ดาวโจนส์ลบ 143 จุด นักลงทุนประเมินผลประกอบการบริษัทสหรัฐ

ดาวโจนส์ลบ  143 จุด นักลงทุนประเมินผลประกอบการบริษัทสหรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ปิดวันศุกร์ (14 เม.ย.) ปรับตัวร่วงลง 143 จุด ขณะที่นักลงทุนประเมินกรณีที่บริษัทหลายแห่งของสหรัฐรายงานผลประกอบการแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ และยอดค้าปลีกเดือนมี.ค.ที่อ่อนแอกว่าที่คาดของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง 143.22 จุด หรือประมาณ 0.42% ปิดที่ 33,886.47 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วง 0.21% ปิดที่ 4,137.64 จุด และดัชนีแนสแด็กร่วง  0.35%  ปิดที่ 12,123.47 จุด

กลุ่มธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2566 แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ หลังเกิดเหตุการณ์ธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (เอสวีบี) และซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank) ซึ่งเป็นธนาคารขนาดกลางของสหรัฐ ล้มในเดือนมี.ค.

ทั้งนี้ เจพีมอร์แกน เชสรายงานกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ ส่งผลให้หุ้นเจพีมอร์แกนพุ่งขึ้นกว่า 5% ขณะที่หุ้นเวลส์ ฟาร์โกพุ่ง 0.6% หลังรายงานกำไรที่เพิ่มสูงขึ้น

หุ้นยูไนเต็ดเฮลท์ (UnitedHealth) ซึ่งมีน้ำหนักมากที่สุดบนดัชนีดาวโจนส์ แทบไม่ขยับ หลังบริษัทรายงานผลประกอบการแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์และเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการเล็กน้อย

ส่วนหุ้นโบอิง  ลดลง 5.6% หลังเตือนเรื่องการส่งมอบเครื่องบินรุ่น 737 Max บางส่วนล่าช้า

ยอดค้าปลีกเดือนม.ค.ของสหรัฐปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ เนื่องจากผู้บริโภคลดการซื้อรถยนต์และสินค้าชิ้นใหญ่ ซึ่งบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มชะลอตัวในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ เพราะอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยในวันนี้ (14 เม.ย.) ว่า ยอดค้าปลีกลดลง 1% ในเดือนมี.ค. ขณะที่ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 0.4% ในเดือนมี.ค. หลังลดลง 0.2% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการทบทวนปรับแล้ว หลังจากตัวเลขเบื้องต้นลดลง 0.4%