“หุ้นไทย” ปิดตลาดบวก 4.40 จุด ที่ 1,685.44 จุด พรุ่งนี้ยังแกว่งตัวในกรอบแคบ

“หุ้นไทย” ปิดตลาดบวก 4.40 จุด ที่ 1,685.44 จุด พรุ่งนี้ยังแกว่งตัวในกรอบแคบ

“ตลาดหุ้นไทย” ปิดตลาดวันนี้ (18 ม.ค. 66) อยู่ที่ 1,685.44 จุด เพิ่มขึ้น 4.40 จุด หรือ 0.26% "บล.เมย์แบงก์" ชี้พรุ่งนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ ประเมินแนวรับ 1,675 จุด แนวต้าน 1,690 จุด เหตุไร้ปัจจัยบวกใหม่หนุน

ความเคลื่อนไหวดัชนี “หุ้นไทย” วันนี้ (18 ม.ค.66) ผันผวนในทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งดัชนีทำจุดสูงสุด 1,689.41 จุด ต่ำสุดอยู่ที่ 1,679.15 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1,685.44 จุด เพิ่มขึ้น 4.40 จุด หรือ 0.26% มูลค่าซื้อขาย 61,394.66 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

1. AOT มูลค่า 4,245.56 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 75 บาท  เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 2.39%         

2. DELTA มูลค่า  2,874.82 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 860 บาท  เพิ่มขึ้น 18 บาท หรือ 2.14%

3. KBANK มูลค่า  1,998.61 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 152.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 0.33%                   

4. PTTEP มูลค่า 1,789.41 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 173 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 1.47%           

5. KCE มูลค่า 1,679.36 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 49.50 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 2.46%

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย  บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทย วันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบเนื่องจากไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนตลาด ซึ่งนักลงทุนยังรอติดตามตัวเลขสำคัญของสหรัฐที่จะประกาศคืนนี้ และผลประกอบการของกลุ่มธนาคารที่จะประกาศออกมาในวันศุกร์ ว่ากำไรจะออกมาดีกว่าหรือต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

สำหรับ แนวโน้มดัชนีหุ้นไทย พรุ่งนี้ (19 ม.ค. 66) คาดว่ายังคงแกว่งตัวในกรอบแคบเพราะยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้นตลาด โดยประเมินแนวรับที่ 1,675 จุด ส่วนแนวต้าน 1,690 จุด

"อย่างไรก็ตาม ดัชนีตลาดหุ้นไทยขึ้นเร็วและแรงจาก 1,600 จุด มาอยู่ที่ 1,700 จุด ซึ่งใช้เวลาภายใน 2 สัปดาห์ จึงทำให้ช่วงนี้ดัชนีอยู่ในระดับสูงเหตุนักลงทุนเข้ามาซื้อมากเกินไป (Overbought)"

ส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้รอจังหวะดัชนีตลาดหุ้นไทยย่อตัวมาอยู่ที่ 1,680 จุด ซึ่งถือเป็นจุดเข้าซื้อได้ เพราะมองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในเทรนด์ขึ้น โดยคาดครึ่งปีแรก 2566 ดัชนีจะปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ 1,815 จุด ได้เพราะมีปัจจัยบวกจากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเดือนพ.ค. ซึ่งตามสถิติพบว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวสูงขึ้นแรงในช่วง 3 เดือนก่อนจะมีการเลือกตั้ง และนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย มากขึ้น หนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ ส่วนในปัจจัยต่างประเทศคาดมีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไม่มากเพราะทิศทางเงินเฟ้อปรับตัวลดลงและคาดธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะขึ้นดอกเบี้ยอีกเพียงไม่กี่ครั้ง หลังจากนั้นก็จะคงที่ยาว

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์