ลุ้นต่างชาติซื้อ 'หุ้นไทย' ครึ่งปีหลัง‘แสนล้าน’ หวังตั้งรัฐบาลได้ - เฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ย

ลุ้นต่างชาติซื้อ 'หุ้นไทย' ครึ่งปีหลัง‘แสนล้าน’ หวังตั้งรัฐบาลได้ - เฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ย

“ต่างชาติ” ขายสุทธิ “หุ้น - บอนด์” ไทยรวม 1.2 แสนล้าน นายกสมาคมนักวิเคราะห์ฯ ชี้ ต่างชาติยังเทขายหุ้นไทยต่อเนื่อง เหตุ ความแน่นอนทางการเมือง แต่เชื่อครึ่งปีหลัง ฟันด์โฟลว์ไหลเข้า “แสนล้าน” หวัง เฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ย - จัดตั้งรัฐบาลได้ "บล.กสิกรไทย"  มองระยะสั้นมีแรงเทขาย 

 ในปีนี้เป็นปีที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาเทขายหุ้นไทยหนักติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 (ก.พ.- พ.ค. )ถึง 85,844.75 ล้านบาท ( ณ 23 พ.ค. ) หลังปี 2565 ที่มียอดซื้อสุทธิ 202,694.36 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้ไทย  34,202 ล้านบาท จากปีก่อนซื้อสุทธิ 46,661 ล้านบาท

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ จำกัด และนายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) กล่าวว่า  นักลงทุนต่างชาติ เริ่มเทขายหุ้นไทยหนักๆ ตั้งแต่เดือนก.พ. เนื่องจาก การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวโตไม่เร็วอย่างที่คาดหวังไว้ เพราะจากนักท่องเที่ยวจีนยังเดินทางเข้ามาไม่มาก 

รวมถึงผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน (บจ.)ไทยออกมาไม่ค่อยดี   ขณะที่ตลาดหุ้นในต่างประเทศกลับมาฟื้นตัวดี กว่าตลาดหุ้นไทย จึงมีแรงเทขายหุ้นไทยออกมาในช่วงก่อนเลือกตั้ง และหลังเลือกตั้งแล้ว มีความกังวลว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ แม้จะมีความคืบหน้าแกนนำ 8 พรรคการเมืองลงนามMOUเพื่อเตรียมจัดตั้งรัฐบาล แต่ยังตอบไม่ได้100% ว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้  

นอกจากนี้นโยบายของพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลที่คาดมีผลกดดันผลดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ดังนั้นทำให้นักลงทุนต่างประเทศโยกเงินไปลงทุนตลาดหุ้นที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า 

นายไพบูลย์ กล่าวว่า  เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลัง  มีโอกาสเกิด “Catch-up Rally”  เพราะปีนี้ตลาดหุ้นไทย Underperform ตลาดหุ้นโลก 16% และเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอยในครึ่งปีหลัง และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะหยุดขึ้นดอกเบี้ยแล้วในการประชุมครั้งถัดไป จากเงินเฟ้อมีสัญญาณชะลอตัว   ทำให้มีเม็ดเงินไหลออกจากตลาดหุ้นสหรัฐ หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาแล้ว 8%  มาเข้าตลาดหุ้นเอเชีย  โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยที่ราคาไม่แพง และภาคท่องเที่ยวจะฟื้นตัวแรงจากนักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามามากขึ้น จากรัฐบาลใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น

 

     รวมถึงหากจัดตั้งรัฐบาลได้ มีนโยบายในการดูแลเศรษฐกิจ และใช้เงินงบประมาณไม่มาก  รวมถึงไม่มีนโยบายที่กดดันบรรยากาศการลงทุน จากที่ก่อนนี้มีการคาดหมายกันไว้ไม่สามารถทำได้ทั้งหมด และไม่เก็บภาษีที่เกี่ยวกับการซื้อขายหุ้น ก็จะทำให้คาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนต่างประเทศ(ฟันด์โฟลว์)ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยปีนี้ได้ระดับ 1 แสนล้านบาท

    ทั้งนี้หากมีการจัดเก็บภาษีขายหุ้น หรือภาษีกำไรจากการขายหุ้น  จะยิ่งส่งผลกระทบต่อตลาดทุนไทย ทำให้สภาพคล่องการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงอย่างมาก  โดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยสูงเป็นอันดับ 1 ที่ 50-51% 

 อย่างไรก็ตามส่วนตัวและภาคตลาดทุนมีจุดยืนว่าไม่ควรที่จะมีการเก็บ ที่เกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นเลย เพราะยังไม่ใช่จังหวะเหมาะสม  และยิ่งส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องการซื้อขายหุ้นไทยลดลง ซึ่งตลาดหุ้นที่ไม่มีสภาพคล่องนั้นไม่น่าสนใจเข้ามาลงทุน หรือเป็นตลาดที่พังแล้ว  ซึ่งเรามองว่ามีหลายแนวทางในการจัดเก็บภาษีทางอ้อมจากตลาดทุน การหนุนบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นไทย แล้วภาครัฐก็จะจัดเก็บภาษีนิติบุคคลได้เต็มๆ     

 นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. กสิกรไทย เปิดเผยว่า มีโอกาสฟันด์โฟลว์ไหลกลับเข้ามาครึ่งหลังของปีนี้  หลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ชัดเจนในเดือนส.ค. และรัฐบาลใหม่มีการประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจไทยที่ชัดเจนแล้ว แต่ยอดซื้อสุทธิคงไม่สูงเท่ากับที่ขายสุทธิออกมาตั้งแต่ต้นปีนี้ถึงปัจจุบันแล้วกว่า  82,000 ล้านบาท หรือขายเฉลี่ยเดือนละ 20,000 ล้านบาท 

สำหรับในระยะสั้นช่วง 2-3 สัปดาห์หลังจากนี้ ตลาดพันธบัตรไทย ยังคงเป็นแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ แต่แรงขายน่าจะชะลอตัวลงแล้ว ส่วนแรงซื้อในตลาดหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ ยังเป็นไปได้ยากจากดัชนีหุ้นไทย(YTD)ลดลง 9% และมีโอกาสที่จะหลุด 1,500 จุดได้  โดยมองแนวรับ 1,490 จุด และแนวต้าน 1,550 จุด  

 นอกจากนี้มี 3 ปัจจัยหนุนเงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่า และกดดันบาทอ่อนค่า มีโอกาสเห็นอ่อนค่าทะลุ 35 บาท ทำให้ฟันด์โฟลว์อาจจะชะลอแรงไหลเข้าตลาดหุ้น และพันธบัตรไทย  ได้แก่  1.การเจรจาขยายเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐ มีโอกาสที่จะผ่านในสัปดาห์หน้า 2.มีโอกาสที่เฟดยังเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐอีกครั้งในเดือนมิ.ย.นี้ จากเดิมคาดสิ้นสุดรอบเดือนพ.ค.ที่ผ่านมานี้  และ 3.ปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะเสถียรภาพทางด้านการเมืองตอนนี้ที่มีค่อนข้างน้อย ต้องรอลุ้นอีก 2 เดือนกว่าจะเปิดประชุมสภา รอจับตาส.ว.จะโหวต เกิน 60 เสียงได้หรือไม่ 

 นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย และบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน กล่าวว่า ในช่วง 3-5 วันทำการมานี้ เห็นพฤติกรรมนักลงทุนต่างชาติ ซื้อ Long ในตลาด TFEX ต่อเนื่องเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ดัชนีหุ้นไทยระดับนี้เป็นจุดที่นักลงทุนต่างชาติ เริ่มกลับสถานะมาซื้อในตลาดTFEX  ถ้าภาพชัดเจนขึ้น และตลาดหุ้นไทยไม่ได้อยู่ในระดับที่แพง 

ดังนั้นอาจเป็นจุดที่ต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาได้ ในระยะสั้น   คงไม่ต้องรอจนถึงช่วงส.ว.โหวตเลือกนายกฯ แต่ในช่วงนี้หากการเมืองในประเทศเริ่มมีท่าทีชัดเจนมากขึ้น  และตลาดหุ้นไทยยังไม่ปรับขึ้น น่าจะเป็นจุดที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาซื้อได้บ้างในระยะสั้น แต่ฟันด์โฟลว์จะกลับเข้ามาระยะยาวได้ ยังคงต้องรอให้มีการจัดตั้งรัฐบาลก่อน  รวมถึงนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่างๆ เพื่อประเมินทิศทางการลงทุนในไทยต่อไป 

 


พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์