“หุ้นไทย” ดิ่ง 15.63 จุด จากความกังวล ‘STARK’ เลื่อนส่งงบการเงินปี 65

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาด “หุ้นไทย” วันนี้ผันผวนในทิศทางปรับตัวลดลงตลอดทั้งวัน ซึ่งดัชนีตลาดหุ้นไทยทำต่ำสุดอยู่ที่ 1,562.11 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1,565.10 จุด ลดลง 15.63 จุด หรือ 0.99% มูลค่าซื้อขาย 57,259.60 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

1. KBANK มูลค่า 7,282,85 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 126.00 บาท ลดลง 5.50 บาท หรือ 4.18%

2. KTB มูลค่า 4,999.31 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 17.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท หรือ 4.79%

3. SCB มูลค่า 3,618.89 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 99.75 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 0.75%

4. BDMS มูลค่า 1,675.84 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 29.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาปิดก่อนหน้า

5. PTTEP มูลค่า 1,543.66 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 153.50 บาท ลดลง 4.50 บาท หรือ 2.85%

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ จากฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กล่าวว่า วันนี้ดัชนีฯ ได้รับแรงกดดันส่วนหนึ่งจากการที่บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เลื่อนส่งการเงินปี 65 ออกไป ซึ่งผู้ปล่อยกู้รายสำคัญของบริษัทดังกล่าวคือ SCB และ KBANK  แม้ตลาดจะได้รับปัจจัยบวกจากการที่ KTB กำไรดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์อย่างมากก็ตาม

ประกอบกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอยู่ในลักษณะตึงตัว และดอกเบี้ยขาขึ้นส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นประเมินแนวรับวันพรุ่งนี้ (21 เม.ย.) อยู่ที่ 1,550 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,570 จุด โดยมีปัจจัยที่น่าติดตามคือ ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันที่ 3 พ.ค. โดยเฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่ออีก

สำหรับการลงทุนวันพรุ่งนี้ แนะนำหุ้นที่มีผลประกอบการไตรมาส 1 ดี และราคายังไม่ปรับตัวขึ้นมาแพงมาก คือ SAPPE และ ICHI รวมทั้งหุ้นค้าปลีกอย่าง CRC และ CPALL เป็นต้น

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์