ดาวโจนส์พลิกปิดแดนบวก ขานรับคืบหน้าปลดล็อกเพดานหนี้

ดาวโจนส์พลิกปิดแดนบวก ขานรับคืบหน้าปลดล็อกเพดานหนี้

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพฤหัสบดี(18พ.ค.)พลิกดีดตัวสู่แดนบวกกว่า 100 จุด ขานรับความคืบหน้าในการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 115.14 จุด หรือ 0.34% ปิดที่ 33,535.91 จุด
  • ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 39.28 จุด หรือ 0.94% ปิดที่ 4,198.05 จุด
  • ดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 188.27 จุด หรือ 1.51% ปิดที่ 12,688.84 จุด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 115.14 จุด หรือ 0.34% ปิดที่ 33,535.91 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 39.28 จุด หรือ 0.94% ปิดที่ 4,198.05 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 188.27 จุด หรือ 1.51% ปิดที่ 12,688.84 จุด

นายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า เขามีความเชื่อมั่นว่าคณะทำงานของทำเนียบขาวและสภาคองเกรสจะสามารถบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรจะจัดการลงมติในญัตติดังกล่าวในสัปดาห์หน้า

"ผมเห็นแนวทางที่เราจะสามารถบรรลุข้อตกลง ขณะที่ทุกคนทำงานกันอย่างหนัก" นายแมคคาร์ธีกล่าว

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และนายแมคคาร์ธี เห็นพ้องกันว่า พวกเขาตั้งเป้าที่จะบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ภายในวันอาทิตย์นี้

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุดในช่วงแรก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนมิ.ย.

นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนมิ.ย. หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายต่างกล่าวสนับสนุนการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 36.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้น้ำหนักเพียง 10.7%

 ทั้งนี้ นางลอรี โลแกน ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวในวันนี้ว่า ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดไม่ได้สนับสนุนให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.

นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา กล่าวว่า เขาคาดว่าเฟดจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะปรับตัวอยู่ในระดับสูงนานกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

 "นโยบายที่เหมาะสมคือการเฝ้ารอเพื่อดูว่าเศรษฐกิจได้ชะลอตัวมากน้อยเพียงใดจากการดำเนินนโยบายของเรา" นายบอสติกกล่าว

นายบอสติกกล่าวว่า การชะลอตัวของเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมาถือว่าน่าพึงพอใจ แต่เขายังคงสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป มากกว่าที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย

นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก กล่าวว่า เฟดสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากเงินเฟ้อไม่ได้ปรับตัวลง

"เราไม่เคยบอกว่าได้เสร็จสิ้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว โดยเราจะต้องแน่ใจว่าเราได้บรรลุเป้าหมายแล้ว ซึ่งเราจะทำการประเมินสิ่งที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจ และทำการตัดสินใจโดยขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ได้รับ" นายวิลเลียมส์กล่าว

นายวิลเลียมส์ระบุว่า เขายังมองไม่เห็นเหตุผลในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อย่างไรก็ดี เขาจะนำวิกฤตในภาคธนาคาร และผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อการขยายตัว การจ้างงานและเงินเฟ้อ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ใช้ประกอบการพิจารณาแนวโน้มนโยบายอัตราดอกเบี้ย

นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนา Thomas Laubach Research Conference ว่าด้วยนโยบายการเงิน ซึ่งเฟดจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี

เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายจะเข้าร่วมงานเสวนาดังกล่าว ซึ่งรวมถึงนายเบน เบอร์นันเก้ อดีตประธานเฟด