เปิดพอร์ต ‘8 ไฮโซหนุ่มดัง’ แห่งปี 2565 รวยหุ้น หลักหลายพันล้าน

เปิดพอร์ต ‘8 ไฮโซหนุ่มดัง’ แห่งปี 2565 รวยหุ้น หลักหลายพันล้าน

คนในวงการไฮโซ เข้าถือหุ้นใหญ่กันหลายราย มีมูลค่ากว่าหลักหลายพันล้าน พิธาน องค์โฆษิต หรือไฮโซแอมป์ รวยสุด ถือหุ้น 2 หลักทรัพย์ มูลค่า 8,671.57 ล้านบาท ขณะที่เฉลิมชัย มหากิจศิริ หรือไฮโซกึ้ง ถือหุ้น 10 หลักทรัพย์ รวม 5,218.05 ล้าน

เริ่มนับถอยหลังส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2566 ซึ่งตลาดหุ้นไทยช่วงที่ผ่านมาถือว่า มีความผันผวนจากหลากหลายปัจจัย จะเห็นได้ว่ามีเหล่าบรรดานักลงทุนรายใหญ่ หรือที่เป็นเซียนหุ้นต่างปรับพอร์ตกันเป็นว่าเล่น ล่าสุด “กรุงเทพธุกิจ” ได้ทำการสำรวจถึงลูก หลาน คนในวงการไฮโซ พบว่า เข้าถือหุ้นใหญ่กันหลายราย ซึ่งเมื่อลองคำนวณดูแล้วมีมูลค่ากว่าหลักหลายพันล้านบาท

(ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2565)

 

เปิดพอร์ต ‘8 ไฮโซหนุ่มดัง’ แห่งปี 2565

1.นายพิธาน องค์โฆษิต หรือ ไฮโซแอมป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE) และยังพ่วงตำแหน่งหวานใจคนสนิทนางเอกสาวร่างเล็กมากความสามารถ ออม สุชาร์ มานะยิ่ง ที่คบหากันมาเข้าสู่ปีที่ 5 แล้ว

ไฮโซแอมป์ เป็นทายาทรุ่นที่ 2 ของนายบัญชา และนางวรลักษณ์ องค์โฆษิต ผู้ก่อตั้ง KCE ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่อันดับ 5 ของโลก

ปัจจุบันไฮโซแอมป์ถือหุ้น 2 หลักทรัพย์ มูลค่าทั้งสิ้น 8,671.57 ล้านบาท

  • บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ หรือ KCE (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 23 สิงหาคม 2565) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 164,754,244 หุ้น หรือ 13.94% (คำนวณราคาปิด ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2565 ที่ 45.00 บาท) เท่ากับมีมูลค่า 7,413.94 ล้านบาท
  • บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น หรือ AAV (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 11 มีนาคม 2565) เข้าถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 จำนวน 424,877,596 หุ้น หรือ 3.66% (คำนวณราคาปิด ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2565 ที่ 2.96 บาท) เท่ากับมีมูลค่า 1,257.63 ล้านบาท

 

2.นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ หรือ ไฮโซกึ้ง  ทายาทผู้ถือหุ้นใหญ่โรงงานผลิตเนสกาแฟ เจเนอเรชั่นที่ 2 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ หรือ TTA

ปัจจุบันไฮโซกึ้งถือหุ้นทั้งสิ้น 10 หลักทรัพย์ รวมมูลค่า 5,218.05 ล้านบาท

  • บมจ. โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ หรือ TTA (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 25 มีนาคม 2565) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 และ 3 จำนวน 147,943,517 หุ้น หรือ 8.12% และ 123,975,642 หุ้น หรือ 6.80% ตามลำดับ(คำนวณราคาปิด ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2565 ที่ 8.25 บาท) เท่ากับมีมูลค่า 2,243.33 ล้านบาท
  • บมจ.ไทยฟิล์มอินดัสตรี่ หรือTFI (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 9 มีนาคม 2565) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 จำนวน 6,504,203,834 หุ้น หรือ 38.66% (คำนวณราคาปิด ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2565 ที่ 0.14 บาท) เท่ากับมีมูลค่า 910.58 ล้านบาท
  • บมจ.พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ หรือ PMTA (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 15 มีนาคม 2565) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 จำนวน 9,070,894 หุ้น หรือ 8.96% (คำนวณราคาปิด ณ วันที่ 19 ธันวาคม 2565 ที่ 10.50 บาท) เท่ากับมีมูลค่า 95.24 ล้านบาท
  • บมจ.โพสโค-ไทยน๊อคซ์ หรือ INOX (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 21 มีนาคม 2565) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 จำนวน 789,570,000 หุ้น หรือ 10.13% (คำนวณราคาปิด ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2565 ที่ 0.99 บาท) เท่ากับมีมูลค่า 781.67 ล้านบาท
  • บมจ.ไทย โอ.พี.พี. หรือ TOPP (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 10 พฤษภาคม 2565) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 จำนวน 723,900 หุ้น หรือ 12.07% (คำนวณราคาปิด ณ วันที่ 9 ธันวาคม 2565 ที่ 157.00 บาท) เท่ากับมีมูลค่า 113.65 ล้านบาท
  • บมจ.แรบบิท โฮลดิ้งส์ หรือ RABBIT-P (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 18 ตุลาคม 2565) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 จำนวน 500,000,000 หุ้น หรือ 1.91% (คำนวณราคาปิด ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2565 ที่ 1.05 บาท) เท่ากับมีมูลค่า 525.00 ล้านบาท
  • บมจ.สหยูเนี่ยน หรือ SUC (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 5 จำนวน 14,949,600 หุ้น หรือ 4.98% (คำนวณราคาปิด ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2565 ที่ 28.50 บาท) เท่ากับมีมูลค่า 426.06 ล้านบาท
  • บมจ.เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ หรือ 7UP (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 28 มีนาคม 2565) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 9 จำนวน 45,500,000 หุ้น หรือ 0.88% (คำนวณราคาปิด ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2565 ที่ 0.54 บาท) เท่ากับมีมูลค่า 24.57 ล้านบาท          
  • บมจ. เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี หรือ PSTC (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 25 ตุลาคม 2565) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 9 จำนวน 37,845,000 หุ้น หรือ 1.60% (คำนวณราคาปิด ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2565 ที่ 1.60 บาท) เท่ากับมีมูลค่า 60.55 ล้านบาท
  • บมจ.มิลล์คอน สตีล หรือ MILL (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 10 พฤษภาคม 2565) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 10 จำนวน 48,539,240 หุ้น หรือ 1.05% (คำนวณราคาปิด ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2565 ที่ 0.77 บาท) เท่ากับมีมูลค่า 37.37 ล้านบาท      

 

3.นายนาฑี โอสถานุเคราะห์ หรือ ไฮโซนาฑี เป็นทายาทรุ่นที่ 5 ของตระกูลโอสถานุเคราะห์ ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของนายรัตน์ โอสถานุเคราะห์ ปัจจุบันแต่งงานกับไฮโซ อิงฟ้า ดำรงชัยธรรม ลูกสาว อากู๋ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม เมื่อปลายปีที่แล้ว และเป็น มือกีตาร์วง Getsunova ด้วย

ปัจจุบันไฮโซนาฑี ถือหุ้น 1 หลักทรัพย์ มูลค่า 2,047.32 ล้านบาท 

  • บมจ.โอสถสภา หรือ OSP (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2565) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 10 จำนวน 75,131,350 หุ้น หรือ 2.50% (คำนวณราคาปิด ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2565 ที่ 27.25 บาท) เท่ากับมีมูลค่า 2,047.32 ล้านบาท

 

4.นายปิติ ภิรมย์ภักดี หรือ ไฮโซต๊อด ทายาทรุ่นที่ 4 ของตระกูลภิรมย์ภักดี ผู้ผลิตเบียร์รายแรกของประเทศไทย เป็นบุตรของนายสันติ และนางอรุณี ภิรมย์ภักดี ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดซัพพลายเชน จำกัด และเป็นสามีนางเอกสาวสวย นุ่น วรนุช ภิรมย์ภักดี

ปัจจุบันไฮโซต๊อด ถือหุ้น 1 หลักทรัพย์ มูลค่า 410.41 ล้านบาท

  • บมจ. สิงห์ เอสเตท หรือ S (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 14 มีนาคม 2565) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 7 จำนวน 225,501,200 หุ้น หรือ 3.29% (คำนวณราคาปิด ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2565 ที่ 1.82 บาท) เท่ากับมีมูลค่า 410.41 ล้านบาท

 

5.นายศิณะ อุ่นทรพันธุ์ หรือ ไฮโซต๊อด ลูกชายคนโตนายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี (AIT) ธุรกิจหลายพันล้านบาทที่เกี่ยวข้องกับออกแบบและรับเหมาวางระบบ และเป็นหวานใจของสาว พีค - ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยคบหากับ อั้ม - พัชราภา ไชยเชื้อ

ปัจจุบันไฮโซต๊อด ถือหุ้น 1 หลักทรัพย์ มูลค่า 222.74 ล้านบาท

  • บมจ. แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี หรือ AIT (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2565) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 6 จำนวน 34,007,200 หุ้น หรือ 3.30% (คำนวณราคาปิด ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2565 ที่ 6.55 บาท) เท่ากับมีมูลค่า 222.74 ล้านบาท

 

6.นายกรกฤช จุฬางกูร หรือ ไฮโซกร ทายาทแสนล้าน ของคุณสรรเสริญ และคุณหทัยรัตน์ จุฬางกูร ผู้ก่อตั้งกลุ่มซัมมิท คอร์ปอเรชั่น ปัจจุบันเป็น ประธานบริหาร บริษัท ซัมมิท โอโต บอดี้ ดินดัสตรี จำกัด และเป็นสามีนางเอกสาว บี มาติกา

ปัจจุบันไฮโซกร ถือหุ้น 1 หลักทรัพย์ มูลค่า 55.60  ล้านบาท

  • บมจ. ไทยสตีลเคเบิล หรือ TSC (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 7 ธันวาคม 2565) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 10 จำนวน 4,000,000 หุ้น หรือ 1.54% (คำนวณราคาปิด ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2565 ที่ 13.90 บาท) เท่ากับมีมูลค่า 55.60 ล้านบาท

 

7.นายภูผา เตชะณรงค์ หรือ ไฮโซภูผา ทายาทโบนันซ่า เขาใหญ่ และเป็นกรรมการบอร์ดบริหาร บมจ. SOLAR ปัจจุบันคบหากับนางเอกช่องสาม มิ้นต์ ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง

ปัจจุบันไฮโซภูผา ถือหุ้น 1 หลักทรัพย์ มูลค่า 25.79 ล้านบาท

  • บริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) หรือ SOLAR (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 2565) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 จำนวน 29,997,132 หุ้น หรือ 2.76% (คำนวณราคาปิด ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2565 ที่ 0.86 บาท) เท่ากับมีมูลค่า 25.79 ล้านบาท

 

8.นายดิฐวัฒน์ อิสสระ หรือ ไฮโซปลาทู ทายาทคนโตของนายสงกรานต์ กับนางศรีวรา อิสสระ เจ้าพ่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆ ของเมืองไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีพันวา แมเนจเมนท์ จำกัด เจ้าของอาณาจักร “ศรีพันวา” โรงแรมหรูสไตล์พูลวิลล่าระดับ 5 ดาว และเป็น กรรมการผู้จัดการ บริษัท ร่วมอิสสระ จำกัด

ปัจจุบันไฮโซปลาทู ถือหุ้น 1 หลักทรัพย์ มูลค่า 15.27 ล้านบาท

  • บมจ.ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CI (ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 9 พฤษภาคม 2565) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 8 จำนวน 19,584,454 หุ้น หรือ 1.84% (คำนวณราคาปิด ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2565 ที่ 0.78 บาท) เท่ากับมีมูลค่า 15.27 ล้านบาท

  เปิดพอร์ต ‘8 ไฮโซหนุ่มดัง’ แห่งปี 2565 รวยหุ้น หลักหลายพันล้าน