JAS จนมุม | ออฟเรคคอร์ด

JAS จนมุม | ออฟเรคคอร์ด

ออกอาการพร้อมบ่งบอกให้นักลงทุนเห็น แล้วว่า JASIF ตกอยู่ใน “ภาวะจำยอม” จากปัญหาสภาพคล่องที่จ่ายเงินล่าช้าของ 3BB ให้กับกองทุนมาตั้งแต่เดือนมี.ค. 2566 จนจำใจต้องจ่ายค่าปรับ - ดอกเบี้ย

๐๐๐  JAS จนมุม

   ออกอาการพร้อมบ่งบอกให้นักลงทุนเห็น แล้วว่า JASIF ตกอยู่ใน “ภาวะจำยอม”  จากปัญหาสภาพคล่องที่จ่ายเงินล่าช้าของ 3BB ให้กับกองทุนมาตั้งแต่เดือนมี.ค.2566 จนจำใจต้องจ่ายค่าปรับ - ดอกเบี้ย 

    เมื่อทำแบบนี้ได้ไม่นานสุดท้ายเข้าสู่การ “ยอมรับ” กับผู้ถือหน่วยด้วยการขอปรับสัญญาฉบับใหม่ที่ไม่ได้แตกต่างกับข้อเสนอของ ADVANC ก่อนหน้านี้ที่ไม่ผ่านผู้ถือหน่วย     

    เงื่อนไขใหม่ ทั้ง ยกเลิกประกันรายได้ค่าเช่า - สัญญาแก้ไขเพิ่มเติมและแทนที่สัญญาให้บริการจัดหาผู้เช่าทรัพย์สิน - ขยายอายุของสัญญาเช่าไปถึงปี 2581  และยังกำหนดอัตราค่าเช่าใหม่  พ่วงขอผ่อนผันการผิดนัดชำระค่าเช่านับจากงวดเดือนก.ค ไปอีก

    เรื่องนี้ เสมือนบีบ ผู้ถือหน่วยที่ต้องแลกว่าจะยอมเพื่อให้ยังได้รับ “ผลตอบแทนในระยะยาว” หรือจะบอกปัดแล้วเจอการจ่ายเงินค่าเช่าที่มีความ “เสี่ยงไม่ได้ทุกเดือนไหม” 

   งานนี้ผู้ที่ตกในภาวะจนมุมสุดๆ ต้องให้ “เสี่ยพิชญ์” ที่เจอ บีบจากสถาบันการเงิน  จนต้องหาทางลงให้ JASIF  

๐๐๐

    ความเคลื่อนไหวทางการเมือง ก่อนโหวตนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของไทย ทำให้กลายเป็นปัจจัยหลักสำหรับตลาดหุ้นไทยทั้งสัปดาห์ หลัง กกต. มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ปม ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’  ถูกร้องถือหุ้นสื่อ ITV พร้อมขอให้สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะตัดสินจากใช้เวลากว่า 3 วัน รับฟังและพิจารณาเห็นว่ามีข้อมูลพยานหลักฐานเพียงพอสามารถลดความไม่พอใจระดับหนึ่งหลังศาลเลื่อนพิจารณาออกไป      

๐๐๐

    ส่วนการโหวตนายกฯ วันนี้ประธานสภาฯ คาดลงมติเลือกนายกฯ เวลา 17.00 น. จากการให้การอภิปรายก่อนโหวต 6 ชั่วโมง ถ้าโหวตไม่ผ่านแล้วสามารถนัดโหวต 19-20 ก.ค. แต่ทั้งนี้หากยังไม่สามารถโหวตเลือกได้อีกจะกลายเป็นกรณีเลวร้ายสำหรับหุ้นไทยเพราะเกิดยืดเยื้อออกไปอย่างไม่มีกำหนด 

 ๐๐๐

     ดัชนีหุ้นไทยสะท้อนความไม่เชื่อมั่นจากการปรับตัวลงช่วงบ่ายมาติดลบ และปิดตลาดไปที่  1,491.14  จุด   ลดลง   5.82 จุด เปลี่ยนแปลง 0.39% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 52,288.15  ล้านบาท  

 ๐๐๐

    หุ้นทุนใหญ่ที่ขึ้นมารอบนี้ GULF สามารถบวกได้ในรอบ 4 วันทำการ ที่ราคา  47.25 บาท  เพิ่มขึ้น  3.85%  และ SIRI  ปิดที่ 1.87 บาท  เพิ่มขึ้น 1.08%  ทำให้มีการเปิดช่องโอกาสที่พรรคอันดับ 2 จะได้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลทำให้นโยบายเอื้อกับฝ่ายทุนการเมือง 

๐๐๐

     ด้าน NUSA โร่ชี้แจงกลับ 3 ประเด็น หลัง ตลท. จี้ผู้สอบบัญชีแสดงความคิดเห็นแบบมีเงื่อนไข กรณี 1.ซื้อโรงแรมเยอรมนีไม่ได้รับมัดจำ 624 ล้านบาท ผู้ขายหุ้นคือ บุคคลเดียวกับผู้ขายทรัพย์เดิม และบริษัทได้รับการโอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว  2.ยืดเวลาเงินมัดจำให้ “มอร์ มันนี” เพราะตรวจสอบรายการค่าใช้จ่าย ยังไม่แล้วเสร็จแต่คิดดอกเบี้ยแล้ว  และ 3.หนี้สินจากคดี 1,723 ล้านบาท คดียังไม่สิ้นสุด และมีแผนเพิ่มทุน PP 1.3 หมื่นล้านบาท 

     ประเด็นสุดท้ายทำเอานักลงทุนยังไม่เชื่อมั่นพาราคาหุ้นลงต่อ จนต้องออกมา “ชี้แจงอีกรอบ”  แลกการเข้าถือหุ้น บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) กับกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ WEH ทำให้ราคาหุ้นมีรีบาวด์ให้เห็นมาปิดที่  0.55 บาท เพิ่มขึ้น  1.85% 

๐๐๐

    ความกังวลใจงบ ไตรมาส 2 ไม่สวย และถูกผู้สอบบัญชีเช็กละเอียดยิบ หลังเกิดเคส ตกแต่งงบการเงิน หุ้น STARK ที่ลือลั่นตลาดทุนไทย ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับปล่อยสินเชื่อเจอกระแสข่าวลบไปตามๆ กัน ว่าหนี้เน่าเพิ่ม ตามมาด้วย สำรองฯ สูง กำไรพลิกเป็นคนละเรื่อง

    ราคาหุ้น  AEONTS กระทบงบ Q2/66 ที่ออกมามีหนี้ตามเก็บไม่ได้สูงขึ้นจนทำเอาราคาหุ้นกระทบไปแล้ว  ถัดมา DOHOME -GLOBAL นำร่องลงลึกไปก่อน มีกระแสตามเก็บหนี้เหล็กไม่ได้   ตามมาด้วยกลุ่ม  JMART ที่โดนพุ่งเป้าไปที่ JMT  ซึ่งมีแผลเดิมคือ SINGER  และ SGC อยู่แล้ว   ด้าน  KTC ไม่พ้นเจอคำว่า “หนี้เน่าเพิ่ม” พาราคาหุ้นลงมาปิดที่ 45.50  บาท  ลดลง  2.67 %  

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์