ภาวะบีบคั้นทางเลือก “JASIF” ลดค่าเช่าแลกยืดอายุสัญญา

ภาวะบีบคั้นทางเลือก “JASIF”  ลดค่าเช่าแลกยืดอายุสัญญา

สถานการณ์บีบคั้นผู้ถือหน่วย กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบรนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF ก็ว่าได้เมื่อ มีการเสนอปรับเงื่อนไขใหม่ภายใต้ข้อมูลที่ปรากฏชัดในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ว่ารายได้ค่าเช่าของ JASIF เข้าสู่ช่วง Downtrend

          ด้วยฐานะรายได้ และหนี้สินที่ล่อแหลมของ บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด หรือ TTTBB  ผู้ให้บริการบรอดแบนด์ 3BB ของ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ในฐานะผู้เช่าเสาสัญญาณ JASIF  ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่ารายได้ลดลง แต่ภาระหนี้สูง

          ส่งสัญญาณเริ่มจากการแจ้งเดือนมี.ค. 2566  จาก 3BB จ่ายค่าเช่าให้กองทุนไม่ครบถ้วนยอดค้างชำระบางส่วนจำนวนไม่เกิน 43 ล้านบาท   ช่วงเดือนเม.ย. 2566 ได้รับค่าเช่าเท่ากับ 943.1 ล้านบาท และยังมียอดค้างชำระบางส่วนจำนวน 193.1 ล้านบาท

            ตามเงื่อนไขสัญญาสามารถชำระค่าเช่าล่าช้าได้ไม่เกิน 15 วัน นับจากวันครบกำหนดชำระ (Due date) โดยในระหว่างนี้ 3BB จะต้องเสียค่าปรับในอัตรา 7.50% ต่อปีจนกว่าจะชำระค่าเช่าครบถ้วน

         หากประเมินจากรายได้ของ TTTBB  รายไตรมาสที่ผ่านมาเป็นขาลงที่น่ากังวลใจเพราะรายได้ลดลงพร้อมกับค่าบริการรายเดือน  จากไตรมาส 1 ปี 2566 รายได้ 4,614 ล้านบาท มีค่าบริการรายเดือน หรือ ARPU ที่ 596 บาทต่อเดือนต่อราย ,ไตรมาส 2 ปี 2566 รายได้  4,564 ล้านบาท  ARPU 591 บาทต่อเดือนต่อราย

       ไตรมาส 3/2565  รายได้ 4,474  ล้านบาท ARPU  584 บาทต่อเดือนต่อราย ,ไตรมาส 4/2565 รายได้ 4,376  ล้านบาท  ARPU 577 บาทต่อเดือนต่อราย  และไตรมาส 1/2566 รายได้ 4,215 ล้านบาท  ARPU 566 บาทต่อเดือนต่อราย  และเมื่อเทียบคู่แข่งตลาดบรอดแบนด์ แล้ว 3BB อยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบที่ตัดราคาลงมาแข่งดึงลูกค้าไม่ได้

      เมื่อเจอค้างค่าเช่าติดต่อกันทำให้เกิดความไม่มั่นใจต่อรายได้ในอนาคตตามมา  และเป็นที่มาทาง JAS  แจ้งการขาย 3BB และ หน่วยลงทุน JASIF พร้อม พิจารณาอนุมัติแก้ไขรายละเอียดบางประการในสัญญาจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐาน  

      ภาวะบีบคั้นทางเลือก “JASIF”  ลดค่าเช่าแลกยืดอายุสัญญา

ตามเงื่อนไขใหม่ถือว่าใกล้เคียงกับข้อเสนอที่ทาง บริษัท แอดน์วานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส  จำกัด(มหาชน) หรือ ADVANC เสนอไปก่อนหน้านี้แต่ไม่ผ่านกรณีปรับผลตอบแทน

       ประกอบด้วย ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2566 TTTBB  สามารถ "จ่ายเฉพาะค่าเช่ารายเดือนตามสัญญาแก้ไขเพิ่มเติม " และแทนที่สัญญาเช่าหลัก มูลค่า 654.39 ล้านบาท แต่ไม่สามารถชำระค่าเช่าภายใต้สัญญาแก้ไขเพิ่มเติมและแทนที่สัญญาประกันรายได้ค่า มูลค่า 288.69 ล้านบาทได้ โดย TTTBB หยุดพักการชำระค่าเช่าดังกล่าว 1 ก.ค.2566 เป็นต้นไป

       TTTBB สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้เพื่อจะได้มีกระแสเงินสดที่เพียงพอในการบริหารสภาพคล่องของ TTTBB และสามารถที่จะชำระเงินค่าเช่าให้แก่กองทุนต่อไป TTTBB จึงมีความจำเป็นที่จะต้องขอแก้ไขสัญญาที่มีกับกองทุน

       " การขยายอายุของสัญญา" แก้ไขเพิ่มเติมและแทนที่สัญญาเช่าหลักจากเดิมสิ้นสุดวันที่ 29 ม.ค.2575 ไปเป็นวันที่ 31 ธ.ค.2581 และกำหนดอัตราค่าเช่าตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค.2575 - 31 ธ.ค.2575 จะเท่ากับ 402.37 บาทต่อคอร์กิโลเมตรต่อเดือน ทั้งนี้ อัตราค่าเช่าตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2576 - 31 ธ.ค.2581 จะมีการปรับขึ้นทุกวันที่ 1 ม.ค.ของทุกปีตามอัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) แต่ไม่เกิน 3% ต่อปี และไม่ต่ำกว่า 0% ต่อปี

       หากกองทุนใช้สิทธิต่ออายุดังกล่าวและได้เข้าทำสัญญาเช่าฉบับใหม่กับ TTTBB แล้ว ให้ถือว่าข้อตกลงตามหนังสือของ JAS ในเรื่องการต่ออายุสิ้นสุดลง  ซึ่งจะมีการพิจารณาผ่อนผันการผิดนัดชำระค่าเช่าภายใต้สัญญาแก้ไข นับจากงวดเดือน ก.ค.2566 (ซึ่งจะครบกำหนดชำระในวันที่ 17 ก.ค.66) จนถึงวันที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนมีมติพิจารณาเรื่องที่เสนอ โดยกองทุนจะไม่คิดดอกเบี้ยผิดนัด หรือเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ

      ทั้งนี้ TTTBB จะชำระค่าเช่าค้างชำระแบ่งเป็น 6 งวด เริ่มตั้งแต่งวดเดือน ม.ค.2567 เป็นต้นไป จนถึงงวดเดือนมิ.ย.2567 โดยจะชำระในวันครบกำหนดชำระค่าเช่าตามสัญญาเช่าหลัก

        จากข้อมูลดังกล่าวเท่ากับผู้ถือหน่วย JASIF ต้องพิจารณาขยายอายุสัญญาเช่าออกไปอีก 6 ปี ภายใต้ ไม่มีสัญญาประกันรายได้ที่จะหยุดจ่ายทันที เดือนก.ค. 2566  โดยไม่คิดค่าดอกเบี้ยกรณีจ่ายล่าช้า และอัตราการปรับค่าเช่าจะมีการปรับไม่สูงไปกว่าเงินเฟ้อ  

     “ถือว่าผู้ถือหน่วยต้องเลือกระหว่างยอมให้ผลตอบแทนลดลงจากปัจจุบันแต่ได้ผลตอบแทนระยะยาวมากขึ้น หรือจะไปเสี่ยงเจอการผิดนัดชำระแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนไม่สามารถจ่ายได้จริงๆ “

    ทาง บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)  วิเคราะห์จากที่ TTTBB ได้ขอลดค่าเช่าลง 31% ท่ามกลางปัญหาสภาพคล่องที่ยังยืดเยื้อ

      คาด TTTBB ขอลดค่าเช่าแต่ยืดระยะเวลาการเช่านานขึ้นหลังจากชำระค่าเช่าล่าช้าเป็นเวลา 5 เดือนติดต่อกัน(มี.ค. - มิ.ย. 66) ในที่สุดTTTBB ซึ่งเป็นผู้เช่าแต่เพียงผู้เดียวของJASIF ก็ได้ขอยกเลิก “สัญญาแก้ไขเพิ่มเติมและแทนที่สัญญาประกันรายได้ค่าเช่า” ซึ่งคิดเป็น31% ของรายได้รายปีของJASIF

     นอกจากนี้TTTBB ยังขอให้ผู้ถือหน่วยJASIF ขยายสัญญาเช่าหลัก(69% ของรายได้) ออกไปอีก7 ปีโดยเปลี่ยนวันหมดอายุจาก 29 ม.ค.2575 เป็น31 ธ.ค.2581 อัตราค่าเช่าสำหรับช่วงที่ขยายออกไปจะเริ่มต้นที่ 402 บาท/คอร์กิโลเมตร/เดือน(มีการปรับค่าเช่าตามอัตราเงินเฟ้อในแต่ละปี)

       อย่างไรก็ตาม JAS ได้ขอให้ผู้ถือหน่วยJASIF พิจารณาและอนุมัติการแก้ไขสัญญาที่เสนอในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นภายใน45 วัน (สิ้นสุดวันที่ 25 ส.ค. 66) เป็นผลให้ลดคาดการณ์กำไรจากการลงทุนสุทธิปี 2566 ลง12% หลังจากปรับลดรายได้ลง10% เพื่อสะท้อนรายได้ค่าเช่าที่ลดลงในช่วงสี่เดือนสุดท้ายของปี 2566

     ทางTTTBB เสนอการขยายสัญญาเช่าเป็นเวลา7 ปีซึ่งนานกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายเวลาการเช่าเพียง 3 ปีการคาดการณ์ใหม่สะท้อนข้อเสนอของ TTTBB และคิดเป็น IRR ที่ 6.2%

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์