ตลท.จ่อเฮียริ่งโรบอตเทรด รายใหญ่ชี้ ไม่กระทบตลาด

มูลค่าการซื้อขายผ่าน Algorithmic Trading มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2564 เดิมอยู่ระดับ 22-23% ของมูลค่าการซื้อขายรวมตลาดหลักทรัพย์ฯ มาอยู่ที่ระดับ 30.57% ในช่วงสิ้นปี 2564 ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดที่ระดับ 39.98% ช่วงเดือนมี.ค. ล่าสุดเดือนพ.ค.2566 อยู่ที่ 

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า  ปัจจุบันมูลค่าการซื้อขายตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงมาเหลือเฉลี่ยต่อวันระดับ 3.2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากนักลงทุนบุคคลทั่วไปชะลอซื้อขายหุ้นไทย ส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศมีสัดส่วนการซื้อขายที่คงที่ แต่นักลงทุนต่างประเทศนั้นมูลค่าซื้อขายที่ยังคงเดิมไม่ได้ลดลง เพราะนักลงทุนต่างชาติมีการปรับพอร์ตตลอดเวลา 

โดยปัจจุบันการส่งคำสั่งซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศนั้น ไม่ได้ใช้คนในการส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นแล้ว แต่ใช้โปรแกรมเทรด ส่งผลให้สัดส่วนการซื้อขายด้วยโปรแกรมเทรดปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่โปรแกรมเทรดที่ส่งคำสั่งซื้อขายมาที่ตลาดหุ้นไทยนั้น ไม่ใช่เป็นโปรแกรม high frequency trading (HFT) ทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนการส่งคำสั่งแบบ HFT ยังไม่ได้สูงมาก ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็มีการติดตามเรื่องนี้อยู่ และจะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็น (เฮียริ่ง) ในเรื่องนี้  

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์  (บล.) ทิสโก้ กล่าวว่า มูลค่าการซื้อขายผ่าน Algorithmic Trading ซึ่งเป็นโปรแกรมเทรดที่ส่วนใหญ่นักลงทุนต่างชาติใช้กันนั้นมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นมากช่วงต้นปีนี้ สาเหตุจากนักลงทุนรายย่อยในประเทศเทรดน้อยลง จากความกังวลปัจจัยความเสี่ยงทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังเทรดอย่างต่อเนื่อง แต่สัดส่วน มูลค่าการซื้อขายดังกล่าวก็ยังไม่ได้เพิ่มขึ้นมากจนผิดปกติ 

ขณะที่นักลงทุนรายย่อยยังกระทบน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเดย์เทรด อาจได้รับผลกระทบบ้าง เช่น ความเร็ว และความถี่ทำไม่ทัน โปรแกรมเทรดที่นักลงทุนต่างชาติใช้กัน แต่ในประเด็นนี้ทาง ตลท.เข้าใจดีและมีการควบคุมดูแล เรื่องความเร็วของโปรแกรมเทรดที่เข้ามาอยู่ในตลาดอยู่แล้ว ทำให้นักลงทุนบุคคลรายย่อย จริงๆ ก็ไม่ได้การเสียเปรียบนักลงทุนต่างชาติ  

“เราไม่เกิดปัญหาโปรแกรมเทรดเหมือนเคสในต่างประเทศ ที่ทำให้นักลงทุนบุคคลส่วนใหญ่เสียเปรียบ เพราะนักลงทุนบุคคลรายย่อยที่เทรดจากปัจจัยพื้นฐาน ไม่ได้รับผลกระทบอยู่แล้ว อีกทั้งโปรแกรมเทรด ยังทำให้สภาพคล่องในตลาดดีขึ้น ซื้อขายคล่องขึ้นด้วย”

สำหรับภาพรวมในอุตสาหกรรม บล. ตอนนี้วอลุ่มเทรดที่เป็นโปรแกรมเทรดก็เข้ามากระจายในหลายๆ บล.หากเป็นบล.ที่มีพันธมิตร นักลงทุนต่างชาติ วอลุ่มส่วนนี้มากกว่ารายอื่นในส่วน บล.ทิสโก้ มีเข้ามาบ้างยังเป็นปกติ

อีกส่วนหนึ่งเพราะหุ้น DELTA ที่เป็นหุ้นขนาดใหญ่ของตลาดติด cash balance ทำให้มีแรงขายออกมาฉุดตลาดราคาหุ้นปรับตัวลง 1% เท่ากับดัชนี SET ลดลง 1 จุด ส่วนปัญหาบมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) ยังส่งผลกระทบความเชื่อมั่นนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้น กระบวนการสอบตรวจข้อเท็จจริงต่างๆ คงจะต้องทำเร็วขึ้นเพื่อทุกอย่างมีความชัดเจนและปัญหาได้รับการแก้ไข 

 นายวัชระ แก้วสว่าง หรือ “เสี่ยป๋อง” นักลงทุนรายใหญ่สไตล์เทคนิค บอกว่า สำหรับกรณีใช้โปรแกรมเทรดของนักลงทุนต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น ยอมรับว่าระบบเทรดดังกล่าวเร็วกว่า แต่มองไม่ได้กระทบการซื้อขายของนักลงทุนในประเทศ แต่ที่เห็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นนั้น คาดจะมาจากบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไม่ดี ส่งผลให้นักลงทุนรายย่อยเทรดน้อยลง เนื่องจากรอความชัดเจนโดยเฉพาะปัจจัยเรื่องการเมือง 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์