โชว์ฟอร์ม 4 หุ้นกลุ่ม GULF ผลงาน 6 เดือน กำไรอู้ฟู่ 2.67 หมื่นล้านบาท

โชว์ฟอร์ม 4 หุ้นกลุ่ม GULF ผลงาน 6 เดือน กำไรอู้ฟู่ 2.67 หมื่นล้านบาท

โชว์ฟอร์ม 4 หุ้นกลุ่ม GULF ผลงาน 6 เดือน กำไรอู้ฟู่ 2.67 หมื่นล้านบาท ด้านหุ้น GULF ผลประกอบการไตรมาส 2/66 มีกำไร 2,884.93 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือนปี 66 มีกำไร 6,734.91 ล้านบาท ขณะที่ ADVANC ครึ่งแรกปี 66  มีกำไร 13,937 ล้านบาท

ปัจจุบันเศรษฐกิจโดยภาพรวมยังคงมีสภาพคล่องที่ตึงตัว หลังจากการที่ธนาคารกลางทั่วโลกปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับปัญหาเงินเฟ้อ รวมถึงปัญหาการเมืองในบ้านเรา ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยยังคงซึมยาว โดยเฉพาะหุ้นกลุ่ม GULF ที่ก่อนหน้านี้ถือว่าได้รับผลกระทบค่อนข้างมากจากนโยบายของพรรคก้าวไกล แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อการเมืองมีการเปลี่ยนข้างสลับขั้วส่งผลให้หุ้นกลุ่ม GULF ปรับตัวขึ้นมาได้อีกครั้ง บวกกับพื้นฐานของหุ้นที่มีความแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ "กรุงเทพธุรกิจ" ได้สำรวจ 4 หุ้นกลุ่ม GULF ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิรวมกัน 26,790 ล้านบาท 

โชว์ฟอร์ม 4 หุ้นกลุ่ม GULF ผลงาน 6 เดือน กำไรอู้ฟู่ 2.67 หมื่นล้านบาท
1.บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/66 มีกำไร 2,884.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88.47% จากงวดเดียวกันปี 65 ที่มีกำไร 1,530.68 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือนปี 66 มีกำไร 6,734.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.74 % จากงวดเดียวกันปี 65 ที่มีกำไร 4,925.28 ล้านบาท

โดย GULF มีรายได้รวมไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 35,263 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% จาก 24,553 ล้านบาท ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรจากการดำเนินงาน (Core Profit) สำหรับไตรมาส 2/2566 เท่ากับ 3,556 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จาก 3,081 ล้านบาท ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งการเติบโตดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากการรับรู้ผลการดำเนินงานของโครงการกัลฟ์ ปลวกแดง (GPD) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ IPP ที่มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 2,650 MW ภายใต้กลุ่ม IPD โดยหน่วยที่ 1 กำลังการผลิตติดตั้ง 662.5 MW ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ไปเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยรับรู้ Core Profit จำนวน 223 ล้านบาทในไตรมาส 2/2566 ประกอบกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ SPP 12 โครงการภายใต้กลุ่ม GMP ที่มีปริมาณการขายไฟฟ้าให้ กฟผ. เพิ่มขึ้น โดยมี Load Factor เฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 78% ในไตรมาส 2/2565 เป็น 80% ในไตรมาส 2 ปีนี้ และยังมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นจากการขายไฟฟ้าให้แก่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม เนื่องจากราคาค่าก๊าซเฉลี่ยที่ปรับตัวลดลง

2.บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ปี 2566 มีกำไรสุทธิ 7,180 ล้านบาท  เติบโต 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมอยู่ที่ 44,774 ล้านบาท ลดลง 1.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนผลการดำเนินงานในครึ่งแรกของปี 66  มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 13,937 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 91,487 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.0%

โดยมีจำนวนผู้ใช้บริการ 5G เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด รวมแล้วกว่า 7.8 ล้านราย ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนลูกค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่รวม 45.3 ล้านเลขหมาย ประกอบกับการมีคลื่นความถี่ในการให้บริการมากที่สุดรวม 1460 MHz

3.บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH มีผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 มีกำไรสุทธิ 2,882 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9  % และงวดหกเดือนของปี 2566 ที่ 5,572 ล้านบาท และมากกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน 7% โดยกําไรสุทธิในไตรมาส 2/2566 เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน สวนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งผลกําไรจากเอไอเอส เนื่องจากการเติบโตของรายได้จากการให้บริการ และการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสทธิภาพ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านการตลาด

ส่วนผลการดําเนินงานเฉพาะบริษัทในไตรมาส 2/2566 และงวดหกเดือนของปี 2566 อินทัชมีสวนแบ่งกําไรจากบริษัทย่อยและบริษัทร่วม 2,902 ล้านบาท และ 5,636 ล้านบาท ตามลําดับ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาและปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของผลกําไรของเอไอเอส สําหรับค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานของอินทัช สําหรับไตรมาส 2/2566 และงวดหกเดือนของปี 2566 อยู่ที่ 37 ล้านบาท และ 79 ล้านบาท ตามลําดับ

ทั้งนี้ INTUCH ประกาศจ่ายเงินปันผลกาล 1.47 บาท/หุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล (XD) วันที่ 23 ส.ค.66 กำหนดจ่าย วันที่ 8 ก.ย.66

4.บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 457 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.8% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 309 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 409.8% จากไตรมาสก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 90 ล้านบาท 

ผลการดำเนินงานในครึ่งแรกของปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 546 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 360 ล้านบาท สาเหตุหลักเกิดจากการรับรู้รายได้อื่น ซึ่งเป็นรายได้ค่าชดเชยจากข้อพิพาท

ด้านผลกำไรจากการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก อยู่ที่ 189 ล้านบาท ลดลง 37.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรอยู่ที่ 301 ล้านบาท สาเหตุหลักเกิดจากการปรับตัวลดลงของรายได้จากการให้บริการบรอดแบนด์

ส่วนรายได้ในช่วงครึ่งปีแรก อยู่ที่ 1,811 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,647 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายและการให้บริการอยู่ที่ 1,374 ล้านบาท ลดลง 4.0% จากฃ่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้อยู่ที่ 1,431 ล้านบาท สาเหตุหลักจากการลดลงของบริการดาวเทียมและบริการที่เกี่ยวเนื่อง