ก.ล.ต.ครึ่งปีแรก 66 เปรียบเทียบปรับผู้กระทำผิด 130.93 ล้าน - กล่าวโทษ 100 ราย

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2 ปี 2566 ดำเนินคดีอาญา โดยเปรียบเทียบปรับ (เฉพาะกรณีที่มีการชำระค่าปรับ) จำนวน 31 ราย  จำนวน 56 ข้อหา รวมเงินค่าปรับ 26.71 ล้านบาท

ขณะที่ครึ่งปีแรก 2566 เปรียบเทียบปรับ 65 ราย จำนวน 133 ข้อหา รวมเงินค่าปรับ 41.26 ล้านบาท  โดยมีการกล่าวโทษ จำนวน  8 คดี จำนวนผู้ถูกกล่าวโทษ 44 ราย  ส่งผลให้ครึ่งปีแรก 2566 กล่าวโทษ 19 คดี  จำนวนผู้ถูกกล่าวโทษ 100 ราย 

ส่วนการดำเนินคดีทางแพ่ง  ไตรมาส 2 ปี 2566 จำนวน 1 คดี มีผู้กระทำความผิด 5 ราย ค่าปรับทางแพ่ง จำนวน 5 ล้านบาท  มีการชดใช้ค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบ 153,310 บาท  ขณะที่ครึ่งปีแรก 2566  รวมจำนวน 5 คดี จำนวนผู้กระทำความผิด 16 ราย ค่าปรับทางแพ่ง  89.66 ล้านบาท  ชดใช้เงินเท่าผลประโยชน์ที่ได้รับ 1.34 ล้านบาท  ชดใช้เงินค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบ 306,364 บาท  

ทั้งนี้หากรวมมูลค่าการเปรียบเทียบปรับทั้งคดีอาญา และคดีทางแพ่งไตรมาส 2 อยู่ที่ 31.71 ล้านบาท  ส่วนครึ่งปีแรก 2566 รวมอยู่ที่ 130.93 ล้านบาท 

ก.ล.ต.ได้รับเรื่องร้องเรียนไตรมาส 2 ปี 2566 รวม 321 เรื่อง แบ่งเป็น  1 การให้บริการของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล จำนวน 77 เรื่อง 2. บริษัทจดทะเบียนนำส่งงบการเงินล่าช้า จำนวน 74 เรื่อง 3. ถูกชักชวนให้ลงทุนโดยอ้างผลตอบแทนในอัตราที่สูง จำนวน 68 เรื่อง  4. การปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหาร/กรรมการบริษัทจดทะเบียนจำนวน 10 เรื่อง  5. ระบบงานของผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ จำนวน 8 เรื่อง และ 6. เรื่องอื่นๆ เช่น การกระทำอันไม่เป็นธรรมในการซื้อขายหลักทรัพย์ เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ  จำนวน 84 เรื่อง 

ขณะที่ครึ่งปีแรก ก.ล.ต.ได้มีการแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการลงทุน จำนวน 566 ราย  แบ่งเป็น บริษัทที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตธุรกิจหลักทรัพย์/สัญญาซื้อขายล่วงหน้า จำนวน 438 ราย ,บริษัทที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล จำนวน 93 ราย , บริษัทที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เสนอขายโทเคนดิจิทัลต่อประชาชน จำนวน 13 ราย

บริษัทที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตธุรกิจหลักทรัพย์/สัญญาซื้อขายล่วงหน้าและยังไม่ได้รับใบอนุญาตธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล 9 ราย ,บริษัทที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ต่อประชาชนเป็นการทั่วไป จำนวน 7 ราย ,ธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นการเงินนอกระบบ จำนวน 5 ราย และยังไม่ได้รับอนุญาตให้เสนอขายโทเคนดิจิทัลต่อประชาชน และยังไม่ได้รับใบอนุญาตธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล จำนวน 1 ราย

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์