เปิดพอร์ต 3 ต่างชาติ มหาเศรษฐีหุ้นเมืองไทย มั่งคั่งระดับหมื่นล้านบาท

เปิดพอร์ต 3 ต่างชาติ มหาเศรษฐีหุ้นเมืองไทย  มั่งคั่งระดับหมื่นล้านบาท

3 ชาวต่างชาติที่เป็นมหาเศรษฐีหุ้นเมืองไทยเป็นที่รู้จักกันดีของสาธารณชน ร่ำรวยมั่งคั่งมากสุด ฮาราลด์ ลิงค์ แห่ง BGRIM ธุรกิจโรงไฟฟ้าที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยอายุ 145 ปี มูลค่ากว่า 24,595.24 ล้านบาท

รายชื่อนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 100 อันดับแรก ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดจะเป็นคนไทย แต่ยังมีชาวต่างชาติที่สอดแทรกเข้ามาในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีของสาธารณชน "กรุงเทพธุรกิจ" สืบค้นและนำเสนอ 3 ชาวต่างชาติที่เป็นมหาเศรษฐีหุ้นเมืองไทย มีมูลค่าของหลักทรัพย์หลักหลายหมื่นล้านบาท

 

เปิดพอร์ต 3 ต่างชาติ มหาเศรษฐีหุ้นเมืองไทย

1.ฮาราลด์ ลิงค์ (Harald Link) 

ฮาราลด์ ลิงค์ หรือ "หรัณ เลขนะสมิทธิ์" ที่ได้รับพระราชทานชื่อไทยจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ประกอบธุรกิจหลักด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศ

 

เปิดพอร์ต 3 ต่างชาติ มหาเศรษฐีหุ้นเมืองไทย  มั่งคั่งระดับหมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ ฮาราลด์ ลิงค์ อายุ 68 ปี เป็นนักบริหารธุรกิจสายเลือดเยอรมันแต่หัวใจไทย เป็นทายาทของ ดร.เกฮาร์ด กับ คุณโมนิกา ลิงค์ เป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ในตระกูลลิงค์ ของอาณาจักร บี.กริม บริษัทเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยที่มีอายุ 145 ปี โดยเริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2421 ที่ยึดปรัชญา ‘การดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี’ 

ฮาราลด์ ลิงค์ จบการศึกษาปริญญาโทบริหารธุรกิจจาก University of St.Gallen (มหาวิทยาลัยเซนต์กัลแลน) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (Master of Business  Administration (Lic.oec.HSG), University of St. Gallen, Switzerland) ได้รับประกาศนียบัตรหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน (ปรอ.17) วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ประกาศนียบัตรหลักสูตร สถาบันวิทยาการตลาดทุน รุ่นที่ 11 ประกาศนียบัตรหลักสูตร สถาบันวิทยาการพลังงาน รุ่นที่ 2  และประกาศนียบัตรหลักสูตร สถาบันวิทยาการธุรกิจและอุตสาหกรรม รุ่นที่ 1 

ฮาราลด์ ลิงค์ เข้าถือหุ้นรายใหญ่จำนวน 2 หลักทรัพย์ รวมมูลค่าทั้ง 2 หลักทรัพย์ 24,595.24 ล้านบาท 

  • บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เข้าถือหุ้นใหญ่ลำดับที่ 1 จำนวน 621,399,700 หุ้น หรือ 23.84% ราคา ณ วันที่ 5 เม.ย.66 ปิดที่ 39.50 บาท รวมมูลค่า 24,545.28 ล้านบาท  
  • บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATAV เข้าถือหุ้นใหญ่ลำดับที่ 8 จำนวน 7,686,000 หุ้น หรือ 0.82% ราคา ณ วันที่ 5 เม.ย.66 ปิดที่ 6.50 บาท รวมมูลค่า 49.95 ล้านบาท  

 

 

2.เควิน ยิว ฮอค โคว (Kelvin Koh Yew Hock)

เควิน ยิว ฮอค โคว อายุ 57 ปี เป็นชาวสิงคโปร์ที่มาอยู่เมืองไทยนานกว่า 20 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) SISB ซึ่งเป็นธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งใช้หลักสูตรการศึกษาของประเทศสิงคโปร์เป็นหลักสูตรพื้นฐาน โดยได้รับใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนตามพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน จุดเด่นของโรงเรียนแห่งนี้ คือเป็นหลักสูตรสิงคโปร์ที่มีสอน 3 ภาษา อยู่ด้วยกันในหลักสูตร คือภาษาอังกฤษป็นหลัก ภาษาจีนเรียนแบบเต็มเวลาที่บรรจุอยู่ในหลักสูตร และภาษาไทยรองลงมา

ปัจจุบัน SISB มีวิทยาเขตทั้งหมด 4 สาขาในประเทศไทย  ประชาอุทิศ สุวรรณภูมิ ธนบุรี และเชียงใหม่ในทางภาคเหนือ สาขาแห่งที่ 5 และ 6 ที่จังหวัดนนทบุรีและจังหวัดระยองจะพร้อมเปิดในเดือนสิงหาคม 2566

เควิน ยิว ฮอค โคว ได้บอกไว้ว่า ทุกวิทยาเขตของโรงเรียน SISB ได้นำเอาหลักสูตรที่ดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลกมาปรับใช้เพื่อทำให้แน่ใจว่านักเรียนจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด และสามารถพัฒนาไปเป็นนักวิชาการ ผู้นำ และพลเมืองคุณภาพของโลกได้

ปัจจุบัน เควิน ยิว ฮอค โคว ปรากฎรายชื่อผู้ถือหุ้น SISB ลำดับที่ 1 จำนวน 308,720,000 หุ้น หรือ 32.84% ราคา ณ วันที่ 5 เม.ย.66 ปิดที่ 29.75 บาท รวมมูลค่า 9,184.42 ล้านบาท  



3.วิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค (William Ellwood Heinecke) 

วิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค อายุ 74 ปี นักธุรกิจสัญชาติไทยเชื้อสายอเมริกัน ผู้ก่อตั้ง เครือ ไมเนอร์ กรุ๊ปปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการ / ประธานคณะกรรมการจัดการ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT หนึ่งในกลุ่มบริษัทผู้ดำเนินธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงแรม ซึ่งรวมถึงโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อขาย โครงการพักผ่อนแบบปันส่วนเวลา และให้เช่าศูนย์การค้าและอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจบันเทิงและธุรกิจจัดจำหน่ายที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งมีแบรนด์ดังอย่าง ร้านอาหารเดอะ พิซซ่า คอมปะนี, สเวนเซ่นส์,แดรี่ ควีน , ซิซซ์เลอร์, เบรดทอล์ค,เบอร์เกอร์ คิง , เดอะ คอฟฟี่ คลับ รวมถึงธุรกิจโรงแรม อย่าง โรงแรมแมริออท ,โรงแรมอนันตรา และแบรนด์แฟชั่น เช่น ชาร์ลส แอนด์ คีธ, เอแตม เป็นต้น

ทั้งนี้ วิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ยังดำรงตำแหน่งอื่นๆ

  • ประธานกรรมการและกรรมการ บริษัทในเครือ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
  • กรรมการ บริษัท ไมเนอร์ โฮลดิ้ง (ไทย) จำกัด (รวมบริษัทในกลุ่ม 1 บริษัท)
  • กรรมการ บริษัท พลูหลวง จำกัด (รวมบริษัทในกลุ่ม 1 บริษัท)
  • กรรมการ บริษัท ไมเนอร์ บีเคเอช จำกัด (รวมบริษัทในกลุ่ม 7 บริษัท)
  • กรรมการ บริษัท แปซิฟิกครอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
  • กรรมการบริษัทจดทะเบียน 2 บริษัท (เป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศสเปน 1 บริษัท)
  • บริษัททั่วไป 42 บริษัท

นอกจากนี้ วิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการ วิทยาลัยโยนก จังหวัดลำปาง โรงเรียนนานาชาติ กรุงเทพมหานคร รวมถึงหลักสูตร Director Certification Program (DCP) รุ่นที่ 64/2548 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD)

วิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค เข้าถือหุ้นรายใหญ่จำนวน 2 หลักทรัพย์ รวมมูลค่าทั้ง 2 หลักทรัพย์ 5,289.24 ล้านบาท 

  • บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT เข้าถือหุ้นใหญ่ลำดับที่ 7 จำนวน 168,969,095 หุ้น หรือ 3.18% ราคา ณ วันที่ 5 เม.ย.66 ปิดที่ 30.75 บาท รวมมูลค่า 5,195.79 ล้านบาท  
  • บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CNT เข้าถือหุ้นใหญ่ลำดับที่ 3 จำนวน 66,275,410 หุ้น หรือ 6.45% ราคา ณ วันที่ 5 เม.ย.66 ปิดที่ 1.41 บาท รวมมูลค่า 93.44 ล้านบาท  

 

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงแค่รายได้เฉพาะหุ้นที่มีรายชื่อในนามบุคคลเท่านั้น แต่ถ้าหากรวมบริษัทที่เข้ามาถือหุ้น และบริษัทย่อยที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์แล้ว ล้วนมีมูลค่ามหาศาล