การเมืองฉุด‘หุ้นไทย’ไซด์เวย์ นักลงทุนเข้าสู่โหมดระวังตัว
"บล.เอเซียพลัส" ชี้ การเมืองเริ่มมีความไม่แน่นอนมากขึ้น มีโอกาสเกิดสูญญากาศ กดดันนักลงทุนชะลอลงทุน มองการจัดตั้งรัฐบาลไม่ควรเกิน2 เดือน “บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี” มองตลาดหุ้นไทยเข้าสู่โหมดระวังตัว "บล.กสิกรไทย" มองกรอบดัชนีไซด์เวย์ 1,515 - 1,540 จุด
การประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล วานนี้ (25ก.ค.)ถูกยกเลิกไป ขณะที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรแจ้งงดประชุมวิป 3 ฝ่ายในวันนี้และงดประชุมสภาฯ 27 ก.ค. ส่งผลดัชนี"หุ้นไทย"วานนี้แกว่งตัวในกรอบแคบๆปิดตลาดที่ 1,526.30 จุด เพิ่มขึ้น 2.49 จุด หรือ 0.16% มูลค่าซื้อขาย 42,460.61 ล้านบาท
โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 377.33 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 173.38 ล้านบาท และ บัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 507.29 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,057.99 ล้านบาท
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า ปัจจัยการเมืองเริ่มมีความไม่แน่นอนมากขึ้น มีโอกาสเกิดสูญญกาศทางการเมือง หากยืดเยื้อในช่วงรอยต่อการจัดตั้งรัฐบาล อาจมีสูญญากาศงบประมาณปี 2567
ขณะเดียวกันยังต้องรอผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำรองจากผู้ตรวจการแผ่นดินหรือไม่ ซึ่งผลการวินิจฉัยอาจเป็นได้ 2 แนวทางคือ
1.การเสนอชื่อซ้ำ “ไม่เป็นญัตติ” สามารถเสนอชื่อ แคนดิเดตนายกฯ จากก้าวไกล กลับมาเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภาได้อีกครั้ง
2.การเสนอชื่อซ้ำ “เป็นญัตติ” ไม่สามารถนำชื่อแคนดิเดต นายกฯจากก้าวไกล กลับมาเสนอต่อที่ประชุมได้ ทำให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป
นายเทิดศักดิ์ กล่าวว่า ส่วน"ตลาดหุ้นไทย"หลังจากนี้ นักลงทุนเริ่มชะลอการลงทุนและติดตามสถานการณ์การเมืองไทยใกล้ชิด สะท้อนจากกระแสเงินลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาเป็นเงินไหลออกตั้งแต่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมานี้ระดับ 4,000 ล้านบาท มองกรอบดัชนีหุ้นไทยระยะสั้น แนวต้าน 1,545 จุด และแนวรับ 1,510-1,520 จุด ในภาวะเช่นนี้ ซึ่งการจัดตั้งรัฐบาลไม่ควรรอนานเกิน 2 เดือน
นายกรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์ ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน บล. ซีจีเอส- ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ประเด็นการเมืองกดดันตลาดหุ้นไทยกลับเข้าสู่โหมดระวังตัว นักลงทุนต่างชาติและสถาบัน ยังคงไม่กลับเข้าลงทุนจนกว่าจะเห็นโอกาสการจัดตั้งรัฐบาลผสม คาดดัชนีตลาดหุ้นไทย จะแกว่งตัวในกรอบ 1,500-1,550 จุด ไปในช่วงเดือนนี้
"ดัชนีหุ้นไทย"วานนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงสิ้นวัน มาจากกลุ่มพลังงานและโรงกลั่นที่ช่วยหนุนดัชนีฯ จากปัจจัยราคาน้ำมันดิบ WTI และค่าการกลั่นที่ปรับตัวขึ้นรับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน แต่ปริมาณการซื้อขาย ค่อนข้างเบาบางจากตลาดยังอยู่ระหว่างการติดตามทิศทางนโยบายการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
นายรัฐศักดิ์ พิริยะอนนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นจากหุ้นในกลุ่มพลังงานและกลุ่มที่มีความเชื่อมโยงกับจีน ตอบรับเชิงบวกจีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ปรับตัวลงในกรอบแคบช่วงบ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทางประธานสภาฯ มีคำสั่งให้การงดการประชุมและการโหวตนายกฯในวันที่ 27 ก.ค.นี้
ดังนั้นทำให้เรามองหลังจาก"ตลาดหุ้นไทย"อาจเคลื่อนไหวไซด์เวย์ในกรอบแคบ 1,515 - 1,540 จุด รอพิจารณาประเด็นการเมืองภายในประเทศ และการประชุมธนาคารกลางหลักหลายแห่งในช่วงกลางถึงปลายสัปดาห์นี้ แต่ดัชนีอาจเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อยหากเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ และส่งสัญญาณการหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ย