“หุ้นไทย” ปิดลบ 5.66 จุด ที่ 1,685.75 จุด

“หุ้นไทย” ปิดลบ 5.66 จุด ที่ 1,685.75 จุด

“หุ้นไทย” ปิดตลาดวันนี้ (11 ม.ค. 66) อยู่ที่ 1,685.75 จุด ลดลง 5.66 จุด หรือ 0.33% “บล.เมย์แบงก์” ชี้ จับตาปฏิกริยาต่างชาติต่อมาตรการรับนักท่องเที่ยวจีนของไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยในอนาคต

ความเคลื่อนไหวดัชนี “หุ้นไทย” วันนี้ (11 ม.ค.66) เปิดตลาดเช้าเคลื่อนไหวในแดนบวก ก่อนสลับมาอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน ซึ่งดัชนีทำจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,681.88 และเคลื่อนไหวมาปิดตลาดที่ 1,685.75 จุด ลดลง 5.66 จุด หรือ 0.33% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 73,070.57 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

 

1. CPALL มูลค่า 4,280.37 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 68.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือลดลง 3.52%

 

2. AOT มูลค่า 3,189.59 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 74.25 บาท ลดลง 1 บาท หรือลดลง 1.33%

 

3. KBANK มูลค่า 2,741.48 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 155 บาท ลดลง 0.5 บาท หรือลดลง 0.32%

 

4. BBL มูลค่า 2,017.11 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 157 บาท ลดลง 2 บาท หรือลดลง 1.26%

 

5. DELTA มูลค่า 2,007.99 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 850 บาท เพิ่มขึ้น 18 บาท หรือเพิ่มขึ้น 2.16%

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทย วันนี้ย่อตัวลงมาในทิศทางของการติดแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยาที่ 1,700 จุด เช่นเดิม ส่งผลให้ตลาดอยู่ในสภาวะ “พักฐาน” เพื่อหาปัจจัยเสริมทางบวกเข้ามากระตุ้น และ “เปลี่ยนต้นทุน” รวมทั้งในช่วงนี้สัญญาณของการขายเพื่อทำกำไรของกลุ่มตลาดขนาดใหญ่ (ฺBig Cap.) ลดลงมาเล็กน้อยหลังจากในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นไปมากพอสมควร

“ในเรื่องปัจจัยบวกจากนักท่องเที่ยวจีน ประเด็นดังกล่าวเป็นเหมือนดาบสองคม เพราะการที่รัฐบาลไทยผ่อนมาตรการรับนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน วิธีนี้เงินทุนไหลเข้ามาจริง แต่ความกังวลในช่วงถัดไปอาจจะต้องจับตาประเทศอื่น อย่างอินเดียที่ในปัจจุบันเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยจำนวนมาก ประเทศเหล่านี้อาจมีมาตรการที่เข้มงวดกับไทยมากขึ้น เพราะเรามีความเสียงมากกว่าปกติจากการเปิดรับนักท่องเที่ยวจีน”

สำหรับวันพรุ่งนี้ (12 ม.ค. 66) อาจเป็นภาพของการย่อตัวลงของดัชนีตลาดหุ้นไทยเหมือนเดิม แต่อาจเป็นการย่อตัวที่ไม่ลึกมาก เพราะ ณ จุดแนวรับสำคัญทางจิตวิทยา ก็ยังมี “แรงสู้” ตลอด คาดแนวรับพรุ่งนี้อยู่ที่ 1,675 จุด ในขณะที่แนวต้าน อยู่ที่ 1,700 จุด สำหรับการลงทุนในระยะสั้น ขณะนี้หลายภาคส่วนกำลังอยู่ในช่วง Preview ผลประกอบการ ดังนั้นนักลงทุนควรเริ่มกลับมาดูหน้าหุ้นที่มีพื้นฐานดี และมีกำไรไตรมาส 4 เด่น