กูรูเตือน "ซานต้า แรลลี่" อาจไม่มาตามนัด หาก CPI พุ่งเกินคาด

กูรูเตือน "ซานต้า แรลลี่" อาจไม่มาตามนัด หาก CPI พุ่งเกินคาด

นายคริส ซาร์คาเรลลี หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุนของบริษัท Independent Advisor Alliance กล่าวว่า ปรากฎการณ์ "ซานต้า แรลลี่" ในปีนี้จะขึ้นอยู่กับตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันที่ 13 ธ.ค.

"มีแนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมสัปดาห์หน้า แต่แนวโน้มการเกิด 'ซานต้า แรลลี่' จะขึ้นอยู่กับว่าตัวเลข CPI จะออกมาต่ำกว่าคาดหรือไม่" นายซาร์คาเรลลีกล่าว

ทั้งนี้ ปรากฎการณ์ "ซานต้า แรลลี่" มักเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยมีขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมทั้ง 2 วันแรกของปีใหม่

จากการรวบรวมสถิติการปรับตัวของตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วง 7 วันของซานต้า แรลลี่ พบว่า ดัชนีดาวโจนส์สามารถปิดตลาดในแดนบวกถึง 78% นับตั้งแต่ปี 2471

ด้านแบงก์ ออฟ อเมริกา เปิดเผยว่า สถิติในอดีตบ่งชี้ว่า เดือนธ.ค.เป็นเดือนที่ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นร้อนแรงมากที่สุดของปี

ข้อมูลระบุว่า ดัชนีเอสแอนด์พี 500 พุ่งขึ้นเฉลี่ย 2.3% ในเดือนธ.ค.นับตั้งแต่ปี 2479 และดัชนีปรับตัวเป็นบวกในเดือนธ.ค.คิดเป็นสัดส่วน 79% นับตั้งแต่ปีดังกล่าว

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันนี้สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ ดัชนี PPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 7.4% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.2%

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PPI ทั่วไปดีดตัว 0.3% ในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2%

ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 6.2% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.9%

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PPI พื้นฐานดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2%