เตือนหุ้นคริปโท‘เสี่ยงสูง’ โบรกชี้แรงเก็งกำไรระยะสั้น หลังบิทคอยน์พุ่ง

เตือนหุ้นคริปโท‘เสี่ยงสูง’ โบรกชี้แรงเก็งกำไรระยะสั้น หลังบิทคอยน์พุ่ง

หุ้นคริปโต พุ่งเด่นรับอานิสงส์ตลาดคริปโทส่งสัญญาณม้วนตัวสู่ขาขึ้น ‘บิทคอยน์’ วิ่ง 3 วันทะลุ 21,000 ดอลลาร์ ด้าน นักวิเคราะห์ เตือนยังเสี่ยงสูง ชี้ชัดแค่แรงเก็งกำไรระยะสั้น ขณะ ผลดำเนินงานส่อแววขาดทุนจากต้นทุนไฟฟ้าที่สูงขึ้น 

หุ้นที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซีเริ่มกลับมาอยู่ในความสนใจของนักลงทุนอีกครั้ง หลังจากที่ราคาเหรียญคริปโทพุ่งขึ้นต่อเนื่องติดกัน 3 วัน โดยราคาเหรียญ บิทคอยน์ ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมสูงสุด ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุระดับ 21,000 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับคริปโทซึ่งปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงในรอบนี้ มาพร้อมกับคำเตือนของเหล่านักวิเคราะห์ที่ให้ระมัดระวังการลงทุน

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า หุ้นในกลุ่มคริปโทเคอร์เรนซีที่ขยับขึ้นเกือบทั้งกลุ่ม มาจากการปรับขึ้นตามราคาของบิทคอยน์ หลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สินทรัพย์ดิจิทัลได้รับอานิสงส์ไปด้วย

การเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มดังกล่าวในวานนี้ (16ม.ค.) จะเห็นว่า ปรับตัวกระโดดขึ้นมา ซึ่งเป็นผลจากแรงซื้อที่เข้ามาเก็งกำไรไม่ว่าจะเป็นหุ้น ZIGA , JTS และ XPG เป็นต้น 

นายณัฐพล กล่าวว่า แรงซื้อดังกล่าวเชื่อว่าเป็นเพียงการเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น เพราะถ้ามองในเรื่องของผลประกอบการไตรมาส 4 /65 น่าจะยังไม่ดีขึ้น เนื่องจากในส่วนของหุ้นกลุ่มสายขุดเหมืองจะโดนในเรื่องของค่าไฟที่ปรับเพิ่มขึ้น และราคาสินทรัพย์ดิจิทัลเองที่ช่วงไตรมาส 4 /65 ก็ยังอยู่ในระดับต่ำ หรือถึงขั้นขาดทุนเกือบทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นในครั้งนี้ถือว่า เป็นความหวังของนักลงทุนที่คล้ายกลุ่มหุ้นพลังงานที่เล่นตามราคาน้ำมัน เนื่องจากเป็นแค่สีสันระยะสั้นที่เกิดขึ้น ตามราคาบิทคอยน์ที่มันฟื้นตัวกลับมา ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา

ทั้งนี้แนะนำนักลงทุนว่า กลุ่มนี้ในโซนด้านล่างทั้งหมด แต่ว่าอยากให้นักลงทุนโฟกัสกับหุ้นที่สามารถทำกำไรได้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลของการประกาศผลประกอบการที่มีกำไรแนะนำให้เข้าไปลงทุนในหุ้นที่คาดว่างบการเงินจะออกมาสวยมากกว่า

ฉะนั้นถ้านักลงทุนมีหุ้นกลุ่มคริปโตอยู่ก่อนหน้า ช่วงนี้ถือเป็นโอกาสในการลดปรับน้ำหนักในการขายออกไป แต่ถ้านักลงทุนยังไม่มีหุ้นกลุ่มนี้ไม่แนะนำให้เข้าไปเก็งกำไร แต่ถ้าจะเข้าไปก็ต้องดูศึกษาถึงราคาสินทรัพย์ดิจิทัลประกอบด้วย

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หุ้นที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซีมีการปรับขึ้นตามราคาสินทรัพย์ดิจิทัล จากการอ่อนค่าลงของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งหุ้นกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นอารมณ์ที่นักลงทุนมักเข้าไปเก็งกำไรถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่การปรับตัวขึ้นมาถือว่า ไม่ได้ยั่งยืนเพราะมีโอกาสที่จะปรับตัวลงมาอีก จึงมองเป็นการลงทุนแค่ช่วงระยะสั้น ๆ เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม แม้ทิศทางของราคาสินทรัพย์ดิจิทัลจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าดูในเรื่องของปัจจัยพื้นฐานของหุ้นกลุ่มนี้ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะงบไตรมาส 4 /65 น่าจะไม่ค่อยสวย เพราะว่าสินทรัพย์กลุ่มนี้ช่วงไตรมาส 4/2565 ยังไม่ค่อยดี แต่นักลงทุนที่เข้ามาเล่นส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสนใจในเรื่องของผลประกอบการ เพราะหุ้นกลุ่มนี้เป็นการเล่นเพื่อเก็งกำไรเท่านั้น

สำหรับการแนะนำนักลงทุนกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่นักลงทุนค่อนข้างที่จะเข้าใจ ว่ากำลังเข้าไปลงทุนกับอะไร สินทรัพย์ประเภทไหน แทบจะไม่ต้องเตือนหรือแนะนำมาก เพราะหุ้นกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนแบบเก็งกำไร

ทั้งนี้ ณ วันที่ 16 มกราคม 2566  ZIGA ราคาปิดที่ 4.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.42 บาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 11.73% ขณะที่ JTS ราคาปิดที่ 52.25 บาท เพิ่มขึ้น 4.25 บาท หรือ 8.85% และ XPG ราคาปิดที่ 1.47 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท หรือ 2.80%