BBL นำร่อง |ออฟเรคคอร์ด

BBL นำร่อง |ออฟเรคคอร์ด

ช่วงที่ตลาดหุ้นอยู่ในโหมดเงียบเหงาเข้าสู่วันหยุดยาว “มูลค่าการซื้อขายจะเบาบาง” และลดลงถือเป็นปกติจนทำให้บรรดานักเทรดเดอร์มักจะไม่ค่อยชอบแต่กลับเป็น ผลดีต่อหุ้นที่ราคาน่าช้อป เพราะราคาหุ้นไม่เหวี่ยงแรง

๐๐๐  BBL นำร่อง

       ช่วงที่ตลาดหุ้นอยู่ในโหมดเงียบเหงาเข้าสู่วันหยุดยาว “มูลค่าการซื้อขายจะเบาบาง” และลดลงถือเป็นปกติจนทำให้บรรดานักเทรดเดอร์มักจะไม่ค่อยชอบแต่กลับเป็น ผลดีต่อหุ้นที่ราคาน่าช้อป เพราะราคาหุ้นไม่เหวี่ยงแรง

       กลุ่มแบงก์ “ใหญ่” ราคาหุ้นลงมาจน “มูลค่าหุ้นถูก” กว่าราคา Book Value กันยกกลุ่ม ซึ่งเห็นแบบนี้บอกได้เพียงคำเดียวว่า ราคาลงมาเยอะ สวนทางกับ ปันผล ในรอบนี้ที่เทกระเป๋าตังออกมาจ่ายให้ผู้ถือหุ้นกันอุตลุด

         มูลค่าราคาหุ้นลงมาเยอะยังไม่พอเพราะจังหวะตลาดเงียบเหงาแบบนี้ เริ่มมีแบงก์ใหญ่ ขยับขึ้นดอกเบี้ยลูกค้ากันรอบใหม่ให้เห็นกันแล้ว 

         รายใหญ่ที่ว่าไม่ใช่ใครที่ไหนที่ขอนำร่อง “ขึ้นดอกเบี้ย” ก่อนใครเพื่อน BBL ที่ขยับแบบคละผสมฐานกลุ่มลูกค้า และประกาศอย่างเป็นทางการสำหรับเงินฝาก 0.05-0.30%  และฝากเงินกู้ 0.20% 

         ส่องราคาหุ้นแล้ว BBL ไม่ได้ขึ้นแรง... ที่แรงคือ แบงก์ใหญ่รายอื่น ที่จะขยับขึ้นตามนี้นะซิ 

๐๐๐

ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบๆ บวกๆ ลบๆ สลับกันไปตลอดทั้งวัน ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ วอลุ่มเลยเบาบางโดยดัชนีฯ ปิดการซื้อขายที่ 1,597.10 จุด เพิ่มขึ้น 3.97 จุด หรือ 0.25% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,598.03 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,590.28 จุด มูลค่าการซื้อขาย 36,038.63 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติซื้อ 19.90 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ขาย 331.87 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อ 974.00 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขาย 662.03 ล้านบาท

๐๐๐

“หุ้นแบงก์” บวกนำตลาดเก็งกำไรงบไตรมาส 1 ปี 2566 ยังสดใส รับอานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น นำทีมด้วย ธนาคารกรุงไทย (KTB) วอลุ่มไหลเข้ามากที่สุด ดันราคาหุ้นขึ้นมาปิด 17.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 2.99% โดยบล.อินโนเวสท์ เอกซ์ มองว่า KTB จะได้ประโยชน์มากที่สุดจากดอกเบี้ยขาขึ้น และมีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ คาดกำไรปีนี้จะโต 15% YoY

ช่วงนี้แบงก์ทยอยขึ้นดอกเบี้ยรอบใหม่ ล่าสุดเป็นคิวธนาคารกรุงเทพ (BBL) ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ 0.05-0.20% และดอกเบี้ยเงินฝาก 0.05-0.30% เริ่มมีผลทันทีตั้งแต่วานนี้ (10 เม.ย.)

๐๐๐

อีกหนึ่งหุ้นที่คาดงบจะออกมาดี บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) โดยนักวิเคราะห์จากบล.เคจีไอ ประเมินผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2566 จะพลิกกลับมามีกำไรปกติเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน หลังอัตราการเข้าพักของโรงแรมทั้งในประเทศ และต่างประเทศยังเติบโตต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจร้านอาหารยอดขายสาขาเดิมยังขยายตัวได้ดีตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เลยหนุนราคาหุ้นมาปิด 31 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.64%

๐๐๐

“ล้านแตก” เป็นที่เรียบร้อย! สำหรับราคาบิตคอยน์ในไทย นาทีนี้ตลาดคริปโทฯ ยังโชว์ฟอร์มร้อนแรง พุ่งทำจุดสูงสุดในรอบ 10 เดือน กลายเป็นจิตวิทยาเชิงบวก หนุนให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลพร้อมใจปรับตัวขึ้นมาอย่างคึกคัก

ทั้งบมจ.ซิก้า อินโนเวชั่น (ZIGA) ปิด 3.26 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท หรือ 4.49%, บมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล (XPG) ปิด1.11 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท หรือ 2.78% ส่วนบมจ.บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป (BROOK) ปิด 0.49 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท หรือ 4.26%

๐๐๐

บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น (SAMART) คว้างานใหญ่มาได้อีกแล้ว หลังได้งานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าแรงสูงบางละมุงของ กฟผ. มูลค่ารวมกว่า 2.38 พันล้านบาท ช่วยเติมงานในมือให้คึกคักยิ่งขึ้น เพื่อเดินหน้าไปสู่เป้าหมายว่าปีนี้ จะพลิกกลับมามีกำไร หลังขาดทุน 3 ปีติด ตามที่ผู้บริหารได้ลั่นวาจาไว้ โดยราคาหุ้นล่าสุดมาปิด 4.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท หรือ 1.45%

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์