หุ้น Meta พุ่งเฉียด 7% จากกำไรไตรมาส 2 นิวไฮ- Outlook ธุรกิจครึ่งปีหลังสดใส

หุ้น Meta พุ่งเฉียด 7% จากกำไรไตรมาส 2 นิวไฮ- Outlook ธุรกิจครึ่งปีหลังสดใส

หุ้นบริษัท เมตา แพลตฟอร์ม จำกัด (มหาชน) หรือ Meta ปรับตัวสูงขึ้น 6.89%  มาอยู่ที่ 319.15 ดอลลาร์ต่อหุ้น ในช่วงหลังการซื้อขายเมื่อวานนี้ จากกำไรไตรมาส 2 แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ และคาดการณ์ธุรกิจครึ่งปีหลังสดใส

Key Points

  • หุ้นบริษัท เมตา แพลตฟอร์ม จำกัด (มหาชน) หรือ Meta ปรับตัวสูงขึ้น 6.89%  มาอยู่ที่  319.15  ดอลลาร์ต่อหุ้น 
  • สาเหตุที่หุ้นปรับขึ้นเนื่องจากบริษัทรายงานกำไรไตรมาส 2 ทำนิวไฮ และคาดการณ์การดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลังสดใส
  • เมตาอยู่ในช่วงเดิมพันกับการสร้างแพลตฟอร์มให้มีความแข็งเเกร่งด้านวิดีโอสั้น หรือ Reel  

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานวันนี้ (27 ก.ค.) ว่า ยอดขายของบริษัท เมตา แพลตฟอร์ม จำกัด (มหาชน) หรือ Meta ทำในไตรมาสที่สองปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งคาดการณ์การดำเนินธุรกิจในอนาคต (Outlook) ก็สดใส ทั้งหมดนับเป็นสัญญาณว่ายักษ์ใหญ่ด้านเครือข่ายสังคมออนไลน์ประสบความสําเร็จในการเป็นผู้ขายพื้นที่โฆษณาสู่ หนึ่งผู้เล่นในสมรภูมิวิดีโอสั้น หรือ Reel

ภาวะหุ้นเมตาล่าสุด (27 ก.ค. 2566)

โดยหุ้น Meta พุ่งสูงขึ้น 6.89%  มาอยู่ที่  319.15  ดอลลาร์ ในการซื้อขายนอกเวลา หลังจากบริษัทกล่าวว่ารายได้ในไตรมาสที่สองอยู่ที่ 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับการคาดการณ์เฉลี่ยของนักวิเคราะห์ที่ 3.11 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยคาดว่ายอดขายในไตรมาสปัจจุบันจะอยู่ที่ 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ถึง 3.45 หมื่นล้านดอลลาร์ซึ่งสูงกว่าประมาณการโดยเฉลี่ย

 

 

 

 

ทั้งนี้ บริษัทอยู่ในช่วงเดิมพันกับ Reels ซึ่งเป็นวิดีโอสั้นๆ ที่คล้ายกับที่ผู้ใช้เห็นบน TikTok คู่แข่ง เพราะต้องการดึงดูดผู้ใช้งานให้เข้าไปใน Facebook และ Instagram มากขึ้น ซึ่งรูปแบบวิดีโอสั้นนี้ประสบความสําเร็จในการเพิ่มจำนวนผู้ใช้งาน และตอนนี้ยังช่วยดึงดูดเม็ดเงินโฆษณาโดยครองการใช้จ่ายของพวกเขาหลังจากการกระชับงบประมาณทั่วทั้งอุตสาหกรรมในปี 2565

ในช่วงที่ผ่านมา เมตาปลดพนักงานหลายพันตําแหน่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นิยามว่าเป็น “ปีแห่งประสิทธิภาพ” หรือ “year of efficiency” จากนั้นไม่นานบรรดานักลงทุนจึง “ให้รางวัล” กับกลยุทธ์ดังกล่าวจนทําให้ราคาหุ้นของบริษัท เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในปีนี้ รวมทั้ง เมตายังลงทุนมหาศาลในปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) โดยมุ่งใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อให้คําแนะนําทั้งเนื้อหาและการโฆษณา ให้เหมาะกับความสนใจของผู้ใช้มากขึ้น

โดยรายได้สุทธิในไตรมาสที่สองอยู่ที่ 7.8 พันล้านดอลลาร์หรือ 2.98 ดอลลาร์ต่อหุ้นเทียบกับประมาณการของนักวิเคราะห์เฉลี่ย 2.92 ดอลลาร์ต่อหุ้น และมีผู้ใช้งานมากกว่า 3 พันล้านคน 

อย่างไรก็ดี การลงทุนในเทคโนโลยีเอไอ รวมถึงความโลกเสมือนจริง ยังคงมีราคาแพงแม้บริษัทจะมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาคส่วนดังกล่าวก็ตาม โดยมาร์ค กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 8.8 หมื่นล้านดอลลาร์ถึง 9.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2566 ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้

แผนก “Reality Labs” ซึ่งรับผิดชอบในการตระหนักถึงวิสัยทัศน์ของมาร์คสําหรับ เทคโนโลยีเมตาเวิร์ส มีแนวโน้มสูญเสียเม็ดเงินลงทุนมาก “อย่างมีนัยสำคัญ” ในปีนี้มากกว่าปีที่แล้ว โดยบริษัท เปิดเผยผ่านการอ้างถึงต้นทุนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการเติบโตของเทคโนโลยี

"แม้ว่าเมตาอาจพูดถึงเมตาเวิร์สน้อยลงในทุกวันนี้ แต่ก็ยังมุ่งมั่นที่จะทําให้เทคโนโลยีดังกล่าวเป็นจริง และการขาดทุนครั้งใหญ่ในแผนกReality Labs กําลังเพิ่มขึ้น" เดบร้า อาโฮ วิลเลียมสัน (Debra Aho Williamson) นักวิเคราะห์ของ Insider Intelligence เขียนในบันทึก

ในขณะเดียวกัน “เธรด” (Thread) เครือข่ายโซเชียลของเมตาก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่อยู่ในอัตราที่ช้าลง โดยบริษัท อยู่ในช่วงพัฒนาระบบเพื่อเพิ่มระยะเวลาที่ผู้ใช้แต่ละคนใช้บนแพลตฟอร์มดังกล่าว

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์