เปิดประวัติ บล.จีเอ็มโอ - แซดคอม ขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 MORE
เปิดประวัติ "บล.จีเอ็มโอ - แซดคอม" ขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 MORE หลังเข้าซื้อหุ้นบิ๊กล็อต 13.21% เป็นโบรกเกอร์ออนไลน์ ของกลุ่มทุนญี่ปุ่น เน้นการปล่อยกู้เพื่อซื้อหลักทรัพย์ พอร์ต 1.37 หมื่นล้าน อยู่ระหว่างยื่นไฟลิ่งขายหุ้น IPO เตรียมเข้าเทรดใน SET
ถือว่า สร้างความประหลาดใจให้กับวงการตลาดทุน จากกรณี บริษัทหลักทรัพย์(บล) จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) จำกัด ที่กล้าเข้าไปซื้อหุ้นบิ๊กล็อตของบมจ.บริษัท มอร์ รีเทิร์น (MORE) จำนวน 948 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 13.21%ในราคาหุ้นละ 0.38 บาท จากผู้ที่ขายหุ้นให้จำนวน 4 ราย ได้แก่ นายอภิมุข บำรุงวงศ์ หรือ ‘ปิงปอง’ , นายศิริศักดิ์ ปิยทัสสีกุล , นายสามารถ ฉั่วศิริพัฒนา และ นายวสันต์ จาวลา โดยซื้อในราคาหุ้นละ 0.38 บาท
ทั้งที่หุ้น MORE นั้น ยังมีประเด็นกรณีที่ผู้ซื้อหุ้นเมื่อปลายปีที่ผ่านมาไม่สามารถจะชำระค่าหุ้นได้ มูลค่ากว่า 4 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนคดี ของพนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)
โดยกรุงเทพธุรกิจได้เปิดประวัติ บล.จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) จำกัด ใช้ชื่อย่อว่า Z เป็นโบรกเกอร์หมายเลข 10 ซึ่งจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 28 พ.ย.2559 มีทุนจดทะเบียน 2,880 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์ในประเทศไทย
บล. จีเอ็มโอ-แซด คอม ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งให้บริการเฉพาะ 2 ประเภทบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ ได้แก่ บัญชีเงินฝากล่วงหน้า (Cash Balance Account) และ บัญชีเงินกู้ยืมเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ (Credit Balance Account) แต่จะเน้นให้บริการกู้ยืมเงินเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์เป็นธุรกิจหลัก เพราะมีความพร้อมด้านประสบการณ์ และแหล่งเงินทุน
สำหรับปัจจุบัน บล.จีเอ็มโอ-แซด คอม อยู่ระหว่างยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง) เพื่อเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป(IPO) ตั้งแต่ 14 ก.ค.2565 โดยเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 120 ล้านหุ้น แบ่งเป็น หุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 75 ล้านหุ้น และ อีก 45 ล้านหุ้น เสนอขายโดย GMO Financial Holdings Inc ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ1 ซึ่งปัจจุบันถือหุ้นจำนวน 299.99 ล้านหุ้น คิดเป็น 99.99% และภายหลังการขายหุ้นไอพีโอจะเหลือถือ 254.99 ล้านหุ้น คิดเป็น 68%
ทั้งนี้ GMO Financial Holdings Inc. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ GMO Internet ในสัดส่วนร้อยละ 65.26 ประกอบธุรกิจเป็น Holding Company โดยลงทุนในบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการเงิน โดย GMO Internet และ GMOFHD ต่างเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาด TSE ประเทศญี่ปุ่น ส่วนหุ้นที่เหลืออีก3 หุ้น นั้น ถือโดยนายเมกุมุ โมโตฮิสะ ,นายประกฤต ธัญวลัย และนางสาวศศิพักตร์ สุวรรณพิบูลย์ คนละ 1 หุ้น
บล.จีเอ็มโอ-แซดคอม ระบุ ณ 30 มิ.ย. 2565 บริษัทมีลูกหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์ ณ จำนวน 14,048.11 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 93.26 ของสินทรัพย์รวม ประกอบด้วย ลูกหนี้เงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ จำนวน 13,769.47 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 98.02 ของลูกหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์ และลูกหนี้ซื้อหลักทรัพย์ด้วยเงินสด จำนวน 202.54 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1.44 และลูกหนี้ผ่อนชำระจำนวน 34.48 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.25 ของลูกหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2562 - 2564 และ 6 เดือนปี 2565 บริษัทมีรายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์เท่ากับ 206.11 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 6.77 ล้านบาท ปี 2563 มีรายได้ดอกเบี้ย 335.33 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 44.66 ล้านบาท ปี 2564 มีรายได้ดอกเบี้ย 639.63 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 261.29 ล้านบาท และงวด 6 เดือนปี 2565 มีรายได้ดอกเบี้ย 430.38 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 181.77 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามจากที่ บล.จีเอ็มโอ-แซดคอม เข้าซื้อหุ้นMOREนั้น อาจจะมีผลกระทบทำให้การซื้อขายหุ้น และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจใช้เวลานั้นขึ้น เพราะต้องมีการอัปเดตข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพิ่มขึ้น
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์
