“หุ้นไทย” ปิดตลาดบวก 0.29 จุด ที่ 1,691.41 จุด

“หุ้นไทย” ปิดตลาดบวก 0.29 จุด ที่ 1,691.41 จุด

“หุ้นไทย” ปิดตลาดวันนี้ (10 ม.ค. 66) อยู่ที่ 1,691.41 จุด เพิ่มขึ้น 0.29 จุด หรือเพิ่ม 0.02% “บล.เมย์แบงก์” ชี้ ตลาดอยู่ในช่วงพัก และรอปัจจัยเสริมเชิงบวกอื่น

ความเคลื่อนไหวดัชนี “หุ้นไทย” วันนี้ (10 ม.ค.66) ผันผวนในเชิงปรับตัวลดลงเกือบทั้งวันแต่สามารถกลับมาเป็นบวกได้ช่วงท้ายของวัน ซึ่งดัชนีทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,695.53 ต่ำสุดอยู่ที่ 1,684.90 จุด  ก่อนมาปิดตลาดที่ 1,691.41 จุด เพิ่มขึ้น 0.29 จุด หรือ 0.02% มูลค่าซื้อขาย 80,560.62 ล้านบาท

สำหรับ หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

 

1. PTTGC มูลค่า 3,497.36 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 50.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท หรือ 5.79%

 

2. DELTA มูลค่า 3,127.32 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 832 บาท ลดลง 10 บาท หรือ 1.19%

 

3. IVT มูลค่า 2,811.47 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 41.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท หรือ 7.14%

 

4. CPALL มูลค่า 2,808.86 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 71 บาท ลดลง 2 บาท หรือ 2.74%

 

5. KBANK มูลค่า 2,737.81 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 155.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.65%

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ ปรับตัวลดลงร้อนแรง ติดแนวต้าน 1,700 จุด เป็นผลมาจากการปรับตัวขึ้นมาไกล จากเดิม 1,600 จุด ถึงเกือบ 1,700 จุด ภายใน 2 สัปดาห์ ประกอบกับยังไม่มีปัจจัยเชิงบวกในระยะสั้นตัวใหม่เข้ามา

ทั้งนี้ การที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ “แนวต้านสำคัญทางจิตวิทยา” ที่ 1,700 จุดครั้งนี้ ส่งผลให้ 1 ถึง 2 วันข้างหน้า จะเกิดภาพของการพักฐาน และสลับเปลี่ยนต้นทุน

“แนวโน้มในช่วงถัดไปตลาดยังควรต้องไปต่อ แต่ภาพของการเข้าใกล้แนวต้านทางจิตวิทยานี้ ค่อนข้างเร็ว และแรงจนอาจต้องมีการพักเพื่อรอปัจจัยเสริมทางบวกอื่นๆ ในอนาคต เช่น การจับตาว่าหลังจากการเปิดประเทศของจีนแล้ว เงินทุนจะไหลเข้าไปในธุรกิจใดของประเทศไทยจริงๆ บ้าง หรือคืนนี้จะมีถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล (Jerome Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ทั้งสองปัจจัยอาจเป็นสิ่งที่ทำให้ตลาดหยุดคิดก่อนเริ่มกระทำการใดๆ ต่อไป”

สำหรับวันพรุ่งนี้ (11 ม.ค. 66) ตลาดหุ้นไทยจะยังอยู่ในกรอบของการแกว่งออกข้างในระดับแนวรับ 1,675 จุด ถึงแนวต้าน 1,700 เนื่องจากการที่ตลาดยังไม่มีปัจจัยเสริมทางบวกอื่นๆ เข้ามากระตุ้น และการปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นไทยอย่างร้อนแรงในช่วง 2 สัปดาห์นี้อย่างที่กล่าวไปข้างต้น

ด้านการลงทุนในไตรมาสแรกนี้แนะหน้าหุ้นที่ “outperform” ซึ่งเชื่อมโยงกับการบริโภคภายในประเทศ ภาคท่องเที่ยว และกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์