เช็ก 6 หุ้นบิ๊กรับเหมาก่อสร้าง ล่าสุดรับเมกะโปรเจครัฐอะไรบ้าง?

เช็ก 6 หุ้นบิ๊กรับเหมาก่อสร้าง ล่าสุดรับเมกะโปรเจครัฐอะไรบ้าง?

บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในหมวดรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ มีบริษัทไหนบ้างที่ได้งานจากหน่วยงานภาครัฐไปบ้าง ในช่วงท้ายปี 2565 พบ CK STEC ITD TEAMG UNIQ มีมาร์เก็ตแคปสูงสุดในกลุ่ม ขณะที่ STPI  เปลี่ยนแนวลุยธุรกิจกัญชงแทน

กระแสร้อนฉ่าตั้งแต่ต้นปีกับประเด็นความเหมาะสมของการเปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ มูลค่า 33 ล้านบาท ที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่าแพงเกินไปหรือไม่ ทั้งนี้ ‘กรุงเทพธุรกิจ’ ได้ทำการสำรวจบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในหมวดรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ ว่ามีบริษัทไหนบ้างที่ได้งานจากหน่วยงานภาครัฐไปบ้าง ในช่วงท้ายปี 2565 

1.บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK หนึ่งในผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปัจจุบันมีมาร์เก็ตแคป 40,484.14 ล้านบาท มี นายณัฐวุฒิ ตรีวิศวเวทย์ เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่

ทั้งนี้ CK  รับงานรัฐล่าสุดได้ลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างขุดคลองระบายน้ำหลากพร้อมอาคารประกอบ สัญญาที่ 4 โครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กับกรมชลประทาน มูลค่า 3,280.00 ล้านบาท 

สำหรับราคา ณ วันที่ 3 มกราคม 2566 ปิดที่ 23.90 บาท ราคาสูงสุด / ต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 24.80 / 17.90 บาท P/E 36.12 เท่า P/BV 1.61 เท่า อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน 1.05% ขณะที่ช่วง 9 เดือนของปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 992.33 ล้านบาท รายได้รวม 15,293.65 ล้านบาท หนี้สิน 57,722.36 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 82,788.44 ล้านบาท 

เช็ก 6 หุ้นบิ๊กรับเหมาก่อสร้าง ล่าสุดรับเมกะโปรเจครัฐอะไรบ้าง?

ผู้ถือหุ้น 5 อันดับแรก (ข้อมูล ณ วันที่ 29 ส.ค. 2565)

อันดับ 1 บริษัท มหาศิริ สยาม จำกัด จำนวน 241,512,365 หุ้น หรือ 14.26%

อันดับ 2 บริษัท ช.การช่าง โฮลดิ้ง จำกัด จำนวน 189,396,530 หุ้น หรือ 11.18%

อันดับ 3 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวน 103,809,067 หุ้น หรือ 6.13%

อันดับ 4 บริษัท ซีเค.ออฟฟิซ ทาวเวอร์ จำกัด จำนวน 86,048,212 หุ้น หรือ 5.08%

อันดับ 5 ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จำนวน 38,950,000 หุ้น หรือ 2.30%

2.บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น หรือ STEC เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง โครงการขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐ และเอกชน ของ “กลุ่มชาญวีรกูล” ปัจจุบันมีมาร์เก็ตแคป 20,436.43 ล้านบาท มีนายภาคภูมิ ศรีชำนิ เป็นกรรมการผู้จัดการ

STEC รับงานรัฐล่าสุดลงนามสัญญาโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินโครงการตามแนวรถไฟฟ้า สายสีเหลือง ช่วงแยกลำสาลี - ถนนเทพารักษ์ สัญญาลงวันที่ 26 ธันวาคม 2565 กับการไฟฟ้านครหลวง มูลค่า 3,517.69 ล้านบาท 

สำหรับราคา ณ วันที่ 3 มกราคม 2566 ปิดที่ 13.40 บาท ราคาสูงสุด / ต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 15.60 / 11.00 บาท  P/E 22.24 เท่า P/BV 1.08 เท่า อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน 1.87% ขณะที่ช่วง 9 เดือนของปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 543.17 ล้านบาท รายได้รวม 22,006.03 ล้านบาท หนี้สิน 30,603.79 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 49,848.30 ล้านบาท

 

 

 

ผู้ถือหุ้น 5 รายแรก (ข้อมูล ณ วันที่ 25 มี.ค. 2565)

ลำดับ 1 บริษัท ซี.ที. เวนเจอร์ จำกัด จำนวน 234,086,788 หุ้น หรือ 15.35%

ลำดับ 2 UBS AG SINGAPORE BRANCH จำนวน 159,878,000 หุ้น หรือ 10.48%

ลำดับ 3 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวน 120,858,500 หุ้น หรือ 7.92%

ลำดับ 4 นาง พัชรา จิรรัตน์สถิต จำนวน 63,479,596 หุ้น หรือ 4.16%

ลำดับ 5 บริษัท อิควิตี้ พลัส จำกัด จำนวน 45,902,841 หุ้น หรือ 3.01%

3.บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ทั้งภายในและภายนอกประเทศ รับงานการก่อสร้างตั้งแต่โครงการอาคารขนาดกลาง ประเภท อาคารสำนักงาน โรงแรม จนถึงโครงการขนาดใหญ่ ประเภทศูนย์การค้า ท่าอากาศยาน และก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคต่าง ๆ ผู้เริ่มก่อตั้งบริษัทมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มนายแพทย์ชัยยุทธ กรรณสูต ชาวไทย และ Mr. Giorgio Berlingieri ชาวอิตาลี ปัจจุบันมีมาร์เก็ตแคป 9,978.95 ล้านบาท มีนายธรณิศ กรรณสูต เป็นรองประธานบริหารอาวุโส และรักษาการประธานบริหาร

ล่าสุด ITD ได้ร่วมลงนามในสัญญาก่อสร้างกับมูลนิธิรามาธิบดีเพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการก่อสร้างศูนย์การแพทย์รามาธิบดีศรีอยุธยา จำนวน 2 อาคาร ประกอบด้วย อาคารสูง 8 ชั้น มีชั้นใต้ดิน 3 ชั้น จำนวน 1 อาคาร และอาคารสูง 29 ชั้น มีชั้นใต้ดิน 4 ชั้น จำนวน 1 อาคาร มูลค่า 1,520.00 ล้านบาท 

สำหรับราคา ณ วันที่ 3 มกราคม 2566 ปิดที่ 1.89 บาท ราคาสูงสุด / ต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 2.36 / 1.77 บาท P/E - เท่า P/BV 0.99 เท่า อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน -% ขณะที่ช่วง 9 เดือนของปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ -3,213.45 ล้านบาท รายได้รวม 49,407.94 ล้านบาท หนี้สิน 105,044.56 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 118,196.11 ล้านบาท

ผู้ถือหุ้น 5 รายแรก (ข้อมูล ณ วันที่ 18 มี.ค. 2565)

ลำดับ 1 นาย เปรมชัย กรรณสูต  จำนวน 628,213,626 หุ้น หรือ 11.90%

ลำดับ 2 นาง นิจพร จรณะจิตต์ จำนวน 350,815,140 หุ้น หรือ 6.64%

ลำดับ 3 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวน 168,990,978 หุ้น หรือ 3.20%

ลำดับ 4 SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED จำนวน 101,996,849 หุ้น หรือ 1.93%

ลำดับ 5 น.ส. จิตราพรรณ จรณะจิตต์ จำนวน 50,614,391 หุ้น หรือ 0.96%

4.บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG ดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมและสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจรตั้งแต่การศึกษา ออกแบบ จัดทำรายงาน บริหารโครงการและควบคุมงานก่อสร้าง รวมถึงการจัดทำรายงานประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันมีมาร์เก็ตแคป 8,772.00 ล้านบาท มีนายอภิชาติ สระมูล เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

ทั้งนี้ TEAMG ได้ลงนามสัญญาโครงการใหม่ ในเดือนสิงหาคม - เดือนตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา 9 โครงการ ภายใต้บริษัทย่อยของบริษัท 

1.สัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้าง โครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ โดย บริษัท กับ การรถไฟแห่งประเทศไทย

 2. สัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้างพร้อมบริหารโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้า ใต้ดิน ถนนอรุณอัมรินทร์ฯ บรมราชชนนีและ พรานนก กับการไฟฟ้านครหลวง 

3. สัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้างพร้อมบริหารโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้า ใต้ดิน ส่วนต่อขยายตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง ถนนกรุงเทพ-นนทบุรีและถนนติวานนท์ กับ การไฟฟ้านครหลวง

 4. สัญญาจ้างที่ปรึกษาโครงการจัดตั้ง/ร่วมทุนในบริษัทในเครือและให้คำปรึกษาในการบริหารจัดการ หลังการจัดตั้ง/ร่วมทุนเพื่อดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องของการประปานครหลวง กับ การประปานครหลวง 

5. สัญญาจ้างออกแบบอาคารศูนย์บริการสุขภาพนานาชาติโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กับกรมแพทย์ทหารเรือ กองทัพเรือ 

6. สัญญาจ้างจัดหาและติดตั้งเครื่องมือวัดพฤติกรรมเขื่อน เขื่อนลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมา กับกรมชลประทาน

7. สัญญาจ้างจัดหาและติดตั้งเครื่องมือวัดพฤติกรรมเขื่อน เขื่อนห้วยตาจูจังหวัดศรีสะเกษ กับกรมชลประทาน 

8. สัญญาจ้างจัดหาและติดตั้งเครื่องมือวัดพฤติกรรมเขื่อน เขื่อนมูลบน จังหวัดนครราชสีมา กับกรมชลประทาน 

9. สัญญาจ้างจัดหาและติดตั้งเครื่องมือวัดพฤติกรรมเขื่อน เขื่อนลำนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ กับกรมชลประทาน 

มูลค่ารวมของงานข้างต้นไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเงินประมาณ 472 ล้านบาท 

สำหรับราคา ณ วันที่ 3 มกราคม 2566 ปิดที่ 12.90 บาท ราคาสูงสุด / ต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 18.70 / 2.72 บาท P/E 84.27 เท่า P/BV 9.00 เท่า อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน 1.16% ขณะที่ช่วง 9 เดือนของปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 65.96 ล้านบาท รายได้รวม 1,204.03 ล้านบาท หนี้สิน 1,324.59 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 2,304.68 ล้านบาท

ผู้ถือหุ้น 5 รายแรก (ข้อมูล ณ วันที่ 6 พ.ค. 2565)

ลำดับ 1 นาย ธีระชัย รัตนกมลพร จำนวน 85,100,000 หุ้น หรือ 12.51%

ลำดับ 2 บริษัท เน็กซเตอร์ เวนเจอร์ส จำกัด จำนวน 67,328,800 หุ้น หรือ 9.90%

ลำดับ 3 นาย ประเสริฐ ภัทรมัย จำนวน 48,279,000 หุ้น หรือ 7.10%

ลำดับ 4 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวน 32,905,613 หุ้น หรือ 4.84%

ลำดับ 5 นาย อำนาจ พรหมสูตร จำนวน 25,237,000 หุ้น หรือ 3.71%

5.บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) STPI  ทำธุรกิจหลักงานแปรรูปและติดตั้งโครงสร้างเหล็ก ระบบท่อ โรงงานสำเร็จรูป และผลิตภัณฑ์เหล็กอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน โรงไฟฟ้า โรงกลั่นน้ำมัน โรงแยกก๊าซ โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เป็นของกลุ่มชาญวีรกูล โดยมี “อนุทิน ชาญวีรกุล” ถือหุ้นใหญ่ 10.13% แม้ปัจจุบันจะฝากหุ้นไว้ที่ บลจ.เกียรตินาคินภัทร ซึ่งเป็น Custodian (ผู้ดูแลและเก็บรักษาหลักทรัพย์ หรือผู้รับฝากทรัพย์สิน) เช่นกัน ปัจจุบันมีมาร์เก็ตแคป 6,759.30 ล้านบาท มีนายมาศถวิน ชาญวีรกูล เป็นกรรมการผู้จัดการ

ทั้งนี้ STPI พักหลังมีงานน้อย จากภาวะเศรษฐกิจซบเซางานลงทุนเมกะโปรเจคโครงการขนาดใหญ่ไม่ค่อยมี บริษัทจึงได้จัดต้องบริษัทย่อยขึ้นมาเพื่อลุยธุรกิจกัญชง ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ บริษัท แคนนาธอรี่ จำกัด โดย STPI ถือหุ้น 100% เพื่อลงทุนในธุรกิจกัญชง 

สำหรับราคา ณ วันที่ 3 มกราคม 2566 ปิดที่ 4.16 บาท ราคาสูงสุด / ต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 6.75 / 3.44 บาท P/E 607.39 เท่า P/BV 0.87 เท่า อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน -% ขณะที่ช่วง 9 เดือนของปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ -90.27 ล้านบาท รายได้รวม 2,781.19 ล้านบาท หนี้สิน 3,605.78 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 11,417.64 ล้านบาท

ผู้ถือหุ้น 5 รายแรก (ข้อมูล ณ วันที่ 25 มี.ค. 2565)

ลำดับ 1 บลจ.เกียรตินาคินภัทร (รับโอนจากรมต.อนุทิน ชาญวีรกูลเพื่อการจัดการทรัพย์สินของรมต.ฯ) จำนวน 164,590,285 หุ้น หรือ 10.13%

ลำดับ 2 บริษัท เบสท์ ควอลิตี้ สกิลส์ จำกัด จำนวน 77,880,000 หุ้น หรือ 4.79%

ลำดับ 3 นาย ยรรยง นิติสาโรจน์ จำนวน 67,486,724 หุ้น หรือ 4.15%

ลำดับ 4 นาย ชวลิต ลิ่มพานิชย์ จำนวน 64,899,995 หุ้น หรือ 3.99%

ลำดับ 5 นาย ชวรัตน์ ชาญวีรกูล จำนวน 56,906,765 หุ้น หรือ 3.50%

6.บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ รับเหมาก่อสร้างครบวงจร รวมถึงงานสาธารณูปโภคขนาดกลางและขนาดใหญ่ และก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ลูกค้าทั้งภาครัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ เช่น กรุงเทพมหานคร กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมชลประทาน กรมเจ้าท่า การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวงการประปานครหลวง บมจ. ทีโอที บมจ. ท่าอากาศยานไทย เป็นต้น ปัจจุบันมีมาร์เก็ตแคป 5,037.54 ล้านบาท มีนายประสงค์ สุวิวัฒน์ธนชัย เป็นประธานกรรมการบริหาร 

ล่าสุด UNIQ ได้ลงนามในสัญญาจ้างก่อสร้าง กับ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในการก่อสร้างโครงการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อเป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และตราสัญลักษณ์ มูลค่า 33.16 ล้านบาท ที่เป็นกระแสข่าวร้อนแรงกับการวิพากษ์วิจารณ์ในจำนวนที่สูงเกินไปอยู่ ณ ขณะนี้ และก่อนหน้านี้ UNIQ ได้ลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างวางท่อประปา และงานที่เกี่ยวข้องพร้อมโครงการก่อสร้าง สะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์ ถนนราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี ของกรมทางหลวงชนบท มูลค่า 66.80 ล้านบาท 

สำหรับราคา ณ วันที่ 3 มกราคม 2566 ปิดที่ 4.66 บาท ราคาสูงสุด / ต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 6.65 / 4.30 บาท P/E 129.37 เท่า P/BV 0.62 เท่า อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน -% ขณะที่ช่วง 9 เดือนของปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 31.33 ล้านบาท รายได้รวม 8,521.07 ล้านบาท หนี้สิน 37,351.62 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 45,441.75 ล้านบาท

ผู้ถือหุ้น 5 รายแรก (ข้อมูล ณ วันที่ 15 มี.ค. 2565)

ลำดับ 1 นาง ถนอมศรี สุดโต จำนวน249,131,849 หุ้น หรือ 23.05%

ลำดับ 2 นาย เกรียงศักดิ์ สุวิวัฒน์ธนชัย จำนวน 134,727,172 หุ้น หรือ 12.46%

ลำดับ 3 นาง มุกดา อาริยวัฒน์ จำนวน 128,722,400 หุ้น หรือ 11.91%

ลำดับ 4 นาย ธวัช เสริมคชสีห์ จำนวน 35,638,588 หุ้น หรือ 3.30%

ลำดับ 5 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวน 17,310,108 หุ้น หรือ 1.60%

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์