เปิด 4 ทางออกประเทศ วันโหวตนายกรอบ 2 หุ้นอะไรได้รับอานิสงส์

เปิด 4 ทางออกประเทศ วันโหวตนายกรอบ 2 หุ้นอะไรได้รับอานิสงส์

กรุงศรี พัฒนสิน เปิด 4 ทางออกประเทศ วันโหวตนายกรอบ 2 หุ้นอะไรได้รับอานิสงส์ หลังรอบแรก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ผ่าน

บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุความคืบหน้าการเมืองวานนี้ คือ 1. ศาลรัฐธรรมนูญ นัดพิจารณาคุณสมบัติ พิธาฯ 19 ก.ค. วันเดียวกับที่จะมีการโหวตนายกฯ ครั้งที่ 2 และ 2 ผลสรุปจากการประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาลจะนำเสนอชื่อคุณพิธา อีกครั้ง โดยกรณีที่ไม่ได้รับเสียงเพิ่มจากเดิม พรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทน ขณะที่การนำเสนอมาตรา 272 เป็นการเสนอพรรคก้าวไกล โดยไม่เกี่ยวกับพรรคร่วมฯที่เหลือ

โดยรวมเห็นโครงสร้างการเมืองที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ ท่าทีพรรคก้าวไกลยังยืนยันเสนอการแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งส.ว. ส่วนใหญ่ยังกังวลและไม่มีแสดงท่าทีเปลี่ยนจุดยืน เชื่อว่าตลาดน่าจะคงมุมมองมองโอกาสที่แกนนำตั้งรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยเพิ่มขึ้น เชิงกลยุทธ์มองหุ้นที่ปรับฐานจากจิตวิทยาลบการเมืองไม่ชัดเจนทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง อาทิ GULF, CRC, CPALL, BJC, CPAXT, TRUE, THCOM ระยะสั้นมองเน้น GULF, CRC, CPAXT, THCOM

ทั้งนี้ ยังคงมองฉากทัศน์การเมืองเป็นไปได้ 4 กรณี

กรณีที่ 1 คือ คุณพิธา ได้รับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล+ 8 พรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันจะจัดตั้งรัฐบาล 311 เสียง มองความชัดเจนหนุน SET แต่ความเสี่ยงนโยบายต่อตลาดทุนระยะกลางเป็นอะไรที่ต้องติดตาม และอาจจำกัดกรอบราว 1600-1620 จุด กลุ่มเคลื่อนไหวดีกว่าตลาด คือ กลุ่มหุ้นอิงการบริโภคขนาดกลางอิงรากฐานแข็งแรงขึ้น+ได้ประโยชน์รัฐสวัสดิการ และนโยบายอื่นๆของพรรคก้าวไกล อาทิ CPAXT, ICHI, MC, GLOBAL, BCH, CHG, HANA, AMATA, WHA, BBL, KTB, TTB กลุ่มที่เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจปัจจุบันในภาคท่องเที่ยว อาทิ ERW, MINT

กรณีที่ 2 คือ คุณพิธา ไม่ได้รับการโหวตเป็นนายกฯ ขณะที่พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำแทนและยังตั้งรัฐบาลกับ 8 พรรคร่วมปัจจุบัน 311 เสียง มองความชัดเจนหนุน SET แต่ความเสี่ยงนโยบายต่อตลาดทุนระยะกลางจะต่ำกว่ากรณีที่ 1 จะทำให้แกว่งขึ้นกรอบราว 1680-1720 จุด กลุ่มเคลื่อนไหวดีกว่าตลาด คือ กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTGC, GULF, BGRIM) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC, TRUE, THCOM) กลุ่มอสังหาฯ (SC, SIRI) และหากไม่เกิดการชุมนุมที่มีความรุนแรง กลุ่มที่เคลื่อนไหวบวกตามมากลุ่มอิงการบริโภคภายใน คือ กลุ่มธนาคาร (BBL, KTB, TTB) กลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT, CRC, BJC, DOHOME, GLOBAL) กลุ่มนิคม (AMATA, WHA) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, ERW, MINT)

กรณีที่ 3 คือ คุณพิธา ไม่ได้รับการโหวตเป็นนายกฯ ขณะที่พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำแทน ขณะที่พลิกขั้วไปจับพรรคว่าที่ฝ่ายค้าน ประเมินเสียงราว 280-310 เสียง มองความชัดเจนหนุน SET แต่ความเสี่ยงนโยบายต่อตลาดทุนระยะกลางจะต่ำกว่ากรณีที่ 1 จะทำให้แกว่งขึ้นกรอบราว 1620-1680 จุด กลุ่มเคลื่อนไหวดีกว่าตลาด คือ กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTGC, GULF, BGRIM, PTTGC) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC, TRUE, THCOM) กลุ่มรับเหมาฯ (ITD, STEC) แต่ความเสี่ยงการชุมนุมที่อาจจะเกิดขึ้นมีความตึงเครียดกว่ากรณีที่ 2 จะสร้างแรงกดดันต่อกลุ่มอิงการบริโภคภายในจนกว่าการชุมนุมจะสิ้นสุด คือ กลุ่มธนาคาร (BBL, KTB, TTB) กลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT, CRC, BJC) กลุ่มนิคม (AMATA, WHA) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, ERW, AWC)

กรณีที่ 4 คือ คุณพิธา ไม่ได้รับการโหวตเป็นนายกฯ ขณะที่การจัดตั้งรัฐบาลจะอยู่ในลักษณะเสียงข้างน้อย คือ ว่าที่พรรคร่วมฝ่ายค้านปัจจุบัน ประเมินเสียงราว 140-150 เสียง มองกดดัน SET จากทั้งการขับเคลื่อนนโยบายขาดเสถียรภาพ และมีความเสี่ยงการชุมนุมที่อาจจะเกิดขึ้นมีความตึงเครียดมากสุดในทุกกรณี ประเมิน SET กรอบ 1350-1460 จุด กลุ่มที่เคลื่อนไหวดีกว่าตลาดมองกลุ่มถูกกดดันจากการเมือง อาทิ GULF, BGRIM, THCOM, TRUE, STEC, STPI อิงความต้องการโลก (Global Plays) อาทิ HANA, KCE, DELTA, CPF, GFPT, PTTGC, IVL ส่วนกลุ่มอิงภายใน+ท่องเที่ยวจะเผชิญภาพลบ