ดาวโจนส์พุ่งกว่า 200 จุด ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจแกร่ง

ดาวโจนส์พุ่งกว่า 200 จุด ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจแกร่ง

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันอังคาร(27มิ.ย.)พุ่งขึ้นกว่า 200 จุด ขานรับตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 12.2% สู่ระดับ 763,000 ยูนิตในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. ปี 2565

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 212.03 จุด หรือ 0.63% ปิดที่ 33,926.74 จุด
  • ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 49.59 จุด หรือ 1.15% ปิดที่ 4,378.41 จุด
  • ดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 219.89 จุด หรือ 1.65% ปิดที่ 13,555.67 จุด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 212.03 จุด หรือ 0.63% ปิดที่ 33,926.74 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 49.59 จุด หรือ 1.15% ปิดที่ 4,378.41 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 219.89 จุด หรือ 1.65% ปิดที่ 13,555.67 จุด

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 12.2% สู่ระดับ 763,000 ยูนิตในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2565 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 675,000 ยูนิต จากระดับ 680,000 ยูนิตในเดือนเม.ย.

ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 109.7 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2565 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 104.0 จากระดับ 102.5 ในเดือนพ.ค.

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 1.7% ในเดือนพ.ค. โดยปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดลดลง 0.9%

ราคาหุ้นของบริษัทวอลกรีนส์ บู้ทส์ อัลลิอันซ์ ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านขายยาขนาดใหญ่ของสหรัฐ ดิ่งลงกว่า 8% หลังเปิดเผยกำไรต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้รับผลกระทบจากการลดลงของปริมาณการฉีดวัคซีนโควิด-19 และยอดขายชุดตรวจโควิด-19

สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมิ.ย. รวมทั้งสัปดาห์สุดท้ายของไตรมาส 2 และครึ่งปีแรกของปี 2566

ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นมากกว่า 1% ในไตรมาส 2 ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 พุ่งขึ้นมากกว่า 5% ส่วนดัชนีแนสแด็กทะยานขึ้นมากกว่า 9%

นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ทั้งนี้ นายพาวเวลมีกำหนดเข้าร่วมการเสวนาว่าด้วยนโยบายการเงินของธนาคารกลาง ซึ่งธนาคารกลางยุโรป (ECB) จัดขึ้นที่เมืองซินตรา ประเทศโปรตุเกส ในวันพุธที่ 28 มิ.ย.

นอกจากนี้ นายพาวเวลมีกำหนดเข้าร่วมการเสวนาว่าด้วยเสถียรภาพทางการเงิน ซึ่งธนาคารกลางสเปนจัดขึ้นที่กรุงมาดริดในวันพฤหัสบดีที่ 29 มิ.ย.

ก่อนหน้านี้ ในการกล่าวถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์ที่แล้ว นายพาวเวลกล่าวย้ำว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง สู่ระดับ 5.50-5.75% ภายในสิ้นปีนี้

นายพาวเวลยังกล่าวว่า การประกาศคงอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนนี้ เป็นเพียงการพักการดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยเพียงชั่วคราว มากกว่าที่จะบ่งชี้ว่าเฟดได้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์ โดยดัชนีดังกล่าวเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ ซึ่งสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)