เปิดพอร์ตหุ้น 5 องค์กร อายุเก่าแก่สุดเกิน 130 ปี

ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจในแต่ละยุคแต่ละสมัยมีให้เห็นกันมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในแต่ละช่วงก็จะมีธุรกิจที่ฟันฝ่าอุปสรรคมาได้ และบางธุรกิจก็ต้องล้มหายตายจากไปตามวิกฤติในช่วงนั้น ๆ แต่ปัจจุบันยังพอมีธุรกิจเก่าแก่นานนับเป็นร้อยปีก็ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มีอายุอานามเกินกว่า 100 ปีมีอยู่ด้วยกัน 8 บริษัท แต่ถ้าอายุเกิน 130 ปีมีอยู่ด้วยกัน 5 บริษัท ซึ่งถือว่าเก่าแก่มาก ๆ 

ทั้งนี้ กรุงเทพธุรกิจ ได้ใช้เงื่อนไขในการค้นหารวบรวมข้อมูลกิจการที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ก่อตั้งมาอย่างยาวนานเกิน 130 ปี เท่านั้น ซึ่งกระจายตัวอยู่ในกลุ่มธุรกิจหลากหลายธุรกิจ 

(ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566)

 

1.บมจ.โอเอชทีแอล หรือ OHTL ก่อตั้งเมื่อปี 2419 อายุ 147 ปี 

บริษัท โอเอชทีแอล จำกัด (มหาชน) หรือเจ้าของโรงแรมโอเรียนเต็ลเริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2419 โดยนายทหารชาวเดนมาร์ก 2 ราย ขึ้นที่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อมาได้จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดในนาม “บริษัท ไทยโรงแรม จำกัด” ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 60 ล้านบาท และวันที่ 21 มิถุนายน 2531 บริษัทได้จดทะเบียนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และ ปี 2551 เปลี่ยนชื่อมาเป็น “บริษัท โอเอชทีแอล จำกัด (มหาชน)” จนถึงปัจจุบัน และได้เปลี่ยนชื่อทางการค้าจาก “โรงแรมโอเรียนเต็ล” มาเป็น “โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล” ปัจจุบันมีนาย แอนโทนี จอห์น ไทเลอร์ เป็นกรรมการผู้จัดการ

ทั้งนี้ถือว่า เป็นโรงแรมที่เก่าแก่มาก ปัจจุบันบริหารจัดการโรงแรมโดยกลุ่ม Mandarin Oriental

Hotel Group ที่มีประสบการณ์ในการบริหารจัดการและลงทุนในโรงแรมหรูทั่วโลก โดยโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ ถือเป็นโรงแรมที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งหนึ่งและเป็นหนึ่งในตำนานของโลก

ปัจจุบันหุ้น OHTL 

• มาร์เก็ตแคป 7,065.77 ล้านบาท 
• P/E N/A เท่า  
• P/BV 5.09 เท่า 
• ราคาสูงสุด / ต่ำสุด ในรอบ 52 สัปดาห์ 610.00 / 316.00 บาท 
• ราคาปิดณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ 468.00 บาท 
• ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 MANDARIN ORIENTAL HOLDINGS B.V. จำนวนหุ้น 6,399,500 หุ้น หรือ  42.39% (ข้อมูลการปิดสมุด ณ วันที่ 15 มีนาคม 2565) 

 

2.บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ หรือ BGRIM ก่อตั้งเมื่อปี 2421 อายุ 145 ปี 

บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจผลิตไฟฟ้าในเครือ บี.กริม กรุ๊ป หรือ B.GRIMM อีกหนึ่งบริษัทเก่าแก่ โดยนายแบร์นฮาร์ด กริม ซึ่งเป็นเภสัชกรชาวเยอรมัน และนายแอร์วิน มุลเลอร์ หุ้นส่วนชาวออสเตรีย ซึ่งเริ่มธุรกิจจากการจัดตั้งห้างจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางเภสัชกรรมและเคมีภัณฑ์ ภายใต้ชื่อ ‘สยามดิสเป็นซารี่’ ซึ่งขึ้นชื่อด้านความเป็นเลิศด้านสินค้าและบริการ เป็นที่นิยมและยอมรับในราชสำนัก ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็น “ร้านยาหลวง” ต่อมาได้มีการจัดตั้งห้าง บี.กริม แอนโก ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายสินค้าเยอรมันแห่งแรกในสยาม

และได้ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องโดยการแรงขับเคลื่อนของตระกูลลิงค์ ที่ขยายไปหลากหลายธุรกิจ จนกระทั่งนำกิจการด้านพลังงานเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2560 ใช้ชื่อย่อ BGRIM ปัจจุบันมีนายฮาราลด์ ลิงค์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

ปัจจุบันหุ้น BGRIM

• มาร์เก็ตแคป 101,669.10 ล้านบาท 
• P/E N/A เท่า  
• P/BV 3.23 เท่า 
• ราคาสูงสุด / ต่ำสุด ในรอบ 52 สัปดาห์ 42.75 / 29.75 บาท 
• ราคาปิดณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ 39.00 บาท 
• ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 B. GRIMM POWER (SINGAPORE) PTE. LTD. จำนวนหุ้น 698,502,000 หุ้น หรือ 26.79% (ข้อมูลการปิดสมุด ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2565)

3.บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ หรือ BJC ก่อตั้งเมื่อปี 2425 อายุ 141 ปี

เริ่มก่อตั้งกิจการในปี 2425 โดยเริ่มจากตระกูลเบอร์ลี่และตระกูลยุคเกอร์ ชาวสวิตเซอร์แลนด์โดยนายอัลเบิร์ต ยุคเกอร์ และนายเฮนรี่ ซิกก์ ได้ร่วมกันก่อตั้งห้าง “ยุคเกอร์ แอนด์ ซิกก์ แอนด์โก” ประกอบกิจการค้าในด้านเป็นตัวแทนบริษัทเรือฝรั่งเศส อังกฤษ และอิตาลี พร้อมกับเป็นตัวแทนบริษัทประกันภัยของต่างประเทศ และยังเป็นตัวแทนธนาคารต่างๆ ด้วย เช่น ธนาคารอินโดจีน ระหว่างปี 2421 - 2433 ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ ระหว่างปี 2428 - 2431 นอกจากนั้นยังทาการค้าโรงสีข้าวและเป็นตัวแทนจาหน่ายสินค้าทั้งนาเข้าและส่งออกด้วย

ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง นายอัลเบิร์ต เบอร์ลี่ มีสุขภาพไม่สมบูรณ์ ไม่สามารถบริหารงานต่อไปได้ จึงได้แต่งตั้งนายเอ็ดวาร์ด ยุคเกอร์ ให้ดารงตาแหน่งหุ้นส่วนผู้จัดการ และเปิดกิจการ “ห้างเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ แอนด์ โก” ขึ้นอีกครั้งเมื่อเดือนกันยายน 2489 โดยมีที่ทาการอยู่ที่ถนนเจริญกรุง

ทั้งนี้ BJC เป็น 1 ใน 8 บริษัทแรกที่เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2518 ถือเป็นหนึ่งบริษัทที่สร้างประวัติศาสตร์ในตลาดหุ้นไทย ปัจจุบันมีนายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่

 ปัจจุบันหุ้น BJC

• มาร์เก็ตแคป 152,296.27 ล้านบาท 
• P/E 31.97 เท่า  
• P/BV 1.30 เท่า 
• ราคาสูงสุด / ต่ำสุด ในรอบ 52 สัปดาห์ 39.50 / 30.50 บาท 
• ราคาปิดณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ 38.00 บาท 
• ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 บริษัท ทีซีซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด จำนวนหุ้น 1,980,730,550 หุ้น หรือ 49.42% (ข้อมูลการปิดสมุด ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2565)

4.บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย หรือ SINGER ก่อตั้งเมื่อปี 2432 อายุ 134 ปี

ในปี พ.ศ. 2432 บริษัท ซิงเกอร์แห่งสหรัฐอเมริกา ได้แต่งตั้งบริษัท เคียมฮั่วเฮง จำกัด เป็นผู้จัดจำ หน่ายจักรเย็บผ้า ซิงเกอร์ ในประเทศไทย ต่อมาในปี พ. ศ. 2448จึงได้ตั้งสาขาขึ้นในประเทศไทย ใช้ชื่อว่า บริษัท ซิงเกอร์ โซอิ้ง แมชีน จำกัด เพื่อจำหน่ายจักรเย็บผ้า และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับจักรเย็บผ้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ บริษัทได้ริเริ่มนำ เอาบริการเช่าซื้อ โดยผ่อนชำระเป็นงวดมาใช้ครั้งแรก

ต่อมาวันที่ 24 พฤศจิกายน 2512 จึงได้มีการจดทะเบียนก่อตั้ง “บริษัทซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด” เป็นบริษัทจำกัดภายใต้กฎหมายไทย เพื่อเข้ารับช่วงธุรกิจของ “บริษัท ซิงเกอร์ โซอิ้ง แมชีน จำกัด” ซึ่งหยุดดำเนินกิจการในระยะเวลาต่อมา โดยมีทุนจดทะเบียนแรกเริ่ม 60 ล้านบาท และบริษัทได้รับอนุญาตให้เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันที่ 28 มิถุนายน 2527 ในวันที่ 4 มกราคม 2537 บริษัทได้ทำการจดทะเบียนแปรสภาพเป็น “บริษัทมหาชนจำกัด” ปัจจุบันมีนายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ 

ปัจจุบันหุ้น SINGER

• มาร์เก็ตแคป 18,831.63 ล้านบาท 
• P/E 19.95 เท่า  
• P/BV 1.06 เท่า 
• ราคาสูงสุด / ต่ำสุด ในรอบ 52 สัปดาห์ 59.25 / 16.70 บาท 
• ราคาปิดณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ 22.90 บาท 
• ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) จำนวนหุ้น 208,871,053 หุ้น หรือ 25.40% (ข้อมูลการปิดสมุด ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565)

 

5.บมจ.โอสถสภา หรือ OSP ก่อตั้งเมื่อปี 2434 อายุ 132 ปี

โอสถสภาเริ่มต้นจากร้านขายยา ภายใต้ชื่อ เต๊ก เฮง หยู ในปีพุทธศักราช 2434 ก่อตั้งโดยนายแป๊ะ แซ่ลิ้ม ต้นตระกูลโอสถานุเคราะห์ โดยสินค้าในยุคแรกจะเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และปี 2508 ขยายกิจการสู่ตลาดเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ด้วยการจำหน่ายเครื่องดื่มบำรุงกำลังแบรนด์แรกของประเทศไทย ภายใต้ตราสินค้า ลิโพวิตัน-ดี ที่ได้รับอนุญาตจากบริษัท ไทโช ฟาร์มาซูติคอล จำกัด

ต่อมาได้แปลงสภาพเป็นบริษัทมหาชน จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใต้ชื่อย่อหลักทรัพย์ “OSP” เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2561 เตรียมพร้อมขยายธุรกิจในระดับนานาชาติมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

ปัจจุบันหุ้น OSP

• มาร์เก็ตแคป 96,120.00 ล้านบาท 
• P/E 49.71 เท่า  
• P/BV 5.21 เท่า 
• ราคาสูงสุด / ต่ำสุด ในรอบ 52 สัปดาห์ 38.25 / 24.80 บาท 
• ราคาปิดณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ 32.00 บาท 
• ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 นาย นิติ โอสถานุเคราะห์ จำนวนหุ้น 723,097,300 หุ้น หรือ 24.07% (ข้อมูลการปิดสมุด ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2565)