'หุ้นโรงไฟฟ้า'ยังน่าสนใจอยู่หรือไม่?

'หุ้นโรงไฟฟ้า'ยังน่าสนใจอยู่หรือไม่?

หลัง “ก้าวไกล” สร้างปรากฏการณ์กระแสความนิยมถล่มทลาย กลายเป็นพรรคที่ได้คะแนนเสียงนำมาเป็นอันดับ 1 มากกว่า 14.23 ล้านเสียง และ ส.ส. ทั้งหมด 152 ที่นั่ง ขึ้นแท่นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

แต่บทสรุปสุดท้ายยังต้องรอติดตามต่อไปว่า ก้าวไกลจะไปได้ถึงฝั่งฝันหรือไม่? เพราะยังมีขั้นตอนการโหวตนายกฯ ซึ่งต้องอาศัยเสียง ส.ว. อีก 250 เสียงรออยู่

แม้ก้าวไกลจะยังจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ แต่ในฝั่งตลาดหุ้นดูไม่ค่อยจะสดใสเท่าไหร่ ตลาดหุ้นไทยดิ่งแรงตั้งแต่ทราบผลการเลือกตั้ง ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าโฉมหน้าโฉมตาของรัฐบาลใหม่จะออกมาเป็นอย่างไร พรรคที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุดจะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่

หรือ หากการจัดตั้งยิ่งยืดเยื้อ จะทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างเลี่ยงไม่ได้ การจัดทำและเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐจะยิ่งล่าช้า

ขณะที่อีกมุมต้องยอมรับว่านโยบายของก้าวไกลค่อนข้างเข้มงวดและชัดเจน ไม่สนับสนุนกลุ่มนายทุนรายใหญ่ เลยทำให้บรรดาหุ้นบิ๊กแคปและกลุ่มธุรกิจเจ้าสัวถูกถล่มขายถ้วนหน้า

ซึ่งหนึ่งในนโยบายที่ถูกพูดถึง คือ การลดค่าไฟทันที 70 สตางค์/หน่วย หยุดเอื้อทุนใหญ่พลังงาน หยุดให้สัมปทานโรงไฟฟ้าพร่ำเพรื่อ จนส่งผลทำให้หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าดิ่งลงอย่างหนัก ตั้งแต่ทราบผลการเลือกตั้ง โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่จากแนวโน้มกำไรที่จะลดลงตามค่าไฟ

\'หุ้นโรงไฟฟ้า\'ยังน่าสนใจอยู่หรือไม่?

จนทำให้เกิดคำถามตามมาว่า หุ้นโรงไฟฟ้ายังน่าสนใจอยู่หรือไม่? โดยคุณวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า ในระยะสั้นกลุ่มโรงไฟฟ้าถูกกดดันจากประเด็นการปรับลดค่า Ft แต่ในระยะกลางและยาวมองว่าหุ้นโรงไฟฟ้ายังเป็นหุ้น Defensive Play ที่ดี ถ้าลงมาเยอะๆ เป็นจังหวะในการเข้าไปรับได้ โดยหุ้น Top Pick แนะนำ BGRIM จากแนวโน้มกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เติบโตต่อเนื่อง และ Valuation ยังไม่แพง

ด้านบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) มองว่ากลุ่มโรงไฟฟ้ายังน่าสนใจลงทุน เนื่องจาก 1. การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างค่าไฟฟ้าของประเทศไทยไม่ใช่เรื่องง่ายและทำได้อย่างรวดเร็ว เพราะต้องมีการพิจารณาในหลายองค์ประกอบ รวมถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น จึงต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควร

2. ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้ามีการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจมากขึ้น หลายบริษัทไปลงทุนในต่างประเทศ เช่น BGRIM และบางบริษัทลงทุนในธุรกิจอื่นๆ เช่น GPSC ลงทุนธุรกิจแบตเตอรี่รถอีวี, GULF เข้าลงทุนใน INTUCH และ THCOM เพื่อขยายธุรกิจสื่อสาร โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและดาวเทียม เป็นต้น

3. ความต้องการใช้ยานยนต์อีวีจะเพิ่มมากขึ้นจากปัจจุบันไปอีก 15-20 ปี ดังนั้นความต้องการใช้ไฟฟ้าของไทยจะยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยฝ่ายวิจัยเลือก BGRIM เป็นหุ้น Top Pick ของกลุ่มโรงไฟฟ้า รองลงมาคือ GPSC

ด้านบล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า หากรัฐบาลใหม่ดำเนินนโยบายแบบสมเหตุสมผล ไม่กระทบต่อสภาพคล่องของ EGAT และภาพลักษณ์การลงทุนของประเทศ จะไม่ได้กระทบต่อกำไรและราคาเป้าหมายของกลุ่มโรงไฟฟ้าปี 2566 เท่ากับที่ตลาดกังวล

โดยฝ่ายวิจัยมองว่า หากสามารถรับความเสี่ยงจากปัจจัยการเมืองได้จะเป็นโอกาสในการซื้อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าในช่วงที่ราคาอ่อนตัว คงมุมมองไตรมาส 2 ปี 2566 กลุ่มขายไฟลูกค้าอุตสาหกรรมอย่าง GPSC, BGRIM กำไรจะฟื้นตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน

ยังคงมุมมอง Bullish ต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า เพราะแนวโน้มกำไรปกติปี 2566 ที่ฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 1 ที่ผ่านมา นำโดยกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ขายไฟฟ้าให้ลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) ที่อัตรากำไรขั้นต้นฟื้น ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ขาลง และกำลังการผลิตจากโรงไฟฟ้าใหม่หนุน เลือก GPSC เป็น Top Pick ราคาเป้าหมาย 84 บาท