัชนีเศรษฐกิจหลายส่วนบ่งชี้อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว 1.สหรัฐ ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน ก.ค. +4.6% m-m หลักๆ หนุนจากกลุ่มคอมพิวเตอร์, กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวกับการแพทย์ฟื้นตัว
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์