ลิเบอเรเตอร์ เผย 7 สัญญาณอันตราย หุ้นสายดาร์ค

ลิเบอเรเตอร์ เผย 7 สัญญาณอันตราย หุ้นสายดาร์ค

ลิเบอเรเตอร์ จับมือ เพจวิตามินหุ้น เผย 7 สัญญาณอันตราย หุ้นสายดาร์ค ที่นักลงทุนต้องรู้ จุดสังเกตเหมือนเป็นสัญญาณเตือนภัย

บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด  ระบุว่า  “แมลงสาบไม่เคยมาตัวเดียว” เป็นคำพูดเอาไว้กล่าวเตือนใจนักลงทุนว่า ที่เราเห็นหุ้นร้ายๆ สร้างงบการเงิน ปลอมแปลงเอกสาร ไซฟ่อนเงิน อาจจะไม่ได้มีแค่บริษัทเดียว บางทีอาจจะมีอีกหลายบริษัทที่ทำแบบเดียวกัน เพียงแต่ยังไม่ปรากฎตัวออกมาให้เราเห็นก็เท่านั้น

โดยวิตามินหุ้นแนะนำวิธีการดูเบื้องต้นว่า บริษัทที่เข้าข่ายแบบไหนที่เราควรสังเกต และระวังตัวไว้บ้าง ไม่ได้บอกว่า ถ้าเจอแบบนี้ แล้วจะต้องเป็นบริษัทที่ไม่ดีทั้งหมด แต่ว่าให้มองเป็นจุดสังเกตเหมือนเป็นสัญญาณเตือนภัยเอาไว้บ้าง

1. สินค้าคงเหลือเยอะผิดปกติ

เรียกง่ายๆ ว่า สต๊อบบวม มีสินค้ารอส่งมอบเยอะ ถ้าในกรณีปกติ ยอดขายดี สินค้าคงเหลือมีอายุการใช้งานยาว ก็ไม่น่าห่วงมาก แต่บางครั้งผิดปกติที่ซื้อของมาตุนไว้ล่วงหน้าเยอะๆ กว่ายอดขาย หรือมากกว่าระดับ safety stock มากๆ ก็สันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจจะมีการไซฟ่อนเงิน หรือมีนอกมีในกับ supplier หรือเปล่า

2. Auditor แอบเตือนเบาๆ

เวลางบออก ผู้ตรวจสอบบัญชี จะมีเขียนรายงานผู้สอบบัญชีไว้ ถ้าเราเปิดมาแล้วเจอเอกสารสั้นๆ 1-2 หน้า เขียนว่า ไม่มีเงื่อนไข ให้สบายใจได้ว่าไม่น่าจะมีอะไร แต่ถ้าเปิดมาแล้วเจอตัวหนังสือเป็นสิบหน้า พร้อมระบุว่า มีเงื่อนไข มีข้อสังเกต ไม่แสดงความคิดเห็น ก็ต้องระวังกันไว้ก่อนว่า อาจจะมีความผิดปกติซ่อนอยู่

ถ้าเมื่อไหร่ เราเจอสัญญาณเตือนแบบนี้ ก็ให้ระวังตัวไว้ก่อนว่าอาจจะเป็น Yellow Flag หรือ Red Flag มีธงโบกสะบัดเตือนภัยเรา เหมือนเวลาลงเล่นน้ำทะเล แล้วเจอลมแรง ก็จะมีการปักธงเตือนไว้ บางทีถ้าเราไม่เชื่อ ลงทุนไปในบริษัทนั้น สุดท้ายกลายเป็นพายุพัดพาเงินในพอร์ตของเราให้หายวับไปกลับตา

3. มีกำไร แต่ไม่เคยจ่ายปันผล

ถ้าบริษัทที่เราลงทุนมีกำไร นอกจากราคาหุ้นที่เราอยากให้ขึ้นตามผลประกอบการแล้ว เราก็อยากได้ส่วนแบ่งเงินปันผล ที่แบ่งมาจากกำไรนั่นเอง ถ้าบริษัทไหนไม่เคยจ่ายเลย ทั้งๆ ที่กำไรดี หรือบอกว่าขอเก็บเงินไปลงทุนตลอดเวลา ก็ให้ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนว่า อาจจะเป็นกำไรทิพย์หรือกำไรจริงๆ ไม่ได้ดีอย่างที่เห็น

4. มีกำไร แต่เก็บเงินสดไม่เคยได้

หุ้นดีต้องมีกำไร ถูกครึ่งเดียว เพราะว่าในบางครั้ง อาจจะเป็นกำไรทางบัญชีที่เก็บเงินไม่ได้ หรือปล่อยเครดิตเทอมนาน ยังไม่ถึงเวลาเรียกเก็บเงิน ถ้านานๆ เข้า ก็จะเกิดการขาดสภาพคล่องเอาไปหมุนเวียนทำธุรกิจต่อไม่ได้

5. ลูกหนี้การค้าเยอะผิดปกติ

ลูกหนี้การค้า คือ การที่เราขายสินค้าไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับชำระเงินจากลูกค้า เป็นเพราะเราให้เครดิตเทอม อาจจะ 30 วัน 60 วัน 90 วัน แล้วแต่ตกลง บางทีลูกค้าเบี้ยวไม่จ่ายเป็นปีก็มี จนต้องตั้งสำรองหนี้ขึ้นมา เพราะฉะนั้นการที่ลูกหนี้การค้าเยอะมาก โดยเฉพาะมากกว่าการเติบโตของยอดขาย อาจจะเป็นสัญญาณอันตรายที่บอกเราว่า ขายดี แต่เก็บเงินไม่ได้ หรือ หลอกว่าขายดี ยังไม่ได้เก็บเงิน เพราะลูกค้าไม่มีตัวตนอยู่จริง

6. Backdoor เดินอ้อมเข้าประตูหลัง

โดยปกติ บริษัทที่จะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต้องผ่านเกณฑ์เข้มงวด ต้องยื่นเรื่อง ทำเอกสาร ส่ง filing ใช้เวลาเป็นปีๆ แต่ถ้าบริษัทไหนใช้ทางลัดเข้าซื้อกิจการของบริษัทที่มีในตลาดอยู่แล้ว โดยเฉพาะมักจะเป็นบริษัทที่อ่อนแอ งบการเงินไม่ดี เสร็จแล้วก็เปลี่ยนชื่อเป็นของตัวเอง ถ้าเจอแบบนี้ก็ต้องระมัดระวังบ้างก็ดี เพราะไม่ได้เข้าทางประตูหน้าแบบปกติ การตรวจสอบอาจจะไม่รัดกุมเท่าบริษัทอื่นที่เข้าทางปกติ

แต่ไม่ใช่ว่าทุกเคสที่ backdoor จะไม่ดี เพราะในอดีต หุ้นอสังหาอย่าง AP (Asian Property) ก็ backdoor บริษัทพื้นสำเร็จรูป พีซีเอ็ม เข้ามาเช่นกัน

7. เปลี่ยนชื่อบ่อย เพื่อให้ลืมว่าอดีตฉันคือใคร

ถ้าเพื่อนเราเปลี่ยนชื่อปีละ 2-3 รอบ เจอกันจำไม่ได้ ไม่รู้จะเรียกชื่ออะไรดี ก็ดูน่าแปลกใจ บริษัทที่เปลี่ยนชื่อบ่อยทุกปีก็เช่นกัน เราต้องดูว่าเหตุผลที่เปลี่ยนเพราะทำธุรกิจใหม่ เลยเปลี่ยนชื่อให้เข้ากัน หรือจงใจเปลี่ยนชื่อเพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ ให้นักลงทุนลืมไปว่า เคยทำอะไรที่ไม่ดีไว้ในอดีต เหมือนเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่กับชื่อใหม่ แต่อย่าลืมว่า เจ้าของคือคนเดิม