เทียบฟอร์ม ผลประกอบการค่ายมือถือปี 65 ก่อน TRUE - DTAC ควบรวมเสร็จสัปดาห์หน้า

เทียบฟอร์ม ผลประกอบการค่ายมือถือปี 65 ก่อน TRUE - DTAC ควบรวมเสร็จสัปดาห์หน้า

ผลประกอบการ 3 ค่ายมือถือปี 2565 ก่อน TRUE - DTAC ควบรวมเสร็จสัปดาห์หน้า ADVANC ทำรายได้รวม 185,485 ล้านบาท เติบโต 2.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน DTAC มีกำไรสุทธิ 3,119 ล้านบาท ลดลง 7.1% จากงวดปี 2564 ด้าน TRUE ผลดำเนินงานปี 2565 ขาดทุนสุทธิ 18,285.19 ล้าน

เทียบฟอร์ม! สรุปผลประกอบการค่ายมือถือไตรมาส 4 ปี 2565 AIS  TRUE หรือตอนนี้เปลี่ยนมาเป็น TRUEE  ก่อนที่จะควบรวมกับ DTAC แล้วเสร็จในสัปดาห์หน้า ซึ่งทั้ง 3 ค่ายมีกำไรเพิ่มขึ้นหรือขาดทุนอย่างไรกันบ้าง 

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บอกว่า ผลประกอบการของค่ายมือถือได้ออกมาแล้ว ซึ่งหุ้น TRUE ได้มีการพักการซื้อขายอยู่ ณ ขณะนี้ เพราะกำลังเข้าสู่กระบวนการควบรวมกับ DTAC เนื่องจากได้มีการซื้อขายวันสุดท้ายไปเมื่อวันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และระหว่างในสัปดาห์นี้ (20 - 24 กุมภาพันธ์ 2566) จะพักทำการซื้อขายเพื่อทำการควบรวมให้แล้วเสร็จ และในวันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 หุ้นใหม่ที่เกิดจากการควบรวมก็จะเข้ามาซื้อขาย ก็จะใช้ชื่อว่า “TRUE” ซึ่งเป็นชื่อเดิม จึงทำให้ TRUE ปัจจุบัน ต้องเปลี่ยนมาเป็น TRUEE ไปก่อน เพราะหุ้นจะมีชื่อซ้ำกันไม่ได้ พอถึงเวลาควบรวมเสร็จแล้วก็ค่อยกลับมาใช้ TRUE 

 

เทียบฟอร์ม ผลประกอบการค่ายมือถือปี 65 ก่อน TRUE - DTAC ควบรวมเสร็จสัปดาห์หน้า

“เคสของ TRUEE ต้องการที่จะเปลี่ยนชื่อก่อน เพื่อชื่อเดิมที่เป็น TRUE จะได้ว่างให้บริษัทใหม่ใช้ได้ กระบวนการนี้คล้ายกับตอนที่ SCB ต้องเปลี่ยนเป็น SCBB ก่อน แล้วพอจัดการกระบวนการได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว พอ SCBX เข้ามา แล้วจึงใช้ชื่อ SCB เหมือนเดิมได้ กระบวนจะคล้ายๆ กัน” 

ทั้งนี้สำหรับผลประกอบการ TRUE เดิม ที่ประกาศออกมาค่อนข้างที่จะขาดทุน แต่พอควบรวมไปแล้วโอกาสที่จะกลับมาติดลบก็จะน้อยลง เพราะว่า สมมติ ถ้าได้มีการล้างค่าใช้จ่ายหลายๆ อย่างไปหมด กลายเป็นว่า ต้นทุนโครงข่ายโอนไปบริษัทใหม่ก็น่าจะเบาลงไปมากทำให้ค่าเสื่อมราคา ค่าจัดจำหน่าย จะเบาลงไปบ้าง ทำให้โอกาสที่งบในอนาคตน่าจะดีกว่าเดิม หลังจากรวมกันแล้วตัวเลขน่าจะดีขึ้น 

 

ฉะนั้น invester อาจจะมาดูงบบริษัทของทั้งคู่ ซึ่งในไตรมาส 1/66 อาจจะเข้ามาดูไม่ได้ แต่งบจริงจะไปเห็นในช่วงไตรมาส 2/66 ซึ่งงบไตรมาส 1/66 จะออกมาประมาณเดือนพฤษภาคม 2566 แต่อาจจะเป็นงบที่มีระยะเวลาเพียงแค่เดือนกว่าๆ เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม การนำเสนอจะเป็นอย่างไร ต้องดูหลังจากการควบรวมอีกครั้งหนึ่ง

สำหรับผลประกอบของปี 2565 บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ทำรายได้รวม 185,485 ล้านบาท เติบโต 2.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 26,011 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 3.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากในฝั่งของต้นทุนที่เจอความท้าทายจากราคาพลังงาน และเงินเฟ้อ แต่ด้วยการบริหารจัดการต้นทุนอย่างเหมาะสม ทำให้มี EBITDA อยู่ที่ 89,731 ล้านบาท ลดลง 1.8% จากปีก่อน และมี EBITDA Margin แข็งแกร่งที่ระดับ 48% พร้อมจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการครึ่งปีหลังที่ 4.24 บาทต่อหุ้น

ขณะที่ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC เผยผลประกอบการปี 2565 มีกำไรสุทธิ 3,119 ล้านบาท ลดลง 7.1% จากงวดปี 2564 ที่มีกำไร 3,356 ล้านบาท ซึ่งในปี 2565 รายได้จากการให้บริการที่ไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย ลดลง 1.6% จากปีก่อน และลดลง 0.5% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากการลดลงของรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายจากการแข่งขัน ที่เข้มข้น รายได้จากการให้บริการหลัก (บริการเสียงและข้อมูล) ลดลง 1.3% จากปีก่อน และ 0.8% จากไตรมาสก่อน

 ส่วน บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ผลดำเนินงานปี 2565 ขาดทุนสุทธิ จำนวน 18,285.19 ล้านบาท คิดเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มากกว่า 20% จากปี 2564 ขาดทุนสุทธิ จำนวน 1,428.40 ล้านบาท จากค่าเสื่อมราคาโครงข่าย และค่าตัดจำหน่ายคลื่นความถี่ที่เพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนการขยายโครงข่ายและการให้บริการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 1.2 พันล้านบาท และค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำประมาณ 8.5 พันล้านบาท ในไตรมาส 4 อาทิ การตัดจำหน่ายสินทรัพย์ที่มีความซ้ำซ้อนหรือคาดว่าจะไม่ได้ใช้ในบริษัทใหม่ที่จะเกิดขึ้นภายหลังการควบรวมกิจการ การด้อยค่าของค่าความนิยม และผลกระทบจากการประเมินมูลค่าประจำปีของหน่วยลงทุน DIF  

โดยผลการดำเนินงานโดยสรุปมีดังนี้ กลุ่มทรูมีรายได้รวม 135,076 ล้านบาท และรายได้จากการให้บริการ 103,845 ล้านบาท ซึ่งลดลง 2.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากแรงกดดันทางเศรษฐกิจซึ่งมีผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค และการแข่งขันในตลาด แม้ฐานผู้ใช้บริการจะเติบโต ส่งผลให้ EBITDA อ่อนตัวลงมาที่ 52,804 ล้านบาท ในขณะที่มาตรการด้านการควบคุมต้นทุนยังดำเนินอยู่อย่างเข้มงวด ท่ามกลางต้นทุนด้านพลังงานและสาธารณูปโภคที่ปรับตัวขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการ

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์