ANAN เผยเร่งประเมินความเสียหาย 'แอชตันอโศก' ก่อนตั้งสำรอง Q2/66

ANAN เผยเร่งประเมินความเสียหาย 'แอชตันอโศก' ก่อนตั้งสำรอง Q2/66

ANAN เร่งรวบรวมความเสียหาย เผยอยู่ระหว่างประเมิน เพื่อเจรจาภาครัฐ ก่อนตั้งสำรอง Q2/66 พร้อมหาแนวทางแก้ไข เผยไม่จำเป็นต้องรื้ออาคาร

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ได้ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กรณีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลางให้เพิกถอนใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคาร หรือเปลี่ยนการใช้อาคาร โดยไม่ยื่นคำขอรับใบอนุญาต 

บริษัท ได้รับผลกระทบเฉพาะในสัดส่วนที่ลงทุนไว้ในบริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด ซึ่งเป็นโครงการร่วมลงทุน (Joint Venture) ระหว่างบริษัท กับ ซี อินเวสเม้นท์ ไฟว์ ไพรเวท ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บริษัท มิตซุย ฟูโดซัง จำกัด (บริษัทร่วมทุน) ในสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 51 และร้อยละ 49 ตามลำดับ โดยบริษัท อนันดา เอ็มเอฟฯ เป็นบริษัทผู้พัฒนาโครงการ แอชตัน อโศก โครงการดังกล่าวมีมูลค่ารวมจำนวน 6,481 ล้านบาท และมีจำนวนยูนิตทั้งสิ้น 783 ยูนิต โดยมีจำนวนยูนิตที่โอนไปแล้วจำนวน 668 ยูนิตคิดเป็นมูลค่า 5,653 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 87และปัจจุบันมีจำนวนยูนิตคงเหลือ 115 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 828 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 13 การดำเนินงานของบริษัทยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง บริษัทยังมีความสามารถในการชำระหนี้ตามตราสารหนี้ และภาระผูกพันต่างๆ ที่มีผลผูกพันกับบริษัท ได้ตามปกติ รวมทั้งยังสามารถดำเนินธุรกิจ และทำธุรกรรมกับคู่ค้า สถาบันการเงินต่างๆ ได้ตามปกติ

บริษัท ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลแห่งคำพิพากษาดังกล่าว และแนวทางที่จะแก้ไขต่อไปโดยเร็ว ดังนี้

1.โครงการแอชตัน อโศก (Ashton Asoke) เป็นโครงการที่พัฒนาโดยบริษัท อนันดา เอ็มเอฟฯ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากคำพิพากษาดังกล่าว นอกจากมีผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนผู้ซื้อห้องชุด หรือเจ้าของร่วมในโครงการแอชตันอโศก แล้วยังส่งผลกระทบกับ บริษัท อนันดา เอ็มเอฟฯ ในฐานะผู้ประกอบการโครงการนี้ด้วย ในส่วนของบริษัท และบริษัทร่วมทุน ในฐานะผู้ลงทุน และผู้ถือหุ้นของบริษัท อนันดา เอ็มเอฟฯ ก็ได้รับความเสียหายตามสัดส่วนที่บริษัท ได้ลงทุนถือหุ้นในบริษัท อนันดา เอ็มเอฟฯ ด้วยเช่นกัน 

ดังนั้น คณะกรรมการของบริษัท อนันดา เอ็มเอฟฯ บริษัทและบริษัทร่วมทุนจึงได้ร่วมกันรวบรวมความเสียหาย และแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อติดต่อเจรจากับส่วนงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องต่อไปโดยเร่งด่วน ส่วนมูลค่าความเสียหายในเบื้องต้น อยู่ระหว่างการประเมินร่วมกับผู้สอบบัญชีของบริษัท และผู้เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน และเพื่อพิจารณาการตั้งสำรองในไตรมาส 2 นี้

2.แม้ศาลปกครองสูงสุดจะพิพากษาเพิกถอนใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้างแต่ความเสียหายดังกล่าวยังสามารถแก้ไขได้ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางที่ผู้แทนหน่วยงานของรัฐได้เสนอทางแก้ตามที่เป็นข่าวต่อสาธารณะไปแล้วว่า กรณีที่ศาลเพิกถอนใบอนุญาตโครงการ ไม่จำเป็นต้องรื้อถอนอาคาร ซึ่งบริษัท อนันดา เอ็มเอฟฯ กำลังพิจารณาหาแนวทางแก้ไขที่มีอยู่หลายแนวทาง โดยบริษัท และบริษัท อนันดา เอ็มเอฟฯ จะได้ขอเข้าพบกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงหัวหน้าหน่วยงานรัฐ ซึ่งถูกฟ้องในคดีเดียวกัน อันได้แก่ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ภายใน 14 วันทำการ นับถัดจากวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ซึ่งเป็นวันที่ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษา เพื่อเจรจาหาทางแก้ไขกับหน่วยงานของรัฐต่อไปด้วย ศาลปกครองสูงสุดมิได้กำหนดกรอบระยะเวลาที่สั่งเพิกถอนอาคาร ว่าหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร จะต้องดำเนินการภายในเมื่อใด และมิได้กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมอื่นๆ ทั้งนี้ หน่วยงานของกรุงเทพมหานคร จะเป็นผู้สั่งการให้บริษัทดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

3.บริษัท อนันดา เอ็มเอฟฯ อยู่ระหว่างการประชุมหารือร่วมกันกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางในการอนุมัติ หรืออนุญาตให้ทำโครงการแอชตัน อโศก เพื่อแก้ไขความเสียหายให้แก่ประชาชนผู้ซื้อห้องชุด หรือเจ้าของร่วม รวมถึงความเสียหายของบริษัท อนันดา เอ็มเอฟฯ ผู้พัฒนาโครงการดังกล่าวด้วยความสุจริต และเป็นไปตามกฎหมายตามที่หน่วยงานของรัฐได้รับรองไว้หลายหน่วยงานมาโดยตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งการหารือกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องจะเป็นการดำเนินการควบคู่กับการพิจารณาแนวทางอื่นที่มีอยู่หลายแนวทางด้วย ซึ่งบริษัท จะได้รายงานความคืบหน้าให้ทราบเพิ่มเติมต่อไป

ทั้งนี้ บริษัทจะหารือกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และหากมีความคืบหน้า หรือมีแนวทางที่ชัดเจนมากกว่านี้ บริษัทจะแจ้งข่าวให้ทราบผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์