‘หุ้นไทย’ รีบาวด์หลังเงินบาทแข็งค่า ฟันด์โฟลว์ชะลอไหลออก

‘หุ้นไทย’ รีบาวด์หลังเงินบาทแข็งค่า ฟันด์โฟลว์ชะลอไหลออก

หุ้นไทยกลับมาบวกอีกครั้งในวันนี้ (7 มี.ค.66) หลังจาก Fund Flow เริ่มชะลอการไหลออก รวมถึงค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่าขึ้น ขณะเดียวจับตารายงานการจ้างงานสหรัฐ 10 มี.ค.66 และการประกาศตัวเลขเฟ้อสหรัฐในวันที่ 14 มี.ค.66 ว่าจะสามารถกลับมารีบาวน์ได้ในระยะสั้นหรือระยะยาว 

ตลอดช่วงเดือนกุมภาพันธ์จะเห็นได้ว่า ปรับตัวลดลง สาเหตุเกิดจากเงินทุนต่างชาติต่างไหลออกจากตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด หุ้นไทยกลับมาบวกอีกครั้งในวันนี้ (7 มี.ค.66) หลังจาก Fund Flow เริ่มชะลอการไหลออก รวมถึงค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่าขึ้น 

ขณะเดียวกันสิ่งที่ต้องจับตาการรายงานภาคการจ้างงานสหรัฐในวันที่ 10 มี.ค.66 และการประกาศตัวเลขเฟ้อสหรัฐในวันที่ 14 มี.ค.66 ว่าจะสามารถกลับมารีบาวน์ได้ในระยะสั้นหรือระยะยาว 

สำหรับ ความความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (7 มี.ค.) ปิดตลาดช่วงเช้า เวลา 12.30 น. อยู่ที่ระดับ 1,619.77 จุด ปรับตัวขึ้น 12.89 จุด หรือ +0.80%  มูลค่าการซื้อขาย 31,056.20 ล้านบาท  

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล. ทิสโก้ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลงมาค่อนข้างเยอะ น่าจะถึงเวลาที่จะกลับมารีบาวน์ได้แล้ว ก่อนหน้านี้ตลาดได้ซึมซับเกี่ยวกับข่าวขึ้นดอกเบี้ยการหั่นประมาณการกำไรไปพอสมควร 

ขณะที่ปัจจัยทางเทคนิคก่อนวันศุกร์ (3 มี.ค.66) ที่ผ่านมา เป็นสัญญาณโอเวอร์โซลทำให้มีการดีดกลับขึ้นมา รวมถึงปัจจัยบวกเรื่องของภาษีหุ้นที่ภาครัฐยังไม่ทบทวน ยังไม่รีบใช้ในขณะนี้ หลังจากที่ต้องรอรัฐบาลใหม่เข้ามาดูในเรื่องของนโยบายดังกล่าวอีกครั้ง รวมถึงช่วงนี้นักลงทุนเองก็มองในเรื่องของการเลือกตั้ง

และในวันที่ 7 - 8 มี.ค.66 ประธานเฟดแถลงนโยบายการเงินและเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรส เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กำลังเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิด ว่าประธานเฟดจะพูดอะไร แต่ถ้าเราดูเรื่องของก่อนหน้านี้ที่ตลาดมีการปรับคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งเดือนที่แล้ว ก็น่าจะซึมซับในราคาหุ้นระดับหนึ่งแล้ว

นอกจากนี้ตลาดหุ้นไทยหากเทียบกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียในช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า หุ้นไทยอ่อนแอเมื่อเทียบกับภูมิภาคเอเชีย เพราะก่อนหน้านี้ Fund Flow ไหลออก แต่ก็ยังมีสัญญาณบวกในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว Fund Flow เริ่มชะลอการออก รวมถึงค่าเงินบาทเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้น ซึ่งไม่ได้อ่อนไปในขาเดียวตลอด หยุดอ่อนและเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ทำให้ต่างชาติเริ่มเห็นแผ่วลง 

นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยปรับตัวกำไรลดลงมาประมาณ 3 จุด ถ้าคิดพี/อี 15 เท่า เท่ากับประมาณ 45 จุด ขณะที่บอนด์ยีลที่มีการปรับตัวขึ้นจากการส่งสัญญาณ hawkish คิดเป็นประมาณอีก 30 จุด เพราะฉะนั้นจากดัชนี 1,690 จุด ลงมา คิดเป็นประมาณกว่า 80 จุด หรือประมาณ 1,610 จุด ถือเป็นดาวน์ไซด์ที่ค่อนข้างจำกัด 

จากสาเหตุทั้งหมดนี้จึงมองว่า ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสที่จะรีบาวน์ แต่จะรีบาวน์มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการรายงานภาคการจ้างงานสหรัฐในวันที่ 10 มี.ค.66 และการประกาศตัวเลขเฟ้อสหรัฐในวันที่ 14 มี.ค.66 ถ้ามีโอกาสที่จะอินไลน์ หรือต่ำกว่าคาด ตลาดหุ้นก็คงจะรีบาวน์ต่อไปประมาณ 43 - 44 จุด