ก.ล.ต. ปรับเกณฑ์'ขายหุ้นราคาต่ำกว่าราคาตลาด' กรณีขายหุ้นที่ซื้อคืนให้กรรมการ-พนักงาน

ก.ล.ต. ปรับเกณฑ์'ขายหุ้นราคาต่ำกว่าราคาตลาด' กรณีขายหุ้นที่ซื้อคืนให้กรรมการ-พนักงาน

ก.ล.ต. ปรับปรุงหลักการพิจารณาการเสนอขายหุ้นในราคาต่ำกว่าราคาตลาด กรณีการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนให้แก่กรรมการหรือพนักงานของบริษัท "ใช้ราคาถัวเฉลี่ยมีส่วนลดไม่เกิน10% - ราคาBook Building-FAประเมิน" มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2566   

ตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้มีมติเห็นชอบในการประชุม ครั้งที่ 15/2565 เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2565 ให้ปรับปรุงหลักการพิจารณาราคาตลาดและการเสนอขายหุ้นใหม่ในราคาต่ำกว่าราคาตลาดกรณีบริษัทมหาชนจำกัดเสนอขายหุ้นที่ซื้อคืนต่อกรรมการหรือพนักงานของบริษัท (ESOP) 

โดยให้สอดคล้องกับที่สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ปรับปรุงหลักการพิจารณาราคาตลาดและการเสนอขายหุ้นใหม่ในราคาต่ำกว่าราคาตลาดสำหรับการเสนอขายทุกประเภท โดยได้เปิดรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวจากผู้ที่เกี่ยวข้องเมื่อเดือนม.ค.2566 แล้วนั้น 

สำนักงาน ก.ล.ต. จึงออกประกาศปรับปรุงหลักการพิจารณาการเสนอขายหุ้นในราคาต่ำกว่าราคาตลาด กรณีการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนให้แก่ ESOP โดยกำหนดให้ "การเสนอขายหุ้นในราคาต่ำ" หมายถึง การเสนอขายหุ้นที่ราคาต่ำกว่าราคาใดราคาหนึ่งดังต่อไปนี้

1.ราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก* โดยมีส่วนลดอีกได้ไม่เกินร้อยละ 10

2. ราคาจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Book Building)

 3.ราคาประเมินโดยที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) 

ในการเสนอขายหุ้นในราคาต่ำกว่าราคาตลาด บริษัทมหาชนจำกัดต้องใช้ราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักตาม (1) ก่อน เนื่องจากเป็นราคาที่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง เว้นแต่มีเหตุให้ไม่สามารถคำนวณราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก หรือมีเหตุอันสมควรเชื่อได้ว่าราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักไม่เหมาะสม จึงจะสามารถใช้ราคา Book Building ได้ และหากมีเหตุให้ไม่สามารถใช้ราคา Book Building จึงจะสามารถใช้ราคาประเมินโดย FA ได้ 

ทั้งนี้ หลักการที่ปรับปรุงดังกล่าวได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2566 เป็นต้นไป